TMBฟุ้งต่างชาติสนใจร่วมทุน


ผู้จัดการรายวัน(29 พฤษภาคม 2550)



กลับสู่หน้าหลัก

เอ็มดีแบงก์ทหารไทยยันพร้อมเสนอแผนการเงินเพื่อให้กระทรวงการคลังพิจารณาเพิ่มทุนได้ในมิ.ย.นี้ หลังถูกตีกลับให้ทบทวนในเรื่องบริหารความเสี่ยงและการส่งเสริมธุรกิจ ฟุ้งมีกองทุน-สถาบันการเงินหลายรายสนใจเข้ามาร่ว แต่ยังไม่มีการสรุปราคาหุ้นเพิ่มทุน

นายสุภัค ศิวะรักษ์ กรรมการผู้จัดการใหญ่และประธานเจ้าหน้าที่บริหาร ธนาคารทหารไทย จำกัด (มหาชน)(TMB)เปิดเผยว่า ธนาคารคาดว่าจะสามารถเสนอแผนการเงินไปยังกระทรวงการคลังเพื่อพิจารณาได้ในเดือนมิถุนายนนี้ หลังจากที่กระทรวงการคลังได้ส่งแผนกลับมาให้ธนาคารทบทวนอีกครั้งหนึ่ง โดยเฉพาะในประเด็นของการบริหารความเสี่ยงและการส่งเสริมธุรกิจต่างๆ

"กระทรวงการคลังในฐานะผู้ถือหุ้นใหญ่ไม่ได้มีความกังวลใดๆกับแผนการเงินธนาคาร และหากจะเข้ามาช่วยหุ้นเพิ่มทุนของธนาคารในครั้งนี้ซึ่งถือว่าเป็นครั้งที่ 3 จึงจำเป็นที่จะต้องดูรายละเอียดและรอบคอบให้มาก เนื่องจากผู้ถือหุ้นมีข้อสงสัยเข้ามาอย่างมาก แต่ขณะนี้ก็ยังไม่มีข้อสรุปใดๆออกมา”นายสุภัคกล่าว

อย่างไรก็ตาม ขณะนี้มีกองทุนและสถาบันการเงินจากต่างประเทศให้ความสนใจมายังธนาคารหลายราย เนื่องจากต้องการที่จะร่วมทุนกับธนาคาร โดยเล็งเห็นว่าหลังจากการเพิ่มทุนแล้วอนาคตของธนาคารน่าจะดีขึ้น ทั้งนี้ หลังการเพิ่มทุน พันธมิตรต่างชาติที่จะเข้ามาถือหุ้นในธนาคารอาจมีมากกว่า 1 ราย จากเดิมที่มีธนาคารดีบีเอส สิงคโปร์ถือหุ้นอยู่แล้ว โดยปัจจุบันธนาคารมีสัดส่วนของนักลงทุนต่างชาติ 38% ซึ่งนับรวมดีบีเอสสิงคโปร์ที่ 16% แล้ว ทั้งนี้ ธนาคารยังไม่มีการสรุปราคาหุ้นเพิ่มทุนแต่อย่างใด

นอกจากนี้ กรณีที่มีข่าวว่าธนาคารทหารไทยจะควบรวมกับ ธนาคารไทยธนาคารนั้น นายสุภัคกล่าวว่า ยังไม่เคยได้ยินเรื่องดังกล่าว และมองว่าไม่น่าจะมีความเป็นไปได้ เนื่องจากธนาคารทั้ง 2 แห่ง อยู่ระหว่างการเพิ่มทุน ซึ่งกรณีที่ธนาคารจะควบรวมกันได้น่าจะเกิดประโยชน์ด้วยกันทั้ง 2 ฝ่าย

อย่างไรก็ตาม ภายในสัปดาห์นี้ธนาคารจะประกาศปรับลดอัตราดอกเบี้ยเงินฝากลงอีก 0.50% และอัตราดอกเบี้ยเงินกู้ลงอีก 0.25% ส่งผลให้ดอกเบี้ยเงินกู้ เอ็มแอลอาร์ มาอยู่ที่ 7.25% จากเดิมที่ 7.50% อัตราดอกเบี้ยเงินกู้ เอ็มโออาร์ มาอยู่ที่ 7.75% จากเดิมที่อยู่ที่ 8.00% และ ดอกเบี้ยเงินกู้เอ็มอาร์อาร์ มาอยู่ที่ 7.75% จากเดิมที่อยู่ที่ 8.00%

และล่าสุดธนาคารได้ได้ร่วมกับบริษัท ไออาร์พีซี จำกัด (มหาชน) เปิดบริการด้านบริหารเงินสด (Cash Management) ได้แก่ บริการด้านการออกแบบเช็คอัตโนมัติ โดยธนาคารจะเปิดให้บริการการจ่ายเช็คแก่ลูกค้าของไออาร์พีซีทั้งในเขตกรุงเทพมหานคร และจ.ระยอง บริการจ่ายเงินเดือนพนักงาน บริการรับชำระค่าสินค้าและบริการ และบริการออกเช็คเงินด่วนเพื่อสั่งจ่ายค่าภาษี ค่าอากร ค่าระวาง ซึ่งจะจ่ายให้แก่หน่วยงานของรัฐ และรัฐวิสาหกิจ

ส่วนเหตุการณ์ระเบิดที่เกิดขึ้นที่อ.หาดใหญ่ จ.สงขลา นั้นธนาคารไม่ได้รับความเสียหายแต่อย่างใด แต่มีลูกค้านิติบุคคลของธนาคารได้รับความเสียหาย 1 ราย ซึ่งทางธนาคารได้มีการสอบถามไปยังลูกค้ารายดังกล่าวแล้ว ซึ่งลูกค้าได้รับความเสียหายเพียงเล็กน้อย สำหรับในวันที่ 30 พ.ค. 50 ที่ศาลรัฐธรรมนูญตัดสินให้ยุบพรรคการเมืองนั้น ในฐานะที่เป็นภาคเอกชนรู้สึกเป็นห่วงเรื่องดังกล่าว และหวังว่าสถานการณ์ที่เกิดขึ้นจะสงบเรียบร้อย ทั้งนี้ จะต้องคอยจับตาดูเหตุการณ์ต่างๆที่เกิดขึ้นก่อน ซึ่งหากเหตุการณ์ไม่สงบจะส่งผลกระทบต่อระบบเศรษฐกิจอย่างแน่นอน


กลับสู่หน้าหลัก

Creative Commons License
ผลงานนี้ ใช้สัญญาอนุญาตของครีเอทีฟคอมมอนส์แบบ แสดงที่มา-ไม่ใช้เพื่อการค้า-ไม่ดัดแปลง 3.0 ประเทศไทย



(cc) 2008 ASTVmanager Co., Ltd. Some Rights Reserved.