เซ็นทรัลยอมจ่าย 540 ล้านบาท ยุติข้อพิพาทการเช่าที่ดิน รถไฟจับเซ็นกรอบข้อตกลงแนบ
ท้ายสัญญา แบ่งจ่าย 8 งวด ทำให้สัญญามีผลต่อไป "สุทธิชาติ"เจรจาเอง ยันไม่บิดพลิ้ว
เตรียมวางค้ำประกัน 3 ล้านบาทเร็วๆ นี้
วานนี้ (26 มี.ค.) นายสุริยะ จึงรุ่งเรืองกิจ รมว.คมนาคมพร้อมด้วย นายปริญญา
จินดาประเสริฐ ประธานคณะกรรมการ การรถไฟแห่ง ประเทศไทย (ร.ฟ.ท.) นายจิตสันติ ธนะโสภณ
ผู้ว่าฯ รถไฟ พล.ต.อ.วุฒิชัย ศรีรัตนวุฒิ รองผู้บัญชาการ สำนักงานตำรวจแห่งชาติ
ในฐานะประธานคณะกรรมการตรวจสอบพื้นที่และแบบแปลนแผนผังตามสัญญาเช่าที่ดินรถไฟ ได้ประชุมร่วมกับนายสุทธิชาติ
จิราธิวัฒน์ กรรมการ บริหารบริษัทในเครือกลุ่มเซ็นทรัล ตามที่เซ็นทรัลได้ทำหนังสือถึงผู้ว่าฯรถไฟขอเจรจาเพื่อยุติข้อพิพาทในสัญญาเช่าที่ดินรถไฟของเซ็นทรัลบริเวณสามเหลี่ยมพหลโยธิน
ซึ่งรถไฟพบว่าเซ็นทรัลทำผิดสัญญากรณีดัดแปลงต่อเติมอาคารโดยไม่ได้รับอนุญาต
นายสุริยะ กล่าวหลังการประชุม ว่า ข้อพิพาทที่เกิดขึ้นได้ข้อยุติ ที่เป็นประโยชน์ต่อทั้งรถไฟและเซ็นทรัลแล้ว
โดยหลังจากที่เซ็นทรัลยอมรับว่าทำการดัดแปลงอาคารโดยไม่ได้รับอนุญาตจากรถไฟจริง
จึงมีการทำบันทึกข้อตกลงร่วมกัน เพื่อเสนอให้บอร์ดรถไฟพิจารณา จากเดิมที่บอร์ดรถไฟจะประชุมเพื่อรับรองมติการประชุมบอร์ด
เมื่อวันที่ 19 มี.ค.ที่ผ่านมา ที่ให้ยกเลิกสัญญากับเซ็นทรัล
สำหรับบันทึกข้อตกลงดังกล่าว จะเป็นเอกสาร แนบท้ายสัญญา มีสาระสำคัญคือ 1. ผู้ให้เช่าคือรถไฟ
ได้ตรวจพบว่ามีการต่อเติม ดัดแปลง อาคาร สิ่งปลูก สร้างในสถานที่เช่าตามสัญญาเช่าที่ดินหลายครั้งหลาย
หน 2. ผู้เช่าคือเซ็นทรัลรับว่าได้ทำการต่อเติม อาคาร สิ่งปลูกสร้างในสถานที่เช่าตามสัญญาเช่าที่ดินหลายครั้งหลายหน
โดยไม่ได้รับอนุญาตจากรถไฟก่อน 3. เซ็นทรัลจะชำระค่าชดเชยเป็นเงินจำนวน 540 ล้านบาทแก่รถไฟ
4. โดยบันทึกข้อตกลงนี้ให้ถือว่า รถไฟ ได้อนุญาตให้เซ็นทรัลดำเนินการต่อเติมดัดแปลง
อาคาร สิ่งปลูกสร้างแล้ว 5.ค่าชดเชยที่เซ็นทรัล จะชำระให้รถไฟให้ใช้กับกรณีตามบันทึกข้อตกลงนี้เท่านั้น
รถไฟตกลงจะไม่นำไปใช้กับเซ็นทรัลในกรณี อื่น 6. นอกจากที่ระบุไว้ในบันทึกข้อตกลงนี้
