|
“ฮอนด้า”หดเป้ายอดขายจยย.แสนคัน
ผู้จัดการรายวัน(4 พฤษภาคม 2550)
กลับสู่หน้าหลัก
เจ้าตลาดรถจักรยานยนต์ “ฮอนด้า” ฝ่าสภาวะตลาดดิ่งเหวไม่ไหว ประกาศปรับเป้าหมายการขายลงเหลือ 1.2 ล้านคัน จากเดิมตั้งเป้า 1.3 ล้านคัน ตามตัวเลขตลาดรวมที่ปรับใหม่เหลือ 1.76 ล้านคัน นับว่าติดลบเป็นครั้งแรกในรอบ 7 ปี เหตุเศรษฐกิจวูบ การเมืองพ่นพิษ และอัตราการถือครองรถต่อคันสูงมากจนต้องทำให้แต่ละยี่ห้อหันมาแข่งเปิดตัวรถใหม่ ล่าสุดฮอนด้า ส่ง เวฟ 125 เอ็กซ์ ใหม่ ตอบสนองความต้องการลูกค้าให้ตรงกลุ่มเป้าหมายที่สุด
นาย เซ็นชิโร ซากุราอิ ประธานกรรมการบริหาร บริษัท เอ.พี. ฮอนด้า จำกัด ผู้จำหน่ายรถจักรยานยนต์ฮอนด้าในไทย เปิดเผยว่า หลังจากช่วงเดือนตุลาคมที่ผ่านมา ตลาดรถจักรยานยนต์ในประเทศไทยได้เริ่มเติบโตในลักษณะถดถอย ภายหลังเติบโตอย่างต่อเนื่องมาเป็นระยะเวลานาน จนมาถึงช่วงไตรมาสแรกของปีนี้ ตลาดรถจักรยานยนต์เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีที่แล้ว มียอดขายลดลง 15% หรือมีทั้งสิ้นกว่า 4.15 แสนคัน โดย ฮอนด้า ทำได้ 2.88 แสนคัน ลดลงจากปีก่อน 8% ซึ่งถือว่ามีอัตราลดลงน้อยที่สุดในตลาด
“จากสภาพการณ์ที่เกิดขึ้นเช่นนี้ ทำให้ฮอนด้าต้องปรับลดประมาณการณ์ตลาดรถจักรยานยนต์ไทยปีนี้ จากเดิม คาดไว้ใกล้เคียงกับปีที่แล้ว 1.9 ล้านคัน ลดลงเหลือเพียง 1.76 ล้านคัน นับว่าเป็นตัวเลขที่ติดลบครั้งแรกในรอบ 7 ปี และในส่วนของฮอนด้า ก็ได้ปรับเป้าหมายการขายลงตาม เหลือเพียง 1.2 ล้านคัน จากเดิมตั้งเป้าไว้ 1.3 ล้านคัน ซึ่งปีที่แล้วฮอนด้าทำได้ 1.267 ล้านคัน”
ปัจจัยที่ส่งผลให้ตลาดรถจักรยานยนต์ลดลงมาจากสภาวะเศรษฐกิจที่ชะลอตัว ความผันผวนทางการเมือง และปัจจุบันอัตราถือครองรถจักรยานยนต์ของคนไทยสูงมาก โดยอยู่ที่ 4 คนต่อรถ 1 คัน อย่างไรก็ตาม ฮอนด้า ยังเชื่อมั่นพื้นฐานเศรษฐกิจไทย ที่ยังแข็งแกร่ง เพียงแต่มีสิ่งที่มากระทบต่อความเชื่อมั่นของผู้บริโภคจนชะลอหรือหยุดการบริโภคไป หากสถานการณ์คลี่คลาย เช่นมีการเลือกตั้งปลายปีนี้ก็เชื่อว่า อนาคตจะทำให้ตลาดรถจักรยานยนต์ กลับมาเติบโตอีกครั้ง อาจจะไม่เติบโตแบบก้าวกระโดดเหมือนเช่นที่ผ่านๆ มา แต่ก็มีความมั่นคงหรือขยายตัวแบบคงที่มากกว่า
