SATคงเป้ารายได้ปีนี้โต10%หลังออเดอร์ในประเทศเพิ่ม


ผู้จัดการรายวัน(30 พฤษภาคม 2550)



กลับสู่หน้าหลัก

สมบูรณ์แอ็ดวานซ์ฯ ลุ้นปิดดีลพันธมิตรญี่ปุ่น ยันยังไม่มีความจำเป็นที่จะต้องเพิ่มทุน ขณะที่แผนการขายบริษัทลูก "ซึชิโยชิฯ" ระบุไม่มียกเลิก รอสรุปราคากับผู้ซื้อ ขณะที่เป้ารายได้ในปีนี้ยังมั่นใจเติบโต 10% เพราะได้ลูกค้าในประเทศเพิ่ม แม้สถานการณ์ทางการเมืองกระทบยอดการผลิตรถยนต์

นายวรพจน์ ฉัตรชัยกุลศิริ รองกรรมการผู้อำนวยการ สายงานการ เงินและบัญชี บริษัท สมบูรณ์แอ็ดวานซ์เทคโนโลยี จำกัด (มหาชน) หรือ SAT เปิดเผยว่า ความคืบหน้าในเรื่องการหาพันธมิตรเข้ามาเสริมธุรกิจของบริษัทอีก 2 บริษัทนั้น ในส่วนของพันธมิตรบริษัทจากประเทศญี่ปุ่น ขณะนี้กำลังอยู่ระหว่างการเจรจาหาข้อสรุปเพิ่มเติมซึ่งทำให้ภายในปีนี้ บริษัทจะไม่มีการเพิ่มทุน ขณะที่อีก 1 บริษัทไม่สามารถตกลงในรายละเอียด กันได้ทำให้ต้องยกเลิกการเจรจาออกไป

ในส่วนบริษัทมีแผนในการขายบริษัทลูกหลังจากก่อนหน้าบริษัท มีการขายบริษัทลูกออกมา โดยบริษัทมีแผนจะขาย บริษัท ซึชิโยชิ สมบูรณ์ โคเตท แซนด์ จำกัด ซึ่งเป็นบริษัทร่วมทุนกับประเทศญี่ปุ่น แต่ปัจจุบันยังไม่สามารถตกลงราคากับบริษัทผู้ซื้อ ซึ่งน่าจะทำให้ไม่สามารถขายหุ้นได้ภายในปีนี้ แต่อย่างไรก็ตามยืนยันว่าจะไม่มีการล้มเลิกแผนการแน่นอน

ทั้งนี้ บริษัทตั้งเป้าผลประกอบการทั้งปีของ SAT รายได้น่าจะเพิ่มขึ้นประมาณ 10% ซึ่งจะทำให้รายได้อยู่ที่ประมาณ 4,600 ล้านบาท จากปีก่อนที่บริษัทมีรายได้รวม 4,250 ล้านบาท แม้ว่ายอดจำหน่ายรถยนต์ในประเทศจะลดลง เนื่องจากอุตสาหกรรมการผลิตรถยนต์เพื่อส่งออกน่าจะเติบโต จากการที่ผู้ประกอบรถยนต์มีการส่งออกรถยนต์มากขึ้น ประกอบกับบริษัทได้ลูกค้าในประเทศรายใหม่ ซึ่งน่าจะทำให้รายได้ของบริษัทเพิ่มขึ้นประมาณ 200-300 ล้านบาท

"ผลประกอบการในไตรมาส 2/50 คาดการณ์ว่าจะใกล้เคียงจากไตรมาส 1/50 ที่บริษัทมีรายได้รวมทั้งหมด 1,177 ล้านบาท แม้ว่าในเดือนเมษายน จะเป็นช่วงตกต่ำของอุตสาหกรรม แต่ในช่วงเดือนพฤษภาคมและมิถุนายน รายได้ของบริษัทจะเพิ่มสูงขึ้นทดแทนส่วนที่หายไปได้ ส่วนอัตรากำไรขั้นต้นของปีนี้ไม่น่าจะลดลงจากปีก่อน โดยบริษัทจะพยายามรักษาอัตรากำไรขั้นต้นและกำไรสุทธิทั้งปีอยู่ที่ระดับ 20% และ 10% ขึ้นไป ตามลำดับซึ่งเป็นระดับที่ใกล้เคียงกับปีก่อน" นายวรพจน์กล่าว

ด้านภาพรวมของอุตสาหกรรมผลิตรถยนต์ในปีนี้ จากเดิมที่เคยมีการประเมินว่าในปีนี้ยอดผลิตรถยนต์ในประเทศประมาณ 1.28 ล้านคัน แต่จากการประเมินของบริษัทล่าสุดคาดว่ายอดผลิตรถยนต์ในประเทศปีนี้น่าจะอยู่ในจำนวนเพียง 1.2 ล้านคันเท่านั้นเนื่องจากได้รับผลกระทบจากสถานการณ์ความไม่สงบในประเทศ ขณะที่การผลิตเพื่อการส่งออกน่าจะเพิ่มขึ้นประมาณ 11%

"แม้ว่าในปีนี้สถานการณ์ทางการเมืองจะส่งผลกระทบต่อภาพรวมอุตสาหกรรม แต่หลังจากนี้ในช่วงไตรมาส 4 ถ้าสถานการณ์ทางการเมืองนิ่งขึ้น ผลประกอบการน่าจะเพิ่มขึ้นสูงตาม แต่ก็ขึ้นอยู่กับความชัดเจน ของนโยบายทางการเงินของภาครัฐด้วย โดยคิดว่ายังไม่ส่งผลกระทบต่อ บริษัทเนื่องจากบริษัทมีออเดอร์ที่แน่นอน และยังมีออเดอร์ใหม่ในปีนี้ด้วย เราจึงมั่นใจว่ารายได้จะเติบโตได้ 10%" นายวรพจน์กล่าว

สำหรับผลประกอบการในไตรมาส 1 ที่ผ่านมานั้น บริษัทสมบูรณ์แอ็ดวานซ์เทคโนโลยีมีรายได้ทั้งสิ้น 1,177 ล้านบาท โดยมีกำไรสุทธิทั้งสิ้น 133 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากช่วงเดียวกันของปีก่อน 37%


กลับสู่หน้าหลัก

Creative Commons License
ผลงานนี้ ใช้สัญญาอนุญาตของครีเอทีฟคอมมอนส์แบบ แสดงที่มา-ไม่ใช้เพื่อการค้า-ไม่ดัดแปลง 3.0 ประเทศไทย



(cc) 2008 ASTVmanager Co., Ltd. Some Rights Reserved.