ค่ำวันพุธที่ 13 มกราคม 2536 ห้องแกรนด์บอลรูมของโรงแรมรีเจนท์คับแคบลงไปถนัดตา
ด้วยโต๊ะอาหาร 40 โต๊ะที่ถูกจับจองด้วยคนเกือบ 400 คน ในรายการอาหารเย็นเคล้าบทเสวนาหัวข้อ
"เล่นหุ้นสไตล์สอง วัชรศรีโรจน์" ซึ่งจัดโดยนิตยสารพร็อพเพอร์ตี้มาร์เก็ต
นับเป็นรายการเดินสายพูดครั้งที่สามในชั่วเวลาเพียงสัปดาห์เดียวของ "เสี่ยสอง"
สอง วัชรศรีโรจน์ สองครั้งแรกนั้นมีขึ้นที่เชียงใหม่และหาดใหญ่ซึ่งได้รับการต้อนรับอย่างอุ่นหนาฝาคั่งจากมิตรรักนักลงทุนแห่งท้องถิ่น
"ผมไม่ได้มาแก้ตัวเพียงต้องการชี้แจง ช่วงนี้เหมาะสมที่สุด เพราะเวลาก็ได้ผ่านไปพอสมควรแล้ว
พูดอะไรออกไปคงไม่มีผลกระทบต่อบรรยากาศการลงทุนในตลาดหลักทรัพย์แน่"
บุรุษผู้เป็นที่รู้จักกันทั่วประเทศเพียงชั่วข้ามคืนกล่าว
ก่อนหน้าที่จะถูกจับกุมเมื่อวันที่ 18 พ.ย. ปีที่แล้ว สองเก็บเนื้อเก็บตัวอย่างเงียบเชียบ
ไม่แม้แต่จะพูดกับสื่อมวลชน แต่หลังจากตกเป็นผู้ต้องหาในคดีปั่นหุ้นแบงก์บีบีซีแล้ว
สองก็หันมาเล่นสงครามข้อมูลข่าวสาร ทั้งการให้สัมภาษณ์อย่างเป็นทางการกับหนังสือพิมพ์และวิทยุและการพูดในที่สาธารณะ
แม้จะไม่มีผลทางคดีสักเท่าไร แต่ก็เป็นการเปิดเกมรุกทางด้านกว้างวิพาษ์วิจารณ์การกระทำของตลาดหลักทรัพย์และ
ก.ล.ต. ในเรื่องนี้ เป็นการสร้างแนวร่วมทางอารมณ์ความรู้สึกที่ได้ผลไม่น้อย
นอกจากสองแล้ว ผู้ร่วมรายการที่มาปรากฏตัวเพียงคนเดียวคือ เนวิน ชิดชอบ
สส. พรรคชาติไทย ผู้เปิดประเด็นทางการเมืองในเรื่องหุ้นบีบีซี ด้วยการยื่นญัตติให้สภาผู้แทนราษฎรตั้งกรรมาธิการสอบสวน
จนเป็นชนวนให้ทางรัฐบาลตัดสินใจ "เชือด" สอง
บุญธรรม พิกุลศรี ผู้อำนวยการนิตยสารพร็อพเพอร์ตี้มาร์เก็ตเปิดเผยว่าได้เชิญเสรี
จิตนเสรี กรรมการและผู้จัดการตลาดหลักทรัพย์ รวมทั้งเอกกมล คีรีวัฒน์ เลขาธิการ
ก.ล.ต. มาร่วมเสวนาด้วย แต่รายแรกตอบกลับมาว่าไม่ว่าง ส่วนรายหลังเงียบหายไปเฉย
ๆ
"ตอนแรกมีผู้ใหญ่หลายคนตอบรับที่จะมาร่วม แต่ต้องขอถอนตัวภายหลังชนิดที่เช้าบอกว่ามาได้
แต่พอตกบ่ายโทรฯ มาปฏิเสธ ก็ไม่ทราบว่ามีแรงกดดันจากทางไหนหรือเปล่า"
หนุ่มใหญ่ร่างเล็กชื่อบุญธรรมกล่าว
สองพูดถึงสไตล์การเล่นหุ้นของเขากล่าวโดยสรุปคือ จะแบ่งการลงทุนเป็น 2
ส่วน ส่วนแรกจะเป็นการถือในระยะยาวหรือตั้งใจลงทุนจริง ๆ อีกส่วนจะเป็นการเก็งกำไรเพื่อให้โบรกเกอร์มีรายได้ด้วย
และเพื่อให้ตนเองมีการตื่นตัวตลอดเวลา
"สำหรับหุ้นประเภทซื้อเช้าขายบ่ายมีน้อยมากมีแต่ซื้อวันนี้ขายพรุ่งนี้"
ผู้ฟังส่วนใหญ่ยังฝากความหวังไว้ที่สองว่าจะสามารถกลับมาช่วยฟื้นฟูบรรยากาศการลงทุนให้กลับมาคึกคักได้เหมือนเดิม
แต่สองพยายามปฏิเสธและพูดถ่อมตนเพื่อลดความเป็นฮีโร่ในสายตานักลงทุน พร้อมทั้งยืนยันว่าเป็นหน้าที่ของทุกคนที่ต้องร่วมมือกัน
