นายสมประสงค์ บุญยะชัย ประธานกรรมการบริหาร บริษัท แอดวานซ์ อินโฟร์ เซอร์วิส
จำกัด(มหาชน) หรือเอไอเอส เปิดเผยว่าเอไอเอสได้ร่วมมือถือครั้งสำคัญกับไมโครซอฟท์
คอร์ปอเรชั่น เปิดตัวการพัฒนานวัตกรรมใหม่ล่าสุดเป็นครั้งแรกในภูมิภาคเอเชียด้วย
Smartphone Solution 2003 เข้ามาเพื่อตอบสนองความต้องการการสื่อสารตามไลฟ์สไตล์ของผู้ใช้บริการ
ทั้งนี้ความร่วมมือดังกล่าวนับว่าเป็นการผนึกกำลังหรือ Technology Convergence
ครั้งสำคัญ โดยนำเอาศักยภาพที่แข็งแกร่งของสองบริษัทมารวมกัน ด้วยเครือข่ายโทรศัพท์เคลื่อนที่ของเอไอเอสที่ครอบคลุมสูงสุดในประเทศ
รวมทั้ง GPRS ที่สนับสนุนการใช้งานด้านนอนวอยซ์และมัลติมีเดียอย่างสมบูรณ์แบบ และทีมบุคลากรจากฟิวเจอร์แล็ปที่สามารถพัฒนารูปแบบบริการเหมาะสมกับความต้องการของผู้บริโภคคนไทย
เมื่อผนวกกับศักยภาพของไมโครซอฟท์ ซึ่งเป็นผู้นำอันดับหนึ่งด้านซอฟต์แวร์ระดับโลก
ทำให้มีความเชื่อมั่นว่าการให้บริการ Smart Solution ผ่านโทรศัพท์เคลื่อนที่ SMART>>
จากเอไอเอสจะสามารถให้ลูกค้าคนไทยได้ใช้งานอย่างครบถ้วน
“การให้บริการ Smart Solution บนโทรศัพท์เคลื่อนที่ SMART>> ในครั้งนี้นับเป็นการพลิกโฉมวงการครั้งสำคัญ
ถือเป็นจุดเปลี่ยนแปลงของวงการมือถือเมืองไทย ที่พร้อมจะก้าวไปพัฒนาสู่การบริการในอนาคตต่อไป”
ในการให้บริการ Smart Solution จะมีคุณสมบัติเด่นอย่างที่ไม่เคยมีมาในมือถือ ไม่ว่าจะเป็น
Pocket Outlook Pocket Internet Explorer MSN Messenger และ Windows Media Player
เข้าด้วยกันลงบนโทรศัพท์มือถือที่สามารถเลือกแอปพลิเคชั่นต่างๆ ได้ตามต้องการ
นอกจากนี้ยังเป็นโทรศัพท์มือถือที่ให้ภาพสีสันสดใส คมชัด รวดเร็วและเพียบพร้อมไปด้วยแอปพลิเคชั่นต่างๆ
ซึ่งทางเอไอเอสเป็นผู้พัฒนาร่วมกับไมโครซอฟท์ เพื่อรองรับการใช้งานอื่นๆ ของแต่ละกลุ่มลูกค้า
อาทิ การต่อเข้าเว็บอย่างเต็มรูปแบบ รับ-ส่งอีเมลและข้อความสั้นๆ แบบไร้สาย
การเปิดตัวในครั้งนี้เอไอเอสถือเป็นผู้ให้บริการโทรศัพท์จีเอสเอ็มรายแรกในภูมิภาคเอเชียที่ได้นำเอาระบบปฎิบัติการไมโครซอฟท์
Windows Powered Smartphone บนเทคโนโลยี 64 บิต ช่วยเพิ่มความสามารถในการนำเสนอภาพวิดีโอและการนำเสนอข้อมูลในรูปแบบต่างๆ
ของ Windows Mwdia 9 และ SQL 64 บิต Server ผ่านทางเครือข่าย GPRS
รวมทั้งการใช้งานภายใต้โครงสร้างหลักของดอทเน็ต เอไอเอสยังสามารถให้บริการ XML
เว็บเซอร์วิส ได้อย่างเต็มรูปแบบ ทั้งนี้เอไอเอสยังเป็นผู้ให้บริการโทรศัพท์มือถือรายแรกในภูมิภาคเอเชีย
