ไกรสรทิ้งทวนก่อนพ้นเก้าอี้ประธานบอร์ดกสท. ด้วยการดึงดันซื้ออุปกรณ์ซิสโก้ทำรัฐเสียหายหลายสิบล้านบาท
คนในกสท.วอนคุณหญิงทิพาวดี เมฆสวรรค์ ว่าที่ประธานบอร์ดช่วยทลายวงจรอุบาทว์ผู้บริหารพ่อค้าไอพี
สุมหัวงานประมูล หลังขยายวงจากทศท.ลามมากสท.
แหล่งข่าวจากการสื่อสารแห่งประเทศไทย(กสท.) กล่าวว่าในวันที่ 1 เม.ย.ที่จะถึงนี้จะมีการประชุมบอร์ดกสท.โดยมีวาระเร่งด่วนในการพิจารณาอนุมัติจัดซื้อจัดจ้างในวงเงินประมาณ
1,000 ล้านบาทประกอบด้วย 1.การจัดซื้อระบบเชื่อมโยง Optical Fiber ระหว่างสุไหงโกลก-ยะลา-คลองแงะ
และสุราษฎร์ธานี นครศรีธรรมราช
2.การจัดซื้อระบบเชื่อมโยง Optical Fiber ระหว่างสระบุรี- นครราชสีมา และนิคมอุตสาหกรรมโรจนะ-สระบุรี-ท่าเรือ
จำนวน 1 ระบบ และระหว่างสำนักงานบริการโทร-คมนาคมสาขามาบตาพุด-สี่แยกหนองบอน นิคมอุตสาหกรรมระยองอินดัสเตรียลปาร์ค,สำนักบริการโทรคมนาคมสาขาจันทบุรี-ตราด
และสระบุรี-นครนายก-อยุธยา จำนวน 1 ระบบ
3.การจัดซื้อ Gigabit Ethernet Wan Network 4.การจ้างปรับปรุงพื้นที่ชั้นล่างอาคาร
กสท. บางรัก 5.การ เช่าเครื่องอุปกรณ์ CDMA 2000-1X ในส่วนภูมิภาค และ6.การรับจ้างบริหารช่องทางการจัดจำหน่ายและการ
จัดการเครื่องโทรศัพท์เคลื่อนที่ระบบ 1900 MHz
ทิ้งทวนตามถนัด
ความน่าสนใจในการประชุมบอร์ดเร่งด่วนครั้งนี้ คือนายไกรสร พรสุธี ประธานบอร์ดกสท.ต้องการอนุมัติโครงการเพิ่มความสามารถในการสื่อสารข้อมูลความเร็วสูงหรือ
Gigabit Ethernet Wan Network ที่คณะกรรมการพิจารณาให้บริษัท แอดวานซ์ อินฟอร์เมชั่น
เทคโนโลยีหรือเอไอที เป็นผู้ชนะการประกวดราคาในวงเงิน 191 ล้านบาททั้งๆที่ได้อันดับ
3 ในขณะที่บริษัทที่เสนอราคาต่ำสุดคือบริษัท โลคัส เทเลคอมมูนิ-เคชั่น อิงค์ เสนอราคา
155 ล้านบาท
เป็นที่รู้กันว่าคณะรัฐมนตรีกำลังจะมีการพิจารณาเรื่องการแปร สภาพกสท. ให้กลายเป็นบริษัท
กสท. โทรคมนาคม กับบริษัท ไปรษณีย์ไทย จำกัด ในต้นเดือนเม.ย.นี้ โดยที่จะมีการตั้งคณะกรรมการบอร์ดบริษัท
กสท.โทรคมนาคมใหม่ ซึ่งคาดว่าคุณหญิงทิพาวดี เมฆสวรรค์ ปลัดกระทรวงเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสาร
