คิวคอนชูจุดขายเทคโนโลยีเยอรมนี ขยายตลาดส่งออกวางเป้าโตเพิ่ม15%


ผู้จัดการรายวัน(17 พฤษภาคม 2550)



กลับสู่หน้าหลัก

"คิวคอน" เดินหน้าสร้างยอดขายตลาดส่งออก หวังขยายการเติบโตเพิ่ม 15% หลังส่งออกอิฐมวลเบาหรือคอนกรีตมวลเบาคุณภาพมาตรฐาน HEBEL ประเทศเยอรมนีไปในประเทศแถบมหาสมุทรอินเดีย ขณะที่ตลาดในประเทศเร่งขยายตัวแทนจำหน่ายเพิ่มอีก 100 แห่งทั่วประเทศ

นายกิตติ สุนทรมโนกุล ผู้อำนวยการฝ่ายขาย และการตลาด บริษัท ควอลิตี้คอนสตรัคชั่นโปรดัคส์ จำกัด (มหาชน) ผู้ผลิต และจัดจำหน่ายคอนกรีตมวลเบาหรืออิฐมวลเบา ภายใต้แบรนด์ Q-CON เปิดเผยว่า ในปีนี้ บริษัทวางแผนจะเร่งขยายการส่งออกไปยังประเทศต่างๆ ให้มากขึ้น โดยเฉพาะตลาดในแถบเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ซึ่งถือเป็นตลาดหลักของบริษัท ล่าสุด Q-CON ได้ส่งสินค้าออกไปยังประเทศในแถบมหาสมุทรอินเดียแล้วถึง 3,000ลบ.ม.

ทั้งนี้ Q-CON เป็นผู้ผลิตคอนกรีตมวลเบารายเดียวของประเทศ และแถบเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ที่ได้รับลิขสิทธิ์และเทคโนโลยีการผลิตชั้นสูงจาก บริษัท ฮีเบล อินเตอร์เนชั่นแนล จำกัด (HEBEL International GmbH &Co.) ประเทศเยอรมนี ซึ่งเป็นบริษัทที่มีการคิดสูตรการผลิตแบบซีเมนต์เบส (Cement Base) ที่มีชื่อเสียง และเป็นผู้นำด้านคอนกรีตมวลเบาที่ทั่วโลกยอมรับมานานกว่า 70 ปี อีกทั้งยังเป็นที่ยอมรับในอุตสาหกรรมอสังหาฯ โดยนำไปใช้งานก่อสร้างอาคารทุกประเภท ทั้งในยุโรป ,ออสเตรเลีย ,สหรัฐอเมริกา และประเทศไทย เป็นต้น

" ตั้งแต่ไตรมาสสองเป็นต้นไป คิวคอนจะเพิ่มการส่งออกไปยังประเทศที่ได้ทำการส่งออกแล้ว เช่น สิงคโปร์ ไต้หวัน นิวซีแลนด์ ลาว กัมพูชา รวมถึงการขยายตลาดไปในประเทศใหม่ๆ ในแถบเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ซึ่งปีนี้บริษัทฯตั้งเป้าการส่งออกโตที่ 7% จากยอดขายรวมทั้งหมด 1,000 ล้านบาท" นายกิตติ กล่าว

นายกิตติ กล่าวถึงแผนการทำตลาดในประเทศว่า คงเน้นเรื่องการนำเสนอสินค้าด้วยคุณภาพสูง ควบคู่ไปกับการบริการที่ดี สำหรับในปีนี้บริษัทฯจะขยายช่องทางการจัดจำหน่ายเพิ่ม จากเดิมที่มีอยู่ 250 แห่ง เป็น 350 แห่งทั่วประเทศ นอกจากนี้ บริษัทฯยังได้เพิ่มรถบริการ 4 ล้อเล็กสำหรับการก่อสร้างบ้าน ขณะเดียวกัน ยังได้เปิดศูนย์ เทรนนิ่ง เซ็นเตอร์ ซึ่งเป็นศูนย์อบรมให้ความรู้กับช่างทุกคน โดยไม่คิดค่าใช้จ่ายใดใดทั้งสิ้น

"บริษัทต้องเร่งขยายการให้บริการต่างๆ และพัฒนาคุณภาพสินค้าให้เกิดอย่างต่อเนื่อง เพื่อรักษาความเป็นผู้นำด้วยส่วนแบ่งตลาด 55% สำหรับปีนี้เราตั้งเป้าการขายเติบโตประมาณ 15% หรือคิดเป็นเม็ดเงินกว่า1,000 ล้านบาท" นายกิตติ กล่าว

อนึ่ง ในส่วนของผลการดำเนินงานในไตรมาส 1 ปี 50 บริษัทมีผลขาดทุนสุทธิจำนวน 21.61 ล้านบาท เทียบกับไตรมาสที่ 1 ปี 2549 ที่มีขาดทุนสุทธิจำนวน 5.24 ล้านบาท เนื่องจากบริษัทมีรายได้จากการขาย 269.02 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจำนวน 56.57 ล้านบาท (เทียบกับ 212.5 ล้านบาท) หรือเพิ่มขึ้น26.63% ส่วนค่าใช้จ่ายในการขายและบริหารจำนวน 49.70 ล้านบาท (เทียบกับ 39.67 ล้านบาท ) ทั้งนี้เป็นผลมาจากการที่บริษัทจัดให้มีกิจกรรมทางการตลาดเพื่อส่งเสริมการขายอย่างต่อเนื่อง


กลับสู่หน้าหลัก

Creative Commons License
ผลงานนี้ ใช้สัญญาอนุญาตของครีเอทีฟคอมมอนส์แบบ แสดงที่มา-ไม่ใช้เพื่อการค้า-ไม่ดัดแปลง 3.0 ประเทศไทย



(cc) 2008 ASTVmanager Co., Ltd. Some Rights Reserved.