“สมิติเวช”เปิดแผน3ปีเท2พันล.เพิ่มเครือข่าย-ฐานคนไข้ต่างชาติ


ผู้จัดการรายวัน(30 พฤษภาคม 2550)



กลับสู่หน้าหลัก

โรงพยาบาลสมิติเวช ระบุแผน 3 ปี ลงทุน 2 พันล้านบาท ลุยขยายเครือข่าย ทั้งแบบคลินิกและหน่วยบริการทางการแพทย์ พร้อมปรับปรุงใหญ่สมิติเวชศรีราชา รองรับตลาดคนต่างชาติ หวังขยับฐานต่างชาติสู่ 50% มั่นใจปีนี้เติบโต 20% สู่ 3.5 พันล้านบาท

นายเรมอนด์ ฌอง กรรมการผู้จัดการและประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท สมิติเวช จำกัด (มหาชน) ผู้บริหารโรงพยาบาล สมิติเวช เปิดเผยถึงแผนการลงทุนภายในระยะเวลา 3 ปี นับจากนี้ ว่า เตรียมใช้งบประมาณกว่า 2 พันล้านบาท เพื่อใช้ในการลงทุนและการทำตลาดมากขึ้น โดยงบประมาณดังกล่าวจะถูกจัดสรรและทยอยใช้ทีละส่วน เบื้องต้นในปี 2550-2551 เตรียมเปิดคลินิกเพิ่มอีก 5 แห่งโดยจะใช้งบการเปิด 10 ล้านบาทต่อสาขา จากเดิมที่มีสาขาเปิดต้นปี 2 แห่ง ที่ชลบุรี และ รัตนาธิเบศร์

ทั้งนี้นอกจากการขยายคลินิกแล้ว ยังเตรียมขยายหน่วยบริการทางการแพทย์ เข้าในสำนักงาน โดยการขยายจะเป็นรูปแบบ ร่วมกับพาร์ทเนอร์ต่างๆ ซึ่งได้มีการติดต่อ 2 แห่งแล้ว โดยทางโรงพยาบาลจะนำแพทย์และเครื่องมือไปให้บริการ ส่วนพาร์ทเนอร์จะเป็นผู้หาสถานที่เท่านั้น

ปัจจุบันหน่วยบริการทางการแพทย์ในสำนักงาน มีอยู่แล้วกว่า 12 แห่ง ส่วนหนึ่งที่โรงพยาบาลมีแนวความคิดเปิดบริการดังกล่าวนั้นมีมา 2-3 ปี แล้ว ซึ่งผู้ที่เข้ามารักษาจะเป็นกลุ่มคนในองค์กรนั้นๆหลักการในการเปิดก็เพื่อเป็นการต่อยอดถึงการรักษาเข้าในโรงพยาบาล และเชื่อว่าจะเป็นการสร้างรอยัลตี้ต่อแบรนด์ได้เป็นอย่างดี

ส่วนที่เหลืออีก 1 พันล้านบาท จะนำมาใช้ปรับปรุงขยายโรงพยาบาลสาขาศรีราชา จังหวัดชลบุรี งบประมาณที่จะใช้ถูกแบ่งออกเป็นการเพิ่มจำนวนเตียงอีก 60 เตียงจากเดิมที่มีอยู่ 140 เตียง พร้อมทั้งการเพิ่มพื้นที่จอดรถให้จุได้เป็น 200 คัน ซึ่งจากแผนการปรับปรุงจะทำให้สาขานี้ สามารถรองรับผู้ป่วยในและนอก เข้ามาใช้บริการได้ถึง 1,500 คน จากที่ในปัจจุบันรองรับได้ 800 คน

สำหรับสาเหตุที่ทำให้ต้องให้ความสำคัญต่อสาขานี้เป็นพิเศษ เนื่องจากเป็นสาขาที่มีกลุ่มนักท่องเที่ยวที่เข้ามาใช้บริการมาก อีกทั้งความพร้อมต่อการรองรับลูกค้ายังไม่มากพอ ดังนั้นการขยายและปรับปรุงเชื่อว่าจะสามารถสอดรับความต้องการของลูกค้าได้เป็นอย่างดี ทั้งนี้จากเป้าหมายในการขยายก็ตรงกับแผนของโรงพยาบาลว่าต้องการขยายกลุ่มลูกค้าชาวต่างชาติให้เข้ามาใช้บริการเพิ่มเติม ซึ่งเมื่อดูตัวเลขการเติบโตใน ในช่วงสามปีที่ผ่านมาอัตราการโตถึง 150% เป็นตัวเลขที่น่าสนใจ แต่ในปัจจุบันสัดส่วนยอดรายได้จากชาวต่างชาติยังน้อยอยู่มีเพียง 35% อีก 65% เป็นคนไทย

ทั้งนี้นอกจากการขยายสาขาทั้งคลินิกและหน่วยบริการทางการแพทย์ในสำนักงาน เชื่อว่าจะเป็นการสร้างการรับรู้ ในการรักษารวมทั้งการสื่อให้ลูกค้าได้เห็นถึงกระบวนการรักษาว่ามีศักยภาพเพียงใด ต่อจากการการันตีในความสำเร็จเมื่อช่วงเดือนมกราคม 2550 ที่ผ่านมา ซึ่งทางโรงพยาบาลได้รับประกาศนียบัตรรับรองให้เป็นโรงพยาบาลคุณภาพในระดับสากลจาก Joint Commission International (JCI) ซึ่งเป็นองค์กรที่ทำหน้าที่พัฒนาด้านคุณภาพและความปลอดภัยในการบริการด้านสุขภาพและการแพทย์ทั่วโลกมากกว่า 75 ปี

นอกจากนี้ทางโรงพยาบาลยังเตรียมการลงทุนนวัตกรรมใหม่มาเสริมศักยภาพอีก ล่าสุดนำเทคโนโลยีผ่าตัดผ่านกล้อง ซึ่งเป็นการผ่าที่เจ็บตัวน้อยที่สุด อาทิ การผ่าตัดกระดูกสันหลังหรือข้อ โดยใช้ร่วมกับระบบคอมพิวเตอร์ มาเสริมการรักษาอีกด้วย

จากการปรับปรุงและแผนต่างๆที่เกิดขึ้น จะทำให้โรงพยาบาลสมิติเวช มีความสมบูรณ์ในการรักษา รวมทั้งเชื่อว่าน่าจะปรับเปลี่ยนสัดส่วนลูกค้าชาวต่างชาติเพิ่มได้เป็น 50% - คนไทย 50% ได้ในช่วงระยะเวลา 3-5 ปีได้ไม่ยาก และมั่นใจว่าจะส่งผลต่อการเติบโตในภาพรวมอยู่ที่ 15 -20% จากปีที่ผ่านมา คิดเป็นรายได้ประมาณ 3,500 ล้านบาท


กลับสู่หน้าหลัก

Creative Commons License
ผลงานนี้ ใช้สัญญาอนุญาตของครีเอทีฟคอมมอนส์แบบ แสดงที่มา-ไม่ใช้เพื่อการค้า-ไม่ดัดแปลง 3.0 ประเทศไทย



(cc) 2008 ASTVmanager Co., Ltd. Some Rights Reserved.