"ผมเปรียบเหมือนปลา ปลาตัวนี้ว่ายน้ำเร็วนักก็เอาไฟฟ้าช็อตมันยังไม่ตายจับไปตากอีก
3 วัน แล้วค่อยปล่อยลงน้ำ เออ..คุณพ้นมลทินแล้ว คุณคิดว่าปลามันจะว่ายน้ำได้เหมือนเดิมไหม"
สองกล่าว
ด้วยลีลาการพูดที่มีเหตุผลและหนักแน่นตามสไตล์ของนักกฎหมายประกอบกับการใช้คำพูดในเชิงปรัชญา
และอ้างถึงคำสั่งสอนของพระพุทธเจ้าในบางครั้ง ทำให้คำพูดมีความน่าเชื่อถือและโน้มน้าวให้ผู้ฟังคล้อยตามได้ง่าย
เช่น เขาได้ตอบคำถามเกี่ยวกับผู้ให้การสนับสนุนอยู่เบื้องหลังว่าเป็นใคร
"คนเราถ้าไม่มีแบ็คจะไม่โต พระพุทธเจ้า พระรัตนตรัย เป็นสรณะของผมเป็นแบ็คอัพของผม"
พร้อมทั้งย้ำว่า "ถ้าผมมีแบ็คอัพจริงป่านนี้ต้องออกมาแล้ว ไม่ต้องปล่อยให้ผมมีสภาพแบบนี้
ซึ่งหากเป็นคนไข้ก็ส่งเข้าห้องดับจิตแล้ว"
สองกล่าวแสดงความเห็นอกเห็นใจและเข้าใจความรู้สึกของนักลงทุนรายย่อยเป็นอย่างดี
ถึงความไม่ได้รับความสะดวกและอภิสิทธิ์เหมือนนักลงทุนรายใหญ่ในการซื้อขายหุ้น
รวมถึงโอกาสของการตกเป็นเหยื่อของปลาใหญ่ไดง่าย โดยอ้างถึงประสบการณ์ของตนที่เคยเป็นรายย่อยมาก่อน
"ผมมองตลาดหุ้น ด้วยความเป็นห่วงดัชนีขึ้นไปมากแล้ว แต่นักลงทุนยังหน้าเหี่ยวอยู่เลย
โดยเฉพาะพวกแม่บ้านที่ตั้งใจมาหาค่ากับข้าว แต่ปรากฏว่ากลับบ้านแล้วบ้านหาย"
เรียกเสียงฮาจากผู้ฟังได้พอสมควรพร้อมกับกล่าวเพิ่มเติมว่า
"หากผมเป็น ก.ล.ต. ผมจะมีมาตรการช่วยเหลือรายย่อยโดยตรงก่อน เพราะช้างอย่างไรก็เป็นช้าง"
คราใดที่เอ่ยถึงอักษรย่อ 3 ตัว ก.ล.ต. สองจะมีท่าทีเครียดขึ้นมาอย่างเห็นได้ชัด
พร้อมกับยืนยันในความบริสุทธิ์ของตนเองโดยเสมอว่า ไม่มีความผิดตามข้อกล่าวหาของ
ก.ล.ต. แต่อย่างไร แต่ก็ไม่ลืมที่จะกระแนะกระแหน ก.ล.ต. ด้วยทุกครั้ง เช่น
ทันทีที่มี ก.ล.ต. ข่าวร้ายของตลาดฯ คือข่าว ก.ล.ต. เข้าไปตรวจตรงนั้น
ตรงนี้ หุ้นลงพรวด ข่าวดีของตลาดฯ คือ ข่าว ก.ล.ต. ไม่เคยคิดจะจับ ซึ่งทำให้หุ้นขึ้นพรวดหรือ
"ท่านอย่าคิดว่านักลงทุนนั้นโง่นะครับ คนคิดบางทีโง่กว่านักลงทุนอีก"
ไฮไลท์สุดท้ายคือ "เสี่ยหนึ่งพบเสี่ยสอง" ตามคำร้องขอจากผู้ฟังเสี่ยหนึ่งตามฉายาที่พิธีกรบนเวทีตั้งให้ก็คือเสรี
ทรัพย์เจริญ อดีตประธานบริษัทราชาเงินทุนผู้อื้อฉาวจากคดีปั่นหุ้นเมื่อเกือบ
10 ปีที่แล้ว ขึ้นมาเล่าเปรียบเทียบกรณีของสองกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นกับตัวเขาเป็นการปิดท้ายรายการ
รายการนี้บรรลุเจตนารมณ์ด้วยกันทุกฝ่าย ทั้งฝ่ายผู้จัดที่ได้รับการตอบสนองจากนักลงทุนเป็นอย่างดีฝ่ายผู้ฟังที่อย่างน้อยที่สุดก็ได้รับการปลอบประโลม
เห็นอกเห็นใจจากภาวะเจ็บตัวจากการลงทุน ด้วยคารมของสองและตัวสอง วัชรศรีโรจน์เองที่ใช้งานนี้เป็นเวทีเดินเกมสร้างความนิยมชมชื่นจากผู้มาฟังได้เป็นอย่างดี