ชื่อ "แสงชัย สุนทรวัฒน์" เป็นที่มักคุ้นกันดีสำหรับคนที่สนใจติดตามสถานการณ์ความเป็นไปในต่างประเทศ
คอลัมน์โลกสีเขียว ในหน้าข่าวต่างประเทศของหนังสือพิมพ์ไทยรัฐ ที่แสงชัยเป็นเจ้าของพื้นที่
เป็นคอลัมน์ที่ขาดไม่ได้สำหรับคอข่าวต่างประเทศ ด้วยมุมมองการวิเคราะห์ที่
"ทะลุ" และลีลาการนำเสนอที่ชวนติดตาม
แสงชัยมาโด่งดังเอามาก ๆ ในช่วงสงครามอ่าวเปอร์เซีย ที่เขาร่ายยาวเบื้องหน้า
เบื้องหลังและแง่มุมต่าง ๆ ของการสู้รบอย่างละเอียดละออเสนอต่อผู้อ่านแบบวันต่อวัน
สิ่งที่เป็นจุดเด่นมาก ๆ ของเขาอีกเรื่องหนึ่งคือ ความรู้เกี่ยวกับสังคม
เศรษฐกิจและการเมืองของอเมริกา ซึ่งเขาซึมซับจากประสบการณ์การใช้ชีวิตอย่างยาวนานอยู่ที่นั่น
กลั่นกรองออกมาเป็นตัวหนังสือผ่านคอลัมน์เปิดก้นอเมริกา
นอกจากความช่ำชองในเรื่องต่างประเทศแล้ว ความรู้จริงในเรื่องภาษาอังกฤษที่คนอเมริกันใช้ในชีวิตประจำวันก็ทำให้คอลัมน์
"ฟุตฟิตฟอไฟ" เป็นตำราทางภาษาจากชีวิตจริงที่ผู้ใฝ่รู้ภาษาอังกฤษต้องติดตาม
นาม "แสงชัย สุนทรวัฒน์" วันนี้ต้องต่อท้ายด้วยตำแหน่งผู้อำนวยการองค์การสื่อสารมวลชนแห่งประเทศไทย
หรือ อสมท. เจ้าของสถานีโทรทัศน์ช่อง 9 และคลื่นวิทยุอีกหลายคลื่น
เก้าอี้ผู้อำนวยการ อสมท. ไร้เจ้าของมาตั้งแต่เดือนมีนาคม เมื่อประสิทธิ์
หิตะนันท์ถูกปลดกลางอากาศ การเข้ามารับตำแหน่งของแสงชัยนั้น ถือว่ามาในสายของพรรคประชาธิปัตย์ซึ่งดูแลหน่วยงานนี้โดยตรง
แสงชัยมีพี่ชายชื่อสมชาย สุนทรวัฒน์ ผู้เป็นนายกเทศมนตรีเมืองสระบุรีมาหลายสมัย
และล่าสุดกระโจนเข้าสู่สนามใหญ่ลงเลือกตั้งครั้งที่แล้วในสังกัดพรรคประชาธิปัตย์
โค่นตัวเก็งอย่างปองพล อดิเรกสารได้อย่างพลิกความคาดหมาย
ลำพังเพียงสายสัมพันธ์กับประชาธิปัตย์คงไม่ทำให้แสงชัยเข้ามากุมสื่อโทรทัศน์และวิทยุของรัฐได้
หากปราศจากพื้นฐานทางการบริหาร
นอกจากความเป็นคนเขียนหนังสือแล้ว แสงชัยยังเคยแสดงฝีมือคุมทีมข่าวการเมือง
และต่างประเทศของช่อง 7 สีมาแล้ว และช่วงที่ไทยสกายเคเบิลทีวีของคีรี กาญจนพาสน์
เริ่มต้นใหม่ ๆ แสงชัยก็เข้าไปเป็นที่ปรึกษาในการสร้างทีมข่าวอยู่ด้วย
สำหรับประสบการณ์ทางการบริหาร น้อยคนนักที่จะรู้ว่า ตำแหน่งหน้าที่อย่างเป็นทางการของเขาคือ
ผู้อำนวยการองค์การฟอกหนังรัฐวิสาหกิจสังกัดกระทรวงกลาโหมทั้งยังมีสำนักงานกฎหมายส่วนตัวอีกด้วย
ตำแหน่งผู้อำนวยการ อสมท. นั้น เป็นตำแหน่งที่มาด้วยการเมือง และก็ไปด้วยการเมือง
นับตั้งแต่ยุคที่มนตรี เจนวิทย์การ เป็นผู้อำนวยการ ซึ่งถูก รตอ. เฉลิม อยู่บำรุง
รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรีในขณะนั้นปลดออกจากตำแหน่งแล้วแต่งตั้งราชันย์
ฮูเซ็นมาแทน พอถึงยุค รสช. ครองเมือง ราชันย์ก็โดนอัปเปหิออกไป คนที่ขึ้นมาแทนคือ
ประสิทธิ์ที่เป็นรองผู้อำนวยการมานาน ครั้นถึงยุครัฐบาลชวน ก็เป็นคราวที่ประสิทธิ์ต้องเจอเข้าบ้าง
ความมั่นคงของตำแหน่งจึงไม่มีเอาเสียเลย เพราะไม่เกี่ยวกับความรู้ความสามารถ
หากขึ้นอยู่กับกระแสการเมืองในแต่ละช่วง
"ผมไม่สนใจว่าจะเกิดอะไรขึ้นกับผม หลังจากเข้ามาทำหน้าที่นี้แล้ว
สิ่งที่คิดและตั้งใจไว้มีเพียงทำหน้าที่ของตนเองให้ดีที่สุด โดยเฉพาะในส่วนของนักข่าวที่ไม่ได้รับการเหลียวแลหรือเห็นความสำคัญในหน้าที่นี้เท่าไรนัก"
แสงชัยกล่าวกับ "ผู้จัดการ" ประโยคสุดท้ายนั้น สะท้อนให้เห็นถึงนโยบายแรกสุดของเขาบนเก้าอี้ตัวนี้
นั่นคือการปรับปรุงรายการข่าวให้ดีขึ้น โดยเริ่มต้นที่การให้ความสำคัญกับนักข่าวก่อน
"ผมคิดอยู่อย่างเดียวคือ นักข่าวจะต้องมีกินมีใช้อย่างเพียงพอ และเมื่อนั้นคุณภาพในการทำงานจะตามมาเอง"
แสงชัยกล่าว
สื่อทีวีในทุกวันนี้ กลายเป็นสื่อทางการตลาดของธุรกิจเพลงไปแล้ว ไม่เว้นแม้แต่สื่อของรัฐอย่าง
อสมท. ในฐานะผู้อำนวยการคนใหม่ บทบาทของแสงชัยคงหนีไม่พ้นที่จะต้องทำให้
อสมท. เป็นสื่อของรัฐที่มีคุณภาพที่ไม่รับใช้เฉพาะเพียงรัฐบาลเท่านั้น