"แสนสิริ"คาดการณ์ยอดโอนบ้านปี50 พุ่ง1.3หมื่นล.ลุ้นขึ้นแท่นเบอร์1เบียดแลนด์ฯ


ผู้จัดการรายวัน(15 พฤษภาคม 2550)



กลับสู่หน้าหลัก

“แสนสิริ” โชว์ประมาณการยอดรับรู้ปี50 กว่า13,500 ล้านบาท หวังเบียดเก้าอี้แลนด์ แอนด์ เฮ้าส์ฯ หลังมุ่งสร้างแบรนด์มานาน ระบุแสนสิริเป็นกลุ่มพัฒนาที่อยู่อาศัยครบวงจร ล่าสุดส่ง พลัสฯ จับมือ J&W ตั้งบริษัท ย่อย "พลัส พร็อพเพอร์ตี้ สเปซ " ทุนจดทะเบียน 10ล้านบาท เตรียมลุยอสังหาฯต่อยอด หวังฮุบตลาดทุกเซกต์เม้นท์

นายอภิชาติ จูตระกูล ประธานอำนวยการ บริษัท แสนสิริ จำกัด (มหาชน) เปิดเผยว่า หลังจากกลุ่มแสนสิริฯ ได้เปิดตัวการขายโครงการที่อยู่อาศัยแบบครบวงจรและสร้างแบรนด์ รวมถึงการรับรู้เกี่ยวกับโครงการที่อยู่อาศัย ในกลุ่มลูกค้าเป้าหมายอย่างต่อเนื่อง ส่งผลให้โครงการที่อยู่อาศัยทุกได้รับการตอบรับจากกลุ่มลูกค้าเป็นอย่างดี ทำให้ยอดขายมีการเติบโตเพิ่มในทุกปี โดยในปี 2550 นี้ กลุ่มแสนสิริ และบริษัทในเครือทั้งหมด ได้ประมาณการยอดโอนโครงการที่อยู่อาศัยทุกประเภท ที่สร้างเสร็จสมบูรณ์ และพร้อมจะส่งมอบให้ลูกค้า พบว่ามีมูลค่าประมาณ 13,500 ล้านบาท

“ปัจจุบันกลุ่มบริษัทแสนสิริ และบริษัทในเครือ มีโครงการที่อยู่อาศัยที่อยู่ระหว่างการพัฒนา และมีการสร้างเสร็จเพื่อส่งมอบให้กับลูกค้าเป็นจำนวนมากถึง 45 โครงการ แบ่งเป็นโครงการบ้านเดี่ยว 16 โครงการ โครงการคอนโดมิเนียม 18 โครงการ และโครงการทาวน์เฮาส์ 10 โครงการ และโครงการอาคารเพื่อการพาณิชย์ 1 โครงการ โดยในส่วนของโครงการบ้านเดี่ยวและทาวน์เฮาส์ จะเป็นการก่อสร้างและส่งมอบบ้านให้กับลูกค้าไปตามเฟสต่างๆ ส่วนโครงการคอนโดมิเนียมมจะเป็นโครงการที่มีการเปิดขายและขายหมดตั้งแต่ 1-2 ปีที่ผ่านมาและก่อสร้างให้แล้วเสร็จตามสัญญา”

ทั้งนี้ เมื่อรวมจำนวนที่อยู่อาศัยที่จะมีการโอนให้กับลูกค้าในปีนี้ มีจำนวนรวมประมาณกว่า 2,850 ยูนิต สำหรับโครงการที่อยู่อาศัยของกลุ่มบริษัท แสนสิริ และบริษัทในเครือ ที่ขณะนี้อยู่ระหว่างพัฒนา และยังคงมีจำนวนยูนิตสำหรับการขาย มีจำนวนทั้งสิ้น 34 โครงการ ได้แก่ โครงการบ้านจัดสรรจำนวน 13 โครงการ ,คอนโดฯ จำนวน 11 โครงการ,ทาวน์เฮาส์รวม 10 โครงการ ทำให้ในปีนี้กลุ่มบริษัทแสนสิริ มีพันธกิจที่สำคัญที่จะต้องส่งมอบที่อยู่อาศัยให้แก่ลูกค้าตามสัญญาเป็นมูลค่าเกือบ 13,500 ล้านบาท