ให้ถือ ว่าสัญญาเช่าที่ดินยังคงมีผลผูกพันระหว่างรถไฟและเซ็นทรัลตามเดิมทุกประการ
ส่วนการเงินค่าชดเชย 540 ล้านบาทนั้น ได้ประเมินเป็น 2 ช่วง คือ ช่วงที่มีการดัดแปลงจนกระทั่งมีการตรวจพบ
(ปี41-ม.ค.46) ประมาณ 162 ล้านบาท โดยเซ็นทรัลจะแบ่งจ่าย 2 งวด คือ วันที่ 31 มี.ค.46
จำนวน 81 ล้านบาท และ 30 มิ.ย.46 จำนวน 81 ล้านบาท ส่วนเงินรายได้ที่เกิดหลังจากที่มีการตรวจพบว่าเซ็นทรัลทำผิดสัญญา
(ก.พ. 46-สิ้น สุดสัญญาปี 51) จำนวน 378 ล้านบาท เซ็นทรัลแบ่ง จ่ายอีก 6 งวด คือ
วันที่ 30 ธ.ค. 46 จำนวน43 ล้าน บาท วันที่ 30 ธ.ค.47 จำนวน 67 ล้านบาท วันที่
30 ธ.ค. 48จำนวน 67 ล้านบาท วันที่ 30 ธ.ค.49 จำนวน 67 ล้านบาท วันที่ 30 ธ.ค.50
จำนวน 67 ล้านบาท และวันที่ 18 ธ.ค.51 จำนวน 67 ล้านบาท เนื่องจากสัญญาจะหมดอายุในวันที่
19 ธ.ค. 51
"วันนี้ผมดีใจมากที่ได้ข้อยุติ ถือเป็นการส่งสัญญาณว่า รัฐและเอกชนที่เป็นคู่สัญญากันสามารถ
ทำงานร่วมกันได้อย่างมีประสิทธิภาพ ซึ่งรายได้ดังกล่าวรถไฟจะนำไปปรับปรุงบริการให้ดีขึ้น
ส่วนเซ็นทรัลก็ต้องกลับไปพัฒนาธุรกิจของตัวเองเพื่อหารายได้เพิ่มขึ้นอีก ซึ่งที่ผ่านมาเราได้ดำเนินการทุกอย่าง
ตรงไปตรงมา และไม่อยากให้เกิดปัญหา และมีจุด ยืนที่ชัดเจน แม้เซ็นทรัลจะขอให้ขยายกรอบการเจรจา
ออกไป"นายสุริยะ กล่าว ด้านนายสุทธิชาติ จิราธิวัฒน์ กล่าวยืนยันว่า ต้องการเรื่องนี้ยุติโดยเร็ว
ที่ผ่านมาไม่ได้มาเจรจา เพราะเป็นขั้นตอนของกฎหมาย ก็เลย อยากให้ฝ่ายกฎหมายทำ แต่ตอนนี้ต้องทำแบบนักธุรกิจ
อย่างไรก็ตาม จะดำเนินการตามกรอบข้อตกลง ดังกล่าวที่ได้มีการลงนามกับรถไฟ ส่วนเงินค้ำประกัน
3 ล้านบาทนั้น จะนำมาชำระเร็วที่สุด
นายสัญญา สถิรบุตร กรรมการรถไฟกล่าวว่า ที่ประชุมบอร์ดได้พิจารณาผลสรุปการเจรจาที่ยุติระหว่างรถไฟและเซ็นทรัล
เนื่องจากก่อนหน้านี้บอร์ด กำหนดจะประชุมครั้งนี้เพื่อรับรองมติเมื่อวันที่ 19
มี.ค.46 ที่ยกเลิกสัญญา แต่การยกเลิกยังไม่สมบูรณ์ จนกว่าจะมีการประชุมรับรองมติอีกครั้ง
ดังนั้นเมื่อเซ็นทรัลมาขอเจรจาและได้ข้อยุติก่อนที่บอร์ดจะรับรองมติยกเลิกสัญญาก็สามารถทำได้