ซีเมนส์เปิดศึกโมโตโรล่าชิงแชร์อันดับ2 เพิมความหลากหลายกำจัดจุดอ่อนปี45


ผู้จัดการรายวัน(25 มีนาคม 2546)



กลับสู่หน้าหลัก

ซีเมนส์ประกาศกร้าวยึดผู้นำอันดับสองตลาดมือถือไทยเพียงผู้เดียว หลังตัวเลขมาร์เก็ตแชร์ปี 2545 เบียดกับโมโตโรล่าแบบฉิ่วเฉียด เตรียมลบจุดอ่อนเรื่องโปรดักต์ขาดความหลากหลายเป็นอุปสรรคหลักในช่วงปีที่ผ่านมา พร้อมอัดรุ่นใหม่เข้าสู่ตลาดเพิ่มอีก 7-8 รุ่น ตอบรับความต้องการผู้บริโภคที่เน้นเรื่องเอนเตอร์เทนเมนต์มากขึ้น ขายความเป็นโทรศัพท์มัลติมีเดีย สร้างภาพลักษณ์แบรนด์ยังส์เจนเนอเรชั่นที่ทันสมัย อินเทรนด์ รับกระแสแฟชั่นโฟน เสริมงบการตลาดกว่า 300 ล้านบาททำกิจกรรม มากยิ่งขึ้น

นางสุวรรณี สิงห์ฤาเดช ผู้ช่วยรองประธานฝ่ายอุปกรณ์สื่อ สารและโทรศัพท์มือถือ บริษัท ซีเมนส์ โมบาย(ประเทศไทย) จำกัด เปิดเผยว่า ผลการดำเนินงานของซีเมนส์โมบายในช่วงปี 2545 ที่ผ่าน มา ตัวเลขส่วนแบ่งทางการตลาดของบริษัทอยู่ที่ประมาณ 17-18% ทำให้โมโตโรล่าแซงขึ้นไปอยู่ในอันดับสองของตลาดมือถือไทย ซึ่งตัวเลขส่วนแบ่งทางการตลาดระหว่างอันดับที่สองและสามนั้นค่อนข้างที่จะใกล้เคียงกันมาก ทางซีเมนส์คิดว่าการที่อยู่อันดับที่สองหรือที่สามในขณะนี้ไม่ใช่เรื่องแปลก แต่ที่สำคัญในปีนี้ทางบริษัทต้อง การที่จะเป็นผู้นำอันดับที่สองของตลาดอย่างชัดเจน โดยมีส่วนแบ่งทางการตลาดประมาณ 20%

"เรายอมรับได้ไม่ว่าจะเป็นที่สองหรือที่สาม แต่ยังไม่เชื่อในตัวเลขที่บ่งบอกออกมามากนัก เนื่องจากเป็นตัวเลขที่ใกล้เคียงกันมาก จนแทบจะไม่แตกต่างกันเลยกับการที่ผู้ให้บริการอีกรายหนึ่งในตลาดบอกว่าตัวเองเป็นผู้นำอันดับของตลาดอยู่ในขณะนี้"

จุดอ่อนที่สำคัญของซีเมนส์ในช่วงปีที่ผ่านมา คือการที่มีโทร-ศัพท์มือถือออกสู่ตลาดน้อยเกินไป หากเทียบกับคู่แข่งในตลาด ทำให้ในปีนี้ทางบริษัทมีแผนที่จะเปิดตัวโทรศัพท์มือถือเพื่อเพิ่มความ หลากหลายในกับแบรนด์ซีเมนส์มากยิ่งขึ้น และยังเป็นการกำจัดจุดอ่อนที่สำคัญไปด้วย ซึ่งคาดว่าจะมีการเปิดตัวโทรศัพท์มือถือซีเมนส์รุ่นใหม่ๆ ออกสู่ตลาดอีกประมาณ 7-8 รุ่น