ที่จะเปิดให้บริการ Smartphone Solution 2003 เวอร์ชั่นใหม่ล่าสุด
ด้านนายกฤษณัน งามผาติพงศ์ รองกรรมการผู้อำนวย สายงานการตลาด บริษัท แอดวานซ์
อินโฟร์ เซอร์วิส จำกัด(มหาชน) กล่าวว่าการเปิดตัว Smartphone Solution 2003 ในวันนี้ของเอไอเอสคือการสร้างแพลตฟอร์มใหม่
สำหรับการให้บริการโทรศัพท์ที่ใช้ระบบของไมโครซอฟท์ เนื่องจากการให้บริการสมาร์ทโฟนจะต้องมีความพร้อมด้านการให้บริการของโอเปอเรเตอร์ก่อน
โดยเฉพาะอย่างยิ่งเครือข่าย GPRS
“การเปิดขายเครื่องสมาร์ทโฟนของบริษัทคู่แข่งเพียงอย่างเดียว ลูกค้าที่ซื้อไปใช้จะใช้งานได้เฉพาะบริการเบสิกเท่านั้น
ไม่มีเรื่องของการพัฒนาแอปพลิเคชั่นต่างๆ เข้ามาซัปพอร์ตการให้บริการ ตรงกันข้ามวันนี้เอไอเอสจึงมีความพร้อมทั้งด้านการบริการและเครื่องลูกข่ายที่จะเข้ามาให้บริการลูกค้า”
เอไอเอสได้ลงทุนพัฒนาแพลตฟอร์มเพื่อให้การใช้งานร่วมกับวินโดวส์เกิดประสิทธิภาพมากที่สุด
โดยผู้บริโภคจะเป็นคนตัดสินใจว่าจะเลือกใช้บริการของโอเปอเรเตอร์รายใด เพราะ ณ
ขณะนี้ ระบบของเอไอเอสสามารถที่จะรองรับการให้บริการโทรศัพท์ทุกยี่ห้อที่เป็นสมาร์ทโฟนแล้ว
ซึ่งไม่ได้หยุดเฉพาะการเปิดขายเครื่องลูกข่ายเพียงอย่างเดียว
สำหรับการพัฒนาก้าวต่อไปของเอไอเอส สามารถเพิ่มขยายการบริการใหม่ไปได้อย่างต่อเนื่องจากจุดเริ่มต้นในครั้งนี้
ในขณะที่เครื่องลูกค้าที่ขายออกมีความกำลังความสามารถรองรับการใช้งาน และจะเข้าไปในอุปกรณ์ที่หลากหลายเพิ่มขึ้น
อย่างการใช้งานในปาล์มทังสเตน หรือพีดีเอ
ในส่วนการวางจำหน่ายเครื่องลูกข่ายของเอไอเอส ภายใต้แบรนด์ SMART>> ได้กำหนดการวางจำหน่ายในเดือนพฤษภาคม
2546 นี้ ผ่านทางโมบายฟอร์มแอดวานซ์ ซึ่งจะขายควบคู่กับกล้องถ่ายภาพที่จัดมาให้พร้อมโทรศัพท์มือถือ
ในราคาประมาณสองหมื่นกว่าบาท ทางบริษัทตั้งเป้ายอดขายประมาณ 5,000 เครื่องต่อเดือน
นายเคน ยู ซอว์ ผู้จัดการทั่วไป หน่วยธุรกิจเน็ตเวิร์กเซอร์วิสโพรวายเดอร์ ประจำภูมิภาค
บริษัท ไมโครซอฟท์ กล่าวว่าไมโครซอฟท์เชื่อว่าการเปิดตัวการให้บริการใหม่นี้จะเป็นการพลิกโฉมการให้บริการโทรศัพท์มือถือที่ผ่านมาในประเทศไทย
แพลตฟอร์ของสมาร์ทโฟนจะช่วยให้ผู้ใช้เลือกวิธีในการติดต่อสื่อสาร
“ปัจจัยสำคัญที่ทำให้ไมโครซอฟท์เลือกจับมือร่วมกับเอไอเอสมาจากการเลือกผู้ให้บริการที่มีความกล้าตัดสินใจ
ในการเปิดบริการใหม่ๆ สำหรับผู้ใช้บริการ ซึ่งปัจจุบันนี้การใช้งานโทรศัพท์มือถือไม่ใช่ว่ามาจากเครื่องโทรศัพท์มือถือที่ทันสมัย
แต่เป็นเรื่องการพัฒนาการให้บริการของผู้ให้บริการมากกว่า”