|
เหมาราชฯสบช่องดอกเบี้ยขาลง ปัดฝุ่นออกหุ้นกู้ปลายปี2พันล้าน
ผู้จัดการรายวัน(22 พฤษภาคม 2550)
กลับสู่หน้าหลัก
บริษัทเหมราชฯ รื้อแผนออกหุ้นเพิ่มทุน1,500-2,000 ล้านบาท แจงนำไปใช้หนี้ ขยายโครงการและใช้เป็นเงินทุนหมุนเวียนภายในบริษัท ชี้ภาวะตลาดเหมาะสมหลังอัตราดอกเบี้ยช่วงขาลงอีก ระบุเตรียมทุ่มงบอีก 300 ล้านบาท ซื้อที่ดินเพิ่มในนิคมเหมาราชอีสเทิร์ซีบอร์ด 1,200 ไร่
นายเผ่าพิทยา สมุทรกลิน ผู้อำนวยการนักลงทุนสัมพันธ์และวางแผน บริษัท เหมราชพัฒนาที่ดิน จำกัด (มหาชน) เปิดเผยถึงความคืบหน้าในการระดมทุนผ่านการออกหุ้นกู้ว่า ทางคณะกรรมการบริหารมีมติให้นำแผนการออกหุ้นกู้มาทบทวนใหม่ เนื่องจากในขณะนี้ปริมาณการออกหุ้นของบริษัทในตลาดหลักทรัพย์ฯมีจำนวนน้อย ประกอบกับปัจจุบันอัตราดอกเบี้ยมีการปรับลดลงอย่างต่อเนื่อง จึงเป็นจังหวะที่เหมาะสมที่ทางบริษัทนำแผนการออกหุ้นกู้ครั้งใหม่วงเงินประมาณ 1,500-2,000 ล้านบาท คาดว่าจะสรุปผลได้ภายในช่วงไตรมาส 3 และ 4 ของปี 2550 โดยเงินที่ระดมทุนได้จะนำไปชำระหนี้ให้แก่สถาบันการเงิน ขยายโครงการและเป็นทุนหมุนเวียนภายในบริษัท
นอกจากนี้ บริษัท ยังมีแผนจัดซื้อที่ดินเพิ่มภายในนิคมเหมราชอิสเทิร์นซีบอนร์ด จำนวน 1,200 ไร่ ในช่วงปลายปี ใช้งบประมาณในการซื้อที่ดินประมาณ 300 ล้านบาท ซึ่งหลังจากที่บริษัทซื้อที่ดินใหม่เข้ามาเพิ่มในนิคมฯ จะทำให้เนื้อที่ของนิคมฯเพิ่มขึ้นเป็น 9,300 ไร่ จากเดิมที่มีอยู่ 8,100 ไร่ สำหรับนิคมเหมราช อีสเทิร์นซีบอร์ดนี้ จะเปิดขายเฟสแรกจำนวน 2,000 ไร่ คาดว่าจะใช้งบประมาณ 400 ล้านบาท ในการพัฒนาโครงสร้างระบบสาธารณูปโภคต่างๆ โดยในปีนี้ บริษัทตั้งงบประมาณในการพัฒนาโครงการต่างๆไว้รวม 3,000 ล้านบาท แยกเป็น งบเพื่อการซื้อที่ดิน 400-500 ล้านบาท การก่อสร้างโครงสร้างระบบสาธารณูปโภค 700 ล้านบาท งบประมาณในการพัฒนาโรงานเช่าและขายอีก 200-300ล้านบาท และงบในการก่อสร้างโครงการ เดอะพาร์ค ชิดลม อีก 1,200 ล้านบาท ซึ่งในส่วนนี้ ได้นำงบประมาณมาดำเนินการก่อสร้างไปในช่วงไตรมาสแรกแล้ว 500 ล้านบาท
สำหรับปีนี้ บริษัทตั้งเป้าว่า จะมีรายได้รวมที่ 5,000 ล้านบาท หรือมีอัตราการเติบโตเพิ่มขึ้นจากปี49ประมาณ 30-40% โดยรายได้ดังกล่าวจะมาจากการขายที่ดิน 35% หรือ ประมาณ850ไร่
ส่วนที่เหลือจะมาจากโครงการเดอะพาร์คชิดลม 50% และมาจากค่าบริการสาธารณูปโภคและโรงงานเช่าและขายอีก 15% ส่วนในไตรมาสแรกที่ผ่านมา บริษัทมีการเซ็นสัญญาซื้อขายที่ดินในนิคมต่างๆ ไปแล้ว 114ไร่ โดยในไตรมาสแรกบริษัทมีรายได้จากการดำเนินการรวม 1,168.5 ล้านบาท และมีกำไรสุทธิที่ 254.9ล้านบาท
กลับสู่หน้าหลัก
ผลงานนี้ ใช้สัญญาอนุญาตของครีเอทีฟคอมมอนส์แบบ แสดงที่มา-ไม่ใช้เพื่อการค้า-ไม่ดัดแปลง 3.0 ประเทศไทย
(cc) 2008 ASTVmanager Co., Ltd. Some Rights Reserved.
|