นางสุวรรณี กล่าวว่าในการทำตลาดมือถือในปี 2546 ต้องยอม รับว่ามีการเปลี่ยนแปลงที่รวดเร็ว และมีโอกาสที่จะเกิดการพลิกผันได้ตลอดเวลา อยู่ที่ว่าผู้ประกอบการรายใดจะมีการปรับตัวได้รวด เร็วตอบรับกับกระแสการเปลี่ยน แปลงได้มากน้อยกว่ากัน ในตัวของ ซีเมนส์เองตามแผนการเปิดตัวรุ่นใหม่ขณะนี้อาจจะมีอยู่ประมาณ 7-8 รุ่น แต่หากตลาดมีการเปลี่ยนการเปิดตัวมือถือรุ่นใหม่อาจจะมีมากกว่า 10 รุ่นก็ได้ ขึ้นอยู่กับการประเมินสถานการณ์ตลาด

"ขณะนี้การทำแผนการตลาด จะต้องมีทั้งแผนระยะยาวที่วางไว้ทั้งปี แต่ในความเป็นจริง ธุรกิจมือถือมีการแข่งขันที่สูงมากและมีอัตราการเติบโตที่น่าจะแตกต่างจาก ช่วงปีที่ผ่านมา ทำให้การปรับแผน การตลาดและการติดตามนั้นจะต้องมีการเปลี่ยนแปลงทุก 2-3 เดือน เพราะไม่มีใครที่สามารถคาด การณ์ธุรกิจได้ในระยะยาว"

ทั้งนี้โทรศัพท์รุ่นใหม่ของ ซีเมนส์ที่จะนำเข้ามาทำตลาดในประเทศไทยนั้น ซีเมนส์พิจารณาถึงความเหมาะสมในการใช้งานให้สอดคล้องกับความต้องการของผู้บริโภคคนไทยมากที่สุด ทำให้โทรศัพท์รุ่น ใหม่ที่ออกในตลาดประ เทศทุกรุ่น ไม่จำเป็นที่จะต้องนำเข้า มาเปิดตลาดในประเทศไทย เนื่อง จากผู้บริโภคคนไทยอาจไม่ต้องการ มือถือในรุ่นที่มีฟีเจอร์ที่ให้มาในเครื่อง ทำให้การทำตลาดยากที่จะแข่งขันด้วย

สิ่งที่จะเกิดขึ้นสำหรับโทร-ศัพท์มือถือรุ่นใหม่ของซีเมนส์จะเฉพาะเจาะจงกับกลุ่มลูกค้าในแต่ละเซกเมนต์มากที่สุด จนอาจจะทำให้เกิดกลุ่มใหม่ๆ สำหรับลูกค้าซีเมนส์ได้ ซึ่งจะเป็นการแบ่งย่อยกลุ่มลูกค้าเฉพาะเจาะจงในแต่ละตลาด แต่ทั้งหมดจะเกาะในกลุ่มเซกเมนต์เดิม

สำหรับเทรนด์ของมือถือที่จะเห็นในปีนี้นั้น เน้นไปที่ฟีเจอร์ ฟังก์ชั่นที่มากขึ้น ไม่ว่าจะเป็นเรื่องของจอสี จาวา MMS GPRS เนื่อง จากการเปลี่ยนโทรศัพท์มือถือ ณ วันนี้จะมีเรื่องของเทคโนโลยีเข้ามาเป็นตัวแปรสำคัญในการเลือกซื้อของกลุ่มผู้บริโภค ที่สำคัญการเข้ามาของโทรศัพท์มือถือทุกยี่ห้อในปีนี้จะประกอบไปด้วย แง่มุมของเรื่องเอนเตอร์เทนเมนต์เป็นหลัก โทรศัพท์มือถือที่ออก ส่วนใหญ่จึงมุ่งไปสู่การเป็นโทรศัพท์มัลติมีเดียมากขึ้น

ส่วนมือถือซีเมนส์เองจะมีการตอบสนองฟีเจอร์ฟังก์ชั่นที่แตกต่างกันไป เพื่อให้สามารถเข้า ไปตอบสนองความต้องการของลูกค้า ในทุกเซกเมนต์ โดยมีเรื่องของราคาและฟีเจอร์เข้ามาเป็นตัวแปรสำคัญที่ทำให้ผู้บริโภคได้มีการเปลี่ยนเทียบกับโปรดักต์ของคู่แข่งในตลาด อย่างที่ซีเมนส์ได้เปิดตัวมือถือรุ่น S57 จะเห็นได้ว่าเป็นโทรศัพท์ที่มีฟีเจอร์มากมายและเป็นบิสซิเนสยูสอย่าง แท้จริง หากนำไปเปรียบเทียบกับคู่แข่งทั้งด้านโปรดักส์ คุณสมบัติและราคา ซีเมนส์เหนือกว่าค่อนข้างมาก