ผนึก J&W ตั้งบริษัทย่อยลุยอสังหาฯ

ด้านนายวันจักร์ บุรณศิริ รองกรรมการผู้จัดการอาวุโส บริษัท แสนสิริฯ กล่าวว่า ที่ประชุมคณะกรรมการบริษัท ครั้งที่ 3/2550 มีมติให้ บริษัท พลัส พร็อพเพอร์ตี้ จำกัด (Plus) ซึ่งเป็นบริษัทย่อยที่แสนสิริถือหุ้น100% ให้ลงทุนจัดตั้งบริษัทย่อยขึ้นอีกหนึ่ง บริษัท โดยพลัสฯจะถือหุ้นในสัดส่วน51% ของทุนจดทะเบียน 10 ล้านบาท ชำระเต็มจำนวน และใช้ชื่อว่าในการดำเนินธุรกิจว่า บริษัท พลัส พร็อพเพอร์ตี้ สเปซ จำกัด เพื่อเข้ามาลงทุนพัฒนาโครงการอสังหาฯในอนาคต

ทั้งนี้ บริษัท พลัส พร็อพเพอร์ตี้ สเปซ จำกัด เป็นการร่วมทุนระหว่าง บริษัท พลัส พร็อพเพอร์ตี้ จำกัด กับ บริษัท สเปซ ดิเวลลอปเมนท์ จำกัด ("Space") ซึ่งเป็นบริษัทย่อย ของบริษัท เจแอนด์ดับบลิว ดิเวลลอปเมนท์ จำกัด สำหรับใหม่ดังกล่าว แบ่งสัดส่วนการถือหุ้นเป็นพลัสฯ 51% และบริษัทสเปซฯ 49% โดยมีจำนวนหุ้นที่ลงทุน และอัตราส่วนแบ่งออกเป็น หุ้นสามัญ 510,000 หุ้น มูลค่าที่ ตราไว้หุ้นละ 10 บาท คิดเป็น 51% ของทุนจดทะเบียน

ปัจจุบัน บริษัท เจแอนด์ดับบลิวฯ ถือหุ้นในบริษัท สเปซ ดิเวลลอปเมนท์ จำกัด 51% ของทุนจดทะเบียน นอกจากนี้ J&W ยังถือหุ้นอยู่ในบริษัท พลัส พร็อพเพอร์ตี้ เวนเจอร์ จำกัด ("PPV" ซึ่งเป็นบริษัทย่อยของ Plus) อีก 20% แต่อย่างไรก็ตาม J&W ไม่ถือเป็นบุคคลที่เกี่ยวโยงกันของ บริษัท แสนสิริ และ Plus แต่อย่างใด

สำหรับ คณะกรรมการของบริษัท พลัส พร็อพเพอร์ตี้ สเปซ จำกัด จะประกอบด้วย นายเมธา จันทร์แจ่มจรัส , นายปิยบุตร เลิศดำริห์การ , นางจิตราพร แตงสุวรรณ (อดีตผู้บริหารธนาคารเอเชีย) และนายสมชาย ศิริวิชยกุล

" การลงทุนครั้งนี้ Plus ตกลงให้บริษัท พลัส พร็อพเพอร์ตี้ สเปซ จำกัด กู้ยืมเงินเป็นวงเงินกู้หมุนเวียนในวงเงินไม่เกิน 30.60 ล้านบาท หรือคิดเป็นสัดส่วน 51% ของวงกู้จากผู้ถือหุ้น (Shareholders Loan) ทั้งหมดจำนวน 60 ล้านบาท โดยคิดดอกเบี้ยในอัตราดอกเบี้ยขั้นต่ำสำหรับเงินกู้แบบมีกำหนด เวลาชำระคืน (MLR : Minimum Lending Rate) ถัวเฉลี่ยของธนาคารพาณิชย์ที่จดทะเบียนภายในประเทศตามข้อมูลอัตรา ดอกเบี้ยเงินให้สินเชื่อประจำวันทำการสุดท้ายของทุกเดือนปฏิทิน ตามที่คำนวณและเผยแพร่ข้อมูลโดยธนาคารแห่งประเทศไทย("อัตรา MLR ถัวเฉลี่ย") ต่อปี มีกำหนดระยะเวลาการกู้ยืมไม่เกิน 3 ปี นับจากวันที่เบิกเงินกู้ และผ่อนชำระตามกระแส เงินสดจากการดำเนินงาน"


กลับสู่หน้าหลัก

Creative Commons License
ผลงานนี้ ใช้สัญญาอนุญาตของครีเอทีฟคอมมอนส์แบบ แสดงที่มา-ไม่ใช้เพื่อการค้า-ไม่ดัดแปลง 3.0 ประเทศไทย



(cc) 2008 ASTVmanager Co., Ltd. Some Rights Reserved.