|
นักธุรกิจภูมิภาคเริงร่าหลัง"ยุบพรรค"ศก.ดีขึ้น
ผู้จัดการรายวัน(1 มิถุนายน 2550)
กลับสู่หน้าหลัก
เอกชนทุกภาคมั่นใจหลังคดียุบพรรคจะทำให้เศรษฐกิจดีขึ้น ภาคใต้เรียกร้องให้จัดการเลือกตั้งพร้อมตั้งรัฐบาลใหม่โดยเร็วเพื่อทำให้การเมืองนิ่ง หวังสร้างความมั่นใจให้นักลงทุนเข้ามาลงทุนมากขึ้น นักธุรกิจในพื้นที่ภาคตะวันออก เชื่อคำตัดสินของตุลาการรัฐธรรมนูญจะเรียกความเชื่อมั่นทางการลงทุนต่างชาติให้กลับมาดีขึ้นบ้าง แม้จะไม่ดีที่สุดเท่าช่วงที่ผ่านมา ด้านนักธุรกิจอีกสานยังกังวลท่าที ทรท.อาจเคลื่อนไหวในพื้นที่อีสาน ซ้ำเติมเศรษฐกิจ การเมืองระยะสั้น
ภายหลังจากที่คณะตุลาการรัฐธรรมนูญวินิจฉัยคดียุบพรรคการเมือง โดยวินิจฉัยไม่ยุบพรรคประชาธิปัตย์ และวินิจฉัยให้ยุบพรรคพรรคไทยรักไทยเมื่อคืนวันที่ 30 พ.ค.ที่ผ่านมา ภาคเอกชนในพื้นที่ภาคใต้ตอนบนต่างเรียกร้องให้มีการจัดการเลือกตั้งโดยเร็วที่สุดเพื่อให้การเมืองนิ่ง และสร้างความมั่นใจให้กับนักลงทุนในการเข้ามาลงทุน ซึ่งจะส่งผลให้เศรษฐกิจโดยร่วมของประเทศดีขึ้น
เอกชนใต้ตอนบนจี้เร่งจัดเลือกตั้ง
โดยนายชวนะ เกียรติชวนะเสวี รองประธานหอการค้าจังหวัดภูเก็ต กล่าวถึงเรื่องนี้ว่า หลังจากนี้อยากให้รัฐบาลดำเนินการรัฐธรรมนูญฉบับใหม่ให้เสร็จสิ้นโดยเร็วที่สุด เพื่อที่จะนำไปสู่การเลือกตั้งในระบอบประชาธิปไตยโดยเร็ว โดยเชื่อว่าภายหลังจากการตัดสินของคณะตุลาการรัฐธรรมนูญเศรษฐกิจของประเทศจะดีขึ้นอย่างแน่นอนในไตรมาสที่ 3 และไตรมาสที่ 4 ของปีนี้ ร่วมมทั้งการเติบโตทางเศรษฐกิจของประเทศที่ทางธนาคารแห่งประเทศไทยประเมินไว้ว่าเติบโตร้อยละ 3 น่าที่จะเติบโตสูงกว่าร้อยละ 4 อย่างแน่นอนและเชื่อว่าการซื้อขายในตลาดหลักทรัพย์ในวันนี้ก็จะดีเช่นกัน
"จากการที่ได้พูดคุยกับนักลงทุนชาวต่างชาติ นักลงทุนต้องการให้การเมืองของไทยนิ่งมากกว่าที่เป็นอยู่ในปัจจุบัน ซึ่งผมเชื่อว่าหลังจากนี้นักลงทุนจะเข้ามาลงทุนมากขึ้น ซึ่งจะส่งผลดีต่อเศรษฐกิจของประเทศต่อไป"
ขณะที่นายสมชาย ตันติเพชรชราพร ประธานหอการค้าจังหวัดพังงา กล่าวว่า ถึงแม้ว่าทางคณะตุลาการรัฐธรรมนูญจะวินิจฉัยคดียุบพรรคสิ้นสุดไปแล้ว แต่ตนคิดว่าการเมืองยังไม่นิ่งจนกว่าจะมีการจัดการเลือกตั้งและมีรัฐบาลชุดใหม่ขึ้นมา เพราะถึงวันนี้ยังไม่แน่ใจว่าจะมีการเคลื่อนไหวอะไรทางการเมืองเกิดขึ้นบ้าง ซึ่งทางที่ดีที่สุดที่จะให้การเมืองนิ่งที่สุดคือการจัดการเลือกตั้งโดยเร็วที่สุดและให้มีรัฐบาลชุดใหม่โดยเร็วที่สุด