หรือไอซีทีจะมาเป็นประธานบอร์ด และนายไกรสร จะหมด อำนาจจากตำแหน่ง ประธานบอร์ดกสท.เดิม
"น.พ.สุรพงษ์ สืบวงศ์ลี รมว.ไอซีทีพูดชัดเจนว่า อย่างโครงการซีดีเอ็มเอของ กสท.ให้รอบอร์ดใหม่
มาพิจารณา แต่นายไกรสรกลับดึงดันจะอนุมัติให้จัดซื้อ โครงการGigabit Ethernet Wan
Network ให้ได้ ทั้งๆที่ผู้เสนอประกวดราคาบางรายยื่นข้อร้องเรียนเนื่องจากไม่ได้รับความเป็นธรรมในการพิจารณา
และที่สำคัญหากอนุมัติไปเท่ากับทำให้ซื้อของแพงไปอีก 40 ล้านบาท การรีบร้อนจะอนุมัติให้ได้ทั้งๆที่รู้ว่าจะมีการเปลี่ยนแปลง
เท่ากับไม่เห็นรัฐมนตรีหรือ ปลัดกระทรวงอยู่ในสายตาเลย"
หากนายไกรสรทำสำเร็จ เท่ากับเป็นข่าวดีของบริษัท เอไอที ที่ทำธุรกิจเป็นผู้รวบรวมระบบหรือซิสเต็มส์อินทริเกเตอร์
โดยมีอุปกรณ์ซิสโก้เป็นแกนนำ เนื่องจากเอไอทีกำลังจะแถลงข่าวเรื่องการเข้าตลาดหลักทรัพย์และสถานะการเงินในวันอังคารที่
1 เม.ย.เช่นเดียวกัน ซึ่งในวันนั้นอาจมีการเสนอครม. ในการพิจารณาแปรสภาพกสท.และตั้งกรรมการบอร์ดใหม่เช่นเดียวกันด้วย
"ถ้าเอไอทีเข้าตลาดหลักทรัพย์ฯเมื่อไหร่ ถือเป็น หุ้นที่น่าสนใจมากเพราะปัจจุบันธุรกิจด้านไอทีเน็ตเวิร์ก
หรือด้านระบบเครือข่ายสื่อสารความเร็วสูงของ หน่วยงานภาครัฐไม่ว่าจะเป็นทศท.กสท.กรมการปกครอง
กระทรวงมหาดไทย กระทรวงศึกษาธิการหรืออาจรวมถีงกระทรวงสาธารณสุข ถูกยึดครองด้วยสินค้าซิสโก้ภายใต้เอไอทีเกือบทั้งหมด"
กลยุทธ์ในการทำธุรกิจของเอไอทีน่าสนใจมาก เป็นการสร้างโครงข่ายสายสัมพันธ์กับผู้บริหารระดับสูงและระดับปฏิบัติงานของรัฐวิสาหกิจ
แหล่งข่าวจากก๊วนกอล์ฟ 4 ประสานระหว่างผู้บริหารบริษัท ทศท คอร์ปอเรชั่น,กสท.,กรมไปรษณีย์โทรเลขและซิสโก้หรือเอไอที
ที่ออกรอบร่วมกันที่หัวหินในช่วงสุด สัปดาห์ที่ผ่านมากล่าวว่าก๊วนกอล์ฟนี้เรียกได้ว่าตระเวนออกรอบประสานสายสัมพันธ์ทั้งในและต่างประเทศ
อย่างที่ภูเก็ต หรือเซินเจิ้น คุนหมิง ภายใต้ข้ออ้างการสัมมนาเทคโนโลยีครึ่งวันที่เหลือเป็นการออกรอบตีกอล์ฟ
สุดสัปดาห์ที่ผ่านมา ก๊วนนี้ใช้ข้ออ้างสัมมนาเรื่อง NGN หรือ Next Generation