สำหรับแผนการตลาดทาง ซีเมนส์ยังคงยึดในเรื่องของการปรับตัวเองให้เป็นแบรนด์ยังส์เจนเนอเรชั่น โดยการอาศัยกิจกรรมหลักที่บ่งบอกความเป็นซีเมนส์ผ่าน กิจกรรมดนตรี กีฬา สามารถสะท้อนความเป็นแบรนด์ รวมทั้งจะต้องตอบโจทย์ความต้องการของ ลูกค้าให้ได้ โดยการอาศัยความแข็งแกร่งของบริษัทซีเมนส์เป็นฐาน เสริมศักยภาพการแข่งขันสะท้อนความน่าเชื่อถือ ความทันสมัย อินเทรนด์และการเป็นโทรศัพท์แฟชั่น

"ลูกค้าทุกคนไม่มีใครอยากแก่ ทุกคนต้องการความเป็นเด็ก หรือยังส์เจนเนอเรชั่น ซึ่งอาจจะมีอยู่มากหรือน้อยนั้นขึ้นอยู่กับความ ต้องการของแต่ละคน มือถือซีเมนส์ จึงต้องมีการปรับเปลี่ยนตัวเองอยู่ตลอดเวลาเพื่อให้เป็นแบรนด์ที่สนองความต้องการในเรื่องนี้ ซึ่งในแบรนด์ซีเมนส์มีแวลลูในเรื่องความทันสมัยอยู่แล้ว" นางสุวรรณี กล่าวและว่า

ซีเมนส์ต้องการเป็นท็อป ออฟมายแบรนด์ในใจผู้บริโภค ซึ่ง ณ วันนี้หากพูดถึงแบรนด์มือถือใน ใจผู้บริโภคคิดว่ามีอยู่สามแบรนด์ได้แก่ โนเกีย โมโตโรล่า และก็ ซีเมนส์

นอกจากนี้ซีเมนส์ยังมีการร่วมกับพันธมิตรในกลุ่มต่างๆ เพื่อทำตลาดร่วมกัน โดยเฉพาะอย่างยิ่งเรื่องของแอปพลิเคชั่นใหม่ที่จะเกิดขึ้นมาเพื่อรองรับความต้องการ ใช้งานที่หลากหลายของผู้บริโภค ลักษณะเช่นนี้ซีเมนส์ทำงานร่วมกับพาร์ตเนอร์เพื่อให้เกิดโซลูชั่นร่วม กันเพราะปัจจุบันการขายโทรศัพท์ จะต้องมีเรื่องของแอปพลิเคชั่น พ่วงเข้ามานำเสนอสำหรับการเปิดตัวโทรศัพท์รุ่นใหม่

นางสุวรรณีกล่าวอีกว่าซีเมนส์ ให้ความสำคัญกับตลาดในประเทศ ไทยเป็นอันดับที่สองในเอเชียรองจากประเทศจีน แนวโน้มการ เติบ โตไม่น่าจะต่ำกว่าช่วงปีที่ผ่านมาหรือ ประมาณ 8 ล้านเครื่อง ทำให้ซีเมนส์ ตั้งงบด้านการตลาดมากขึ้นเป็น 300 ล้านบาท จากปีที่ผ่านมาที่ใช้งบประมาณในส่วนนี้ไป 250 ล้านบาท ซึ่งจะเป็นส่วนเสริมสำคัญที่ทำให้ซีเมนส์บรรลุเป้าหมายการเป็นผู้นำตลาดอันดับสองได้ในปีนี้



กลับสู่หน้าหลัก

Creative Commons License
ผลงานนี้ ใช้สัญญาอนุญาตของครีเอทีฟคอมมอนส์แบบ แสดงที่มา-ไม่ใช้เพื่อการค้า-ไม่ดัดแปลง 3.0 ประเทศไทย



(cc) 2008 ASTVmanager Co., Ltd. Some Rights Reserved.