นางสุดาพร ยอดพินิจ ประธานหอการค้าจังหวัดระนอง กล่าวว่า ถ้ารัฐบาลชุดปัจจุบันจัดให้มีการเลือกตั้งเป็นไปตามที่กำหนดไว้ นักลงทุนทั้งชาวไทยและต่างประเทศก็จะมีความมั่นใจมากยิ่งขึ้น สามารถตั้งหลักได้ รู้ทิศทางในอนาคต ผลการพิพากษาคดียุบพรรคการเมืองที่ออกมาน่าจะเป็นผลดีมากกว่าผลเสีย ถือเป็นนิมิตหมายที่ดีต่อระบบการเมืองและเศรษฐกิจโดยรวม โดยส่วนตัวแล้วเชื่อว่าการเปลี่ยนแปลงดังกล่าวจะทำให้นักลงทุนวางแผนทำธุรกิจได้อย่างมั่นใจมากขึ้น ทำให้เศรษฐกิจขยายตัวต่อไป
นายวัฒนา ธนาศักดิ์เจริญ ประธานคณะกรรมการบริหารหอการค้าจังหวัดกระบี่ เชื่อว่าหลังจากนี้ความชัดเจนทางด้านการเมืองคงจะดีขึ้นตามลำดับ นักลงทุนมีความมั่นใจมากขึ้น เพราะหลายคนเชื่อว่าในปลายปีนี้ก็คงจะมีการเลือกตั้งใหม่ตามที่ทางรัฐบาลได้สัญญาไว้อย่างแน่นอน หลังจากที่ทางตุลาการศาลรัฐธรรมนูญ ได้สั่งยุบพรรคการเมือง ไปแล้วก็ไม่ได้มีกลุ่มต่อต้านออกมาเคลื่อนไหวรุนแรงเหมือนอย่างที่ทุกคนเป็นห่วงก่อนหน้านี้ก็จะทำให้สถานการณ์ไม่เลวร้ายอย่างที่คิด ทุกคนเริ่มมองเห็นทางสว่าง ที่จะเดินไปข้างหน้า ทั้งด้านการเมืองและการลงทุนน่าจะดีขึ้น
สร้างความเชื่อมั่นให้นักลงทุน ตอ.
นายสุรศักดิ์ เอื้อจงประเสริฐ ผู้จัดการธนาคารกรุงเทพ จำกัด (มหาชน) สาขาศรีราชา ให้ความเห็นว่า ย่อมสามารถเรียกความเชื่อมั่นของนักลงทุนต่างชาติที่เข้ามาขอส่งเสริมการลงทุนในพื้นที่ภาคตะวันออก ซึ่งก่อนหน้านี้ตกลงไปหลังเกิดการทำรัฐประหารให้กลับมากระเตื้องได้บ้างแม้จะไม่ดีที่สุดเหมือนหลายปีก่อน แต่ก็ทำให้บรรยากาศการลงทุนในพื้นที่มีแนวโน้มที่สดใสขึ้น เห็นได้จากมูลค่าการลงทุนในตลาดหลักทรัพย์วานนี้ที่กลับเป็นบวก เช่นเดียวกับแนวโน้มการปล่อยสินเชื่อเพื่อการลงทุนโดยเฉพาะโครงการลงทุนขนาดใหญ่ทั้งใน จ.ชลบุรี และภาคตะวันออก ที่แบงก์พาณิชย์จะมีความเชื่อมั่นและกล้าปล่อยเงินกู้ให้กับโครงการอสังหาริมทรัพย์มากขึ้น
"ภาคการลงทุนในพื้นที่ภาคตะวันออกตกลงไปตั้งแต่มีการยึดอำนาจการปกครอง ซ้ำยังมาเจอเรื่องค่าเงินบาทและสถานการณ์ทางการเมืองยิ่งทำให้ภาวะการลงุทนในพื้นที่ดร็อปลงไปอย่างเห็นได้ชัด ดังนั้นเมื่อคำตัดสินของตุลาการศาลรัฐธรรมนูญออกมาเป็นเช่นนี้ ก็เชื่อว่าความเชื่อมั่นทางการลงทุนจะกลับมาอย่างแน่นอนแม้จะไม่มากดั่งเช่นในอดีตก็ตาม" นายสุรศักดิ์กล่าว
หวั่น ทรท.เคลื่อนไหวซ้ำเติม ศก.
