|
“ชาเขียวพร้อมดื่ม”อ่อนแรงผู้ผลิตตบเท้าปั้นสินค้าใหม่แทน
ผู้จัดการรายวัน(3 พฤษภาคม 2550)
กลับสู่หน้าหลัก
ทัพเครื่องดื่มถล่มชาเขียวขาลง พาเหรดปั้นชาพร้อมดื่มรูปแบบใหม่เสียบแทน ยูนิลีเวอร์ ส่งมิลค์ ที ชาชงผสมนม ยูนิ-เพรสซิเดนท์ คลอดชานมพร้อมดื่มรสข้าวบาร์เลย์ ด้านโออิชิผู้นำตลาดชาเขียวสู้ยิบตา กระทุ้งการดื่มรอบด้านหวังตลาดหวนคืน
สภาพตลาดชาเขียวที่ลดลงอย่างต่อเนื่องตั้งแต่ปี 2548 จากมูลค่ามากกว่า 5,000ล้านบาท กระทั่งปัจจุบันตลาดชาเขียวเหลือมูลค่าเพียง 3,000ล้านบาท ทว่าในภาวะที่ชาเขียวอยู่ในช่วงขาลง ผู้ประกอบการรายอื่นๆ ต่างฉกฉวยโอกาสอันดีนี้เปิดตัวชาพร้อมดื่มในรูปแบบต่างๆ นับตั้งแต่ต้นปีที่ผ่านมานี้
รายงานความเคลื่อนไหวล่าสุด บริษัทยูนิลีเวอร์ ไทย เทรดดิ้ง เปิดตัวชาผงซองรูปแบบใหม่”มิลค์ ที” ลงสู่ตลาด โดยเป็นชาผสมนมสำหรับชงดื่มทั้งในรูปแบบร้อนและเย็น เพิ่มเติมจากเดิมที่มีเพียงชาชนิดผงรสชาติออริจินัลเท่านั้น นับว่าเป็นการเคลื่อนไหวทางการตลาดครั้งแรกในรอบหลายปี สำหรับลิปตันภายใต้เงื้อมมือของบริษัทยักษ์อย่างยูนิลีเวอร์
ส่วนหนึ่งเป็นเพราะบริษัทดังกล่าว มีนโยบายรุกตลาดอาหารมากขึ้นตั้งแต่ปีที่ผ่านมา ภายใต้กลุ่มผลิตภัณฑ์อาหารแบรนด์เบสท์ฟู้ดส์,คนอร์ ,วอลล์ และลิปตัน โดยนโยบายหลักของการรุกตลาดอาหารเน้นหนักการครีเอต ดีมานต์ใหม่ๆ สอดคล้องกับวิถีชีวิตของผู้บริโภคที่เปลี่ยนแปลงไป ไม่มีเวลาทำอาหารเอง และต้องการบริโภคอาหารที่มีคุณค่าทางโภชนาการและมีน้ำตาลน้อย
ยูนิฯ ปั้นชารสข้าวบาร์เลย์
ด้านบริษัท ยูนิ-เพรสซิเดนท์ (ประเทศไทย) จำกัด ผู้ผลิตและจัดจำหน่ายชาเขียวพร้อมดื่มยูนิฟ กรีนที ได้เคลื่อนไหวด้วยการเปิดตัวชาพร้อมดื่มรสข้าวบาร์เลย์ ขนาด 350 มล.ราคา 20 บาท โดยเป็นชาระดับพรีเมียม เริ่มวางจำหน่ายผ่านช่องทางร้านสะดวกซื้อเซเว่นอีเลฟเว่นเช่นกัน ทั้งนี้ ปัจจัยที่ทำให้บริษัทดังกล่าวหันมาขยายโปรดักส์ไลน์ใหม่ อาทิ ชาพร้อมดื่ม เนื่องจากตลาดชาเขียวพร้อมดื่มมีอัตราการเติบโตที่น้อยลง ในขณะที่ ยูนิฟ กรีน ที เป็นสินค้าเรือธงอันดับ 2 สร้างรายได้ให้กับบริษัทถึง 30% รองจากกลุ่มน้ำผักและผลไม้มีสัดส่วนรายได้ถึง 40% ส่วนกลุ่มผลิตภัณฑ์เครื่องดื่มให้พลังงาน ยูนิฟ-ไอเฟิร์ม 10% กลุ่มผลิตภัณฑ์กาแฟอา-ฮ่า 10% และผลิตภัณฑ์ใหม่อีก 10%