นายซากุราอิ เปิดเผยว่า ส่วนอัตราการถือครองรถจักรยานยนต์ของคนไทยที่สูงมาก หากดูแต่ละพื้นที่จะเห็นว่า ยังมีความแตกต่างกันอยู่ อย่างเขตกรุงเทพฯ หรือปริมณฑล จะมีสัดส่วนอยู่ที่ประมาณ 2-3 คนต่อรถจักรยานยนต์ 1 คัน ซึ่งถือว่าเป็นตัวเลขที่สูงมาก ขณะที่อัตราถือครองในภาคเหนือหรืออีสาน ยังมีสัดส่วนที่ยังต่ำอยู่มาก ฉะนั้นโอกาสในการเติบโตยังมีอีก
“สิ่งที่เกิดขึ้นทำให้ความต้องการรถจักรยานยนต์ของแต่ละพื้นที่แตกต่างกัน โดยกรุงเทพฯ ที่มีอัตราการถือครองสูง จะหันไปสนใจรถจักรยานยนต์ที่มีคุณภาพ หรือเป็นรถแนวใหม่ แต่ในพื้นที่ที่ยังถือครองรถจักรยานยนต์ต่อคันต่ำยังต้องการรถจักรยานยนต์ที่มีราคาต่ำอยู่เช่นเดิม ตรงนี้จึงจำเป็นต้องมีผลิตภัณฑ์ที่สามารถตอบสนองลูกค้าได้ทุกตลาด ยิ่งตลาดรถจักรยานยนต์นิ่งเท่าไหร่ แต่ละยี่ห้อก็จะไปเน้นการแข่งขันออกรถจักรยานยนต์รุ่นใหม่ๆ มากขึ้น”
สำหรับฮอนด้า ในปีนี้ได้เตรียมเปิดตัวรถจักรยานยนต์ใหม่ 11 รุ่น ทั้งแบบตกแต่งพิเศษ ไมเนอร์เชนจ์ และโมเดลเชนจ์ โดยนับตั้งแต่ต้นปี ได้เปิดตัวไปแล้วกับ ฮอนด้า คลิก เพลย์ รถจักรยานยนต์เกียร์ออโตเมติกหรือเอทีที่ตลาดกำลังเติบโตสูงมาก และล่าสุดได้มีการเปิดตัวรถจักรยานยนต์รุ่น เวฟ 125 โมเดลใหม่ ในชื่อรุ่น “X” หรือ เอ๊กซ์ ซีรี่ส์ สู่ตลาด เพิ่มเสริม รุ่นเวฟ เอส และเวฟ ไอ (รุ่นหัวฉีด) ทั้งนี้ได้ตั้งเป้าจำหน่ายรถจักรยานยนต์รุ่น เอ็กซ์ ซีรี่ส์ ที่ 1 แสนคันต่อปี
โดยจุดเด่นของเวฟ 125 เอ็กซ์ ใหม่ ได้ออกแบบภายใต้คอนเซ็ปต์ให้มีความคล่องตัว คล่องแคล่ว ว่องไว เน้นพื้นผิวให้ดูเพรียวแต่ยังแฝงความแข็งแกร่งมีพลังเหมือนกล้ามเนื้อ ใช้เครื่องยนต์ 4 จังหวะ 125 ซีซี. พื้นฐานเดียวกับรุ่นเวฟ 125 อาร์ ซึ่ง เอ็กซ์ ซีรี่ส์จะเข้ามาทำตลาดทดแทน ที่สำคัญ เวฟ 125 เอ็กซ์ ใหม่ ยังมีอุปกรณ์อำนวยความสะดวกครบครัน อาทิ U-Box และอุปกรณ์เสริมความปลอดภัย Keyshutter หรือกุญแจนิรภัยสองชั้น รวมทั้งอุปกรณ์ติดรถอื่นๆ มากมาย โดยมีเป้าหมายส่วนใหญ่เป็นกลุ่มวัยรุ่น
กลับสู่หน้าหลัก
ผลงานนี้ ใช้สัญญาอนุญาตของครีเอทีฟคอมมอนส์แบบ แสดงที่มา-ไม่ใช้เพื่อการค้า-ไม่ดัดแปลง 3.0 ประเทศไทย
(cc) 2008 ASTVmanager Co., Ltd. Some Rights Reserved.
|