ด้านนายชวลิต องควานิช ประธานหอการค้าจังหวัดอุบลราชธานี กล่าวว่า เมื่อการเมืองมีความชัดเจนทุกคนควรยอมรับผลการตัดสินของศาล เพราะที่ผ่านมาเมื่อการเมืองยังไม่นิ่ง ทำให้ภาวการณ์ลงทุนในไตรมาส 1 และ 2 เกิดชะงักงันจนต้องปรับลดอัตราการเจริญเติบโตทางเศรษฐกิจจาก 4.8 เหลือเพียงแค่ 4 หรืออาจต่ำกว่า 4 หากการเมืองกลับมาวุ่นวายอีก เพราะผู้ประกอบการ นักลงทุน และผู้บริโภคไม่มีความชัดเจนก็ไม่กล้าใช้จ่ายเงิน
"หากมีการเลือกตั้งเร็วมากเท่าไหร่ก็จะส่งผลดีต่อการลงทุน เพราะการเมืองมีความชัดเจนยิ่งขึ้น ทำให้ผู้ประกอบการ นักลงทุน และประชาชนกล้าใช้จ่าย ส่วนในไตรมาศที่ 3 อยากให้รัฐบาลเร่งเบิกจ่ายเงินงบประมาณเพื่อให้มีเม็ดเงินไหลเวียนในตลาด เพราะขณะนี้มีเม็ดเงินในตลาดน้อย เลยทำให้สภาพเศรษฐกิจยังซึมอยู่ รัฐบาลจึงต้องเร่งใช้จ่าย เพื่อกระตุ้นการใช้จ่ายในประเทศ"
นายสถาพร มงคลศรีสวัสดิ์ ประธานหอการค้าจังหวัดร้อยเอ็ด ในฐานะประธานหอการค้ากลุ่มจังหวัดร้อยแก่นสาร กล่าวว่า การตัดสินยุบพรรคการเมืองเป็นจุดเปลี่ยนผ่านการเมืองที่สำคัญ แต่ยังมีปัจจัยที่ต้องจับตาคือ ท่าทีของรักษาการหัวหน้าพรรคไทยรักไทย ที่ไม่เห็นด้วยกับการตัดสินทางการเมืองกรรมการบริหารพรรค ประกาศจะต่อสู้ในทางการเมืองถึงที่สุดและร่างรัฐธรรมนูญปี 2550 จะผ่านหรือไม่
"มุมมองนักธุรกิจในพื้นที่ภาคอีสาน ค่อนข้างกังวลต่อปัจจัยดังกล่าว เนื่องจากพรรคไทยรักไทย เป็นพรรคการเมืองใหญ่ มีฐานคะแนนเสียงที่เข้มแข็งในภาคอีสาน เกรงว่าจะเกิดกระแสการเคลื่อนไหวของประชาชนในพื้นที่ซ้ำเติมสถานการณ์ความไม่สงบการเมืองรุนแรง กระทบกับความเชื่อมั่นนักลงทุนต่างประเทศ และนักธุรกิจในพื้นที่ ชะลอการลงทุน รวมถึงภาคประชาชนไม่กล้าบริโภค ระมัดระวังการใช้จ่าย"
นายสถาพร กล่าวต่อว่า จากปัจจัยดังกล่าวเชื่อได้ว่า ภาพรวมเศรษฐกิจระยะสั้นยังอยู่ในช่วงขาลง เพราะไม่มีสัญญาณที่ดี ที่จะสร้างความเชื่อมั่นให้ประชาชนทั่วไปเกิดความต้องการบริโภค และสร้างความเชื่อมั่นกับนักลงทุนต่างประเทศเข้ามาลงทุนได้ จนกว่าจะเกิดการลงมติผ่านร่างรัฐธรรมนูญปี 2550 และจัดการเลือกตั้งผ่านพ้นไปแล้ว จึงจะทำให้สถานการณ์การเมืองคลี่คลาย ทำให้ภาวะเศรษฐกิจโดยรวมและในพื้นที่ภาคอีสานฟื้นตัว
นายพิเชษฐ์ ตันเทอดทิตย์ กรรมการหอการค้าจังหวัดหนองคาย กล่าวว่า เมื่อมีการตัดสินคดียุบพรรคเสร็จสิ้นแล้วจะทำให้ทุกอย่างเกิดความชัดเจนขึ้น นักธุรกิจ นักลงทุน โดยเฉพาะนักลงทุนต่างประเทศก็จะได้ตัดสินใจว่าจะก้าวเข้ามาลงทุนในประเทศไทยกับธุรกิจประเภทใด อีกทั้งจะทำให้การค้าการลงทุน ภาพรวมเศรษฐกิจของประเทศได้เริ่มต้นกันใหม่ เหมือนกับเป็นการกระตุ้นเศรษฐกิจกันอีกครั้ง หลังจากที่หยุดชะงักไปหลายเดือน เพราะนักธุรกิจยังคงมีความลังเล
กลับสู่หน้าหลัก
ผลงานนี้ ใช้สัญญาอนุญาตของครีเอทีฟคอมมอนส์แบบ แสดงที่มา-ไม่ใช้เพื่อการค้า-ไม่ดัดแปลง 3.0 ประเทศไทย
(cc) 2008 ASTVmanager Co., Ltd. Some Rights Reserved.
|