Network ของ ซิสโก้ แต่เนื้อแท้เป็นการแสวงหาโครงการต่างๆร่วมกันอย่างการใช้เงินประมาณ
450 ล้านบาท ซื้อระบบดังกล่าวสำหรับ 3 หมื่นเลขหมาย ที่อยู่ภายใต้กลุ่มธุรกิจ BG1
หรือโทรศัพท์พื้นฐานของนายมนตรี วชิรเขื่อนขันธ์ รองกรรมการผู้จัดการใหญ่ ที่เคยออกปากกับคนใกล้ชิดถึงโปรดักต์ซิสโก้ว่าเป็น
The Best in the World ถึงกับทำเอาคนในวงการไอทีที่รู้เทคโนโลยีไอพีเน็ตเวิร์กดี
ขำกลิ้งไปตามๆกันเพราะซิสโก้เป็นอุปกรณ์ที่เหมาะกับระดับเอนเตอร์ ไพรซหรือองค์กรธุรกิจเท่านั้น
ถ้าระดับโอเปอเรเตอร์ หรือผู้ให้บริการในลักษณะเป็นโครงข่ายของประเทศหรือแบ็กโบน
มีโปรดักต์ระดับโลกมากกมาย ที่มีผลงานทั่วโลกไม่ว่าจะเป็นจูนิเปอร์ นอร์เทลหรืออัลคาเทล
ที่เหมาะสมมากกว่า
แหล่งข่าวกล่าวว่า การสร้างชื่อซิสโก้ให้อยู่ในใจ ผู้บริหารรัฐวิสาหกิจถือเป็นผลงานชั้นเยี่ยมของเอไอที
ที่ฝังรากลึกจนถึงขั้นที่เรียกว่า หากมีโครงการด้านไอพีเน็ตเวิร์กหรือระบบโครงข่ายสื่อสารข้อมูล
ในการ เขียนเงื่อนไขหรือทีโออาร์ ผู้บริหารรัฐวิสาหกิจ ไม่ได้ ยึดหลักการเขียนเงื่อนไขตามความต้องการใช้งานของหน่วยงาน
แต่ใช้หลักการ เขียนเงื่อนไขตามความ ต้องการของพ่อค้าที่ต้องการขายของ
ผลงานระดับมาสเตอร์พีช เห็นได้จากโครงการ เช่าอุปกรณ์เครือข่ายและอุปกรณ์เกี่ยวเนื่องเพื่อให้บริการเครือข่ายออนไลน์
ของกรมการปกครองระยะที่ 1 จำนวน 300 แห่ง ที่จัดประกวดราคาแบบปิดหรือโคลสบิดโดยทศท.เนื่องจากมีการล็อกสเปกระบุยี่ห้อระบุรุ่นของอุปกรณ์ซิสโก้ที่พ่อค้าสั่งได้แบบซ้ายหันขวาหันรวมทั้งโครงการติดตั้งสายสัญญาณวงจร
VPN แบบ Leased Lineจำนวน 942 แห่งกับวงจร VPDN แบบ Dial Line อีก 7,549 แห่งเพื่อใช้ในระบบเครือข่าย
อินเทอร์เน็ตของกระทรวงศึกษาธิการผ่านทางทศท.ในโครงการสคูลเน็ต
วิ่งสู้ฟัดหวังเฟส 2
ส่วนโครงการ Gigabit Ethernet Wan Network ของกสท.นั้น นายธีระพงศ์ สุทธินนท์
ผู้ว่า การกสท.อึดอัดใจเป็นอย่างมากกับการล้วงลูกของนายไกรสร เนื่องจากโครงการนี้ยังได้รับการร้องเรียน
ในประเด็นความไม่โปร่งใส ควรรอให้บอร์ดใหม่พิจารณามากกว่า เนื่องจากผลการพิจารณาของคณะกรรมการ
