|
ไบโออัดฉีด 100 ล.ปรับโพซิชันนิง “วีไวต์” หวังขึ้นเบอร์รองแทนเรโซนา ด้วยแชร์12%
ผู้จัดการรายวัน(22 พฤษภาคม 2550)
กลับสู่หน้าหลัก
ไบโอฯ ลุยตลาดระงับกลิ่นกายหนักรอบ 7 ปี อัดฉีดงบวีไวต์ 100 ล้านบาท ปรับโพซิชันนิงชูภาพผู้เชี่ยวชาญดูแลผิวใต้วงแขนหญิงไทยสู้ศึก ส่งนวัตกรรมใหม่เปิดเวปไซต์ไขปัญหาเขย่าวงการ สิ้นปีสอยเรโซนาสำเร็จ ผงาดขึ้นอันดับสองครองแชร์ 12% ส่วนรายได้รวมกวาด 3,000 ล้านบาท
นางศิริสุภา ยิ่งเจริญ ผู้จัดการกลุ่มผลิตภัณฑ์ บริษัท ไบโอ คอนซูเมอร์ จำกัด ผู้ผลิตและจัดจำหน่ายผลิตภัณฑ์ระงับกลิ่นกายวีไวต์ เปิดเผยว่า ภาวะตลาดผลิตภัณฑ์ระงับกลิ่นกายมูลค่า 1,470 ล้านบาท มีการแข่งขันที่รุนแรงมากขึ้น โดยผู้ประกอบการแต่ละรายที่อยู่ในตลาด ต้องสร้างโพซิชันนิงให้แบรนด์มีความแข็งแกร่งและชัดเจนมากขึ้น ดังนั้นหลังจากที่บริษัทได้เปิดตัววีไวต์ลงสู่ตลาดมา 7 ปี โดยตอกย้ำจุดขายในเรื่องของความขาวอย่างเป็นธรรมชาติ ซึ่งพบว่าเป็นเพียงความต้องการพื้นฐานสำหรับผู้บริโภคเท่านั้น บริษัทจึงได้ปรับวางตำแหน่งทางการตลาดใหม่ โดยการเป็นผู้เชี่ยวชาญดูแลผิวใต้วงแขนของผู้หญิงโดยเฉพาะ
สำหรับแผนการตลาด นำร่องในช่วงไตรมาสแรกที่ผ่านมา บริษัทได้ปรับโฉมผลิตภัณฑ์ระงับกลิ่นกายวีไวต์ใหม่ เพื่อให้ภาพลักษณ์มีความทันสมัยมากขึ้น ปรากฎว่าได้รับการตอบรับเป็นอย่างดียอดขายมีอัตราการเติบโต 50% พร้อมกันนี้ยังได้เปิดตัวสูตรใหม่ โดยเน้นนวัตกรรมใหม่ที่ยังไม่มีผู้ประกอบการรายใดทำตลาด ส่ง วีไวต์ เลสเชฟ สูตรชะลอการเกิดขนใต้วงแขน วีไวต์ พอร์มินิไมซ์ สูตรกระชับรูขุมขน วีไวต์ คริสตัล ไวท์ สำหรับผิวสองสี และการเปิดตัววีไวต์ โลชัน ผลิตภัณฑ์ลดการระคายเคืองหลังการกำจัดขน
โดยได้ทุ่มงบการตลาด 100 ล้านบาท มากที่สุดในรอบ 7 ปี ซึ่งงบดังกล่าวบริษัทจะเน้นตอกย้ำภาพลักษณ์การเป็นผู้เชี่ยวชาญดูแลผิวใต้วงแขนของผู้หญิง ผ่านสื่อโฆษณาประชาสัมพันธ์ทางโทรทัศน์ วิทยุ ณ จุดขาย ซึ่งเป็นสถานที่ที่มีการแข่งขันรุนแรงโดยเฉพาะการทำโปรโมชัน ลด แลก แจก แถม ทั้งนี้บริษัทได้ใช้งบ 15% จากงบการตลาด เปิดตัวเวปไวต์ www.vivite .com บริการให้คำปรึกษาโดยทีมผู้เชี่ยวชาญสถาบันใต้วงแขน ที่บริษัทจัดตั้งขึ้นเพื่อเป็นสื่อกลางในการสนับสนุนให้กลุ่มเป้าหมายได้รู้จัก และสนใจการดูแลผิวใต้วงแขน
ทั้งนี้หากได้รับการตอบรับเป็นอย่างดีในช่วง 3-4 เดือน จะพิจารณาเปิดตัวสถาบันให้คำปรึกษาใต้วงแขนอย่างเป็นรูปธรรม เพื่อตอกย้ำตำแหน่งการทางการตลาดที่บริษัทวางไว้เป็นผู้เชี่ยวชาญดูแลผิวใต้วงแขนของผู้หญิง เจาะกลุ่มเป้าหมายผู้หญิงอายุ 18 ปีขึ้นไปหรืออยู่ในวัยทำงาน ทั้งนี้บริษัทตั้งเป้าหมายหลังจากการดำเนินการตลาดในเชิงรุก วีไวต์จะขึ้นมาเป็นอันดับสองของตลาด ด้วยการครองส่วนแบ่งเพิ่มจาก 10% เป็น 12% หรือมียอดขายเติบโต 3% จากปัจจุบันเรโซนามีส่วนแบ่ง 11% และนีเวีย 44% จากตลาดโรลออนมูลค่า 1,155 ล้านบาท
แนวโน้มตลาดผลิตภัณฑ์ระงับกลิ่นกายมูลค่า 1,470 ล้านบาท ในปีนี้คาดว่าจะมีอัตราการเติบโต 3% โดยแบ่งเป็น โรลออน คิดเป็น 79% หรือ 1,155 ล้านบาท แบ่งเป็น ตลาดสำหรับวัยรุ่นอายุ 12-17 ปี คิดเป็น 35% ซึ่งภาวะตลาดมีอัตราการเติบโตลดลง เนื่องจากเด็กวัยรุ่นโตเร็วขึ้นและเปลี่ยนมาใช้สินค้าของผู้ใหญ่ ส่วนกลุ่มวัยทำงานอายุ 18 ปีขึ้นไปคิดเป็น 65% ขณะที่รูปแบบสเปรย์คิดเป็น 7% ของตลาดรวมหรือ 97 ล้านบาท และอื่นๆรวมทั้งรูปแบบสติ๊ก 14% ซึ่งรูปแบบสติ๊กมีอัตราการเติบโตมากที่สุด เนื่องจากตลาดมีขนาดเล็ก โดยขณะนี้บริษัทกำลังอยู่ระหว่างการพัฒนาในรูปแบบสติ๊ก เพื่อมีสินค้าให้ครอบคลุมทุกกลุ่มเป้าหมาย
สำหรับผลประกอบการปีนี้บริษัทตั้งเป้า 3,000 ล้านบาท แบ่งเป็น กลุ่มผลิตภัณฑ์ของใช้ภายในบ้าน 50% และผลิตภัณฑ์ของใช้ส่วนบุคคล 50% โดยวีไวต์มีรายได้คิดเป็น 15% หรือ 225 ล้านบาท
กลับสู่หน้าหลัก
ผลงานนี้ ใช้สัญญาอนุญาตของครีเอทีฟคอมมอนส์แบบ แสดงที่มา-ไม่ใช้เพื่อการค้า-ไม่ดัดแปลง 3.0 ประเทศไทย
(cc) 2008 ASTVmanager Co., Ltd. Some Rights Reserved.
|