ให้ผู้เสนอราคาต่ำสุดตกสเปกผิดเงื่อนไข ทั้งๆที่ก่อนหน้านี้กรรมการได้เรียกบริษัท
โลคัส เข้ามาชี้แจงเพิ่มเติม จนเข้าใจถูกต้องว่าผ่านการพิจารณาด้านเทคนิคเรียบร้อยแล้ว
แต่ภายหลังได้มีการกลับคำตัดสินโดยให้ตกสเปก พร้อมทั้งให้รีบ นำเรื่องเข้าพิจารณาอนุมัติในบอร์ดกสท.ทันที
ในขณะที่เอไอที กรรมการเห็นว่าผ่านด้านเทคนิคแบบครบถ้วน 100% ไม่ผิดเพี้ยน ทั้งๆที่คน
ในวงการไอทีรู้กันดีว่าหากไม่ลอกสเปกอุปกรณ์เขียน เป็นเงื่อนไขไม่มีทางถูกต้องชนิดไม่มีข้อตำหนิ
เพียงแต่จะผิดในส่วนเป็นสาระสำคัญหรือไม่เท่านั้น ซึ่งเชื่อ ว่าข้อเสนอของเอไอทีก็เข้าข่ายดังกล่าวเพียงแต่กรรม
การจะทำเป็นมองไม่เห็น ไม่นำขึ้นมาพิจารณาเท่านั้น
"สาเหตุที่ต้องชนะให้ได้ เป็นเพราะมีเป้าหมายในเฟสที่ 2 วงเงินสูงกว่า 600
ล้านบาทมีการล็อก สเปกอุปกรณ์ล่วงหน้าให้ซิสโก้ไว้แล้ว ซึ่งเมื่อถึงตอน นั้นผู้บริหารกสท.จะใช้เหตุผลยอดนิยมว่า
ต้องซื้อซ้ำรีพีทออเดอร์ให้เกิดความรวดเร็วและจำเป็นต้องใช้ ซิสโก้เพราะไม่มีปัญหาเรื่องการต่อเชื่อม
ต้องใช้อุปกรณ์ยี่ห้อเดียวกัน"
แหล่งข่าวกล่าวว่าถือเป็นงานหนักของคุณหญิง ทิพาวดี เมฆสวรรค์ ในการเป็นประธานบอร์ดของ
2 รัฐวิสาหกิจทั้งทศท.และกสท.โดยเฉพาะในเรื่องการสร้างอาณาจักรของกลุ่มผู้บริหารและพ่อค้าในเรื่องไอพีเน็ตเวิร์กและอุปกรณ์เครือข่าย
เนื่องจากเป็นเทคโนโลยีใหม่ที่มีคนเชี่ยวชาญไม่มากนัก ที่สำคัญคือโครงข่ายสายสัมพันธ์ผู้บริหารที่พ่อค้าเข้าไปเจาะแบบถึงตัวถึงลูกถึงคน
ขนาดที่เรียกว่าดูแลลงไปถึงรุ่นลูกไปเที่ยวมีเรื่องทะเบาะเบาะแว้ง ก็พร้อมเข้าไปเคลียร์ให้หมด
"ทุกวันนี้โครงข่ายผลประโยชน์ดังกล่าวขยายวงไปมาก ลามจากทศท.ไปกสท.จากเงินที่ใช้เลี้ยงดูปูเสื่อให้ผู้บริหารไปตีกอล์ฟ
ที่สะท้อนกลับมาเป็นต้น ทุนอุปกรณ์ที่รัฐต้องใช้เงินภาษีอากรไปซื้อของแพง เพราะของถูกของดีก็จะถูกทำให้ตกสเปก
หรือไม่ก็ล็อกให้ของดีตกสเปกตั้งแต่ต้น เป็นวงจรอุบาทว์ที่นับวันจะขยายตัวเพิ่มขึ้น
การที่คุณหญิงทิพาวดีเป็น ประธานบอร์ดทั้งทศท.และกสท.น่าจะเป็นเรื่องดีที่จะเข้ามาสะสางปัญหาดังกล่าว"