เป๊ปซี่ฉวยโอกาสปั้นลิปตันชาแดง
นายชาลี จิตจรุงพร ผู้อำนวยการฝ่ายการตลาดบริษัท เป๊ปซี่-โคล่า (ไทย) เทรดดิ้ง จำกัด กล่าวว่า บริษัทฯได้เปิดตัวสินค้าใหม่ของชาลิปตัน คือ ลิปตันชาแดงเพื่อเป็นการสร้างทางเลือกใหม่ให้กับผู้บริโภคพร้อมกับเป็นการสร้างสีในในตลาดด้วย และเป้าหมายสำคัญ เพื่อเป็นการเพิ่มส่วนแบ่งทางการตลาดของลิปตันให้มากขึ้นอีก
ปีที่ผ่านมาตลาดชาโดยรวมมีอัตราการเติบโตที่ลดลง ซึ่งเป็นผลต่อเนื่องมาระยะหนึ่งแล้วโดยปีที่แล้วตลาดชารวมเหลือพียง 3,000 ล้านบาทเท่านั้น จากปี 2548 ที่มีตลาดรวมมากกว่า 5,000 ล้านบาท ในขณะที่ตลาดรวมชาเขียวเองนั้นซึ่งเป็นสัดส่วนมากที่สุดในตลาดชารวมถึง 80% ก็มีการปรับตัวลดลงมากถึง 36% เมื่อปีที่แล้ว
“ตลาดชาดำกลับเป็นตลาดที่มีอัตราการเติบโตอย่างต่อเนื่อง และมั่นคงเมื่อเทียบกับตลาดอื่น โดยเฉพาะชาเขียวที่บูมอย่างมากเมื่อช่วง 3-4 ปีที่ผ่านมา โดยปีที่แล้วชาดำเติบโต 10% ซึ่งส่วนหนึ่งเป็นผลมาจากการที่บริษัทฯ ได้ทำการตลาดกับผลิตภัณฑ์ชาลิปตันมาอย่างต่อเนื่องด้วย”
โออิชิพยายามปลุกตลาดชาเขียว
ภาวะดังกล่าวในฐานะโออิชิ ผู้นำตลาดชาเขียวพร้อมดื่มครองส่วนแบ่ง 56% ถึงกลับต้องควักกลยุทธ์การตลาดออกมากระตุ้นการดื่มของผู้บริโภค ในช่วงหน้านี้ชาเขียวพร้อมดื่มโออิชิ ส่งบรรจุภัณฑ์ 2 ขนาด ได้แก่ ขนาด 1ลิตร เพิ่มเติมลงมาโดยเป็นชาเขียวชนิดเข้มข้นเข้าไปอีก 20% เพื่อสร้างพฤติกรรมการดื่มในรูปแบบออนเดอะร็อก คือ ดื่มชาเขียวโดยเติมน้ำแข็งสำหรับดื่มที่บ้านและทั้งครอบครัว จากเดิมที่ผ่านมาการดื่มชาเขียวด้วยตัวบรรจุภัณฑ์ขวดเพ็ท และกล่องยูเอชทีเน้นความสะดวกสบาย ทำให้กลุ่มเป้าหมายมักจะมีไลฟ์สไตล์ดื่มนอกบ้านเป็นหลัก อีกทั้งยังส่งบรรจุภัณฑ์ขนาดเล็กขนาด 160 ซีซี ราคา 6บาท ทั้งนี้เพื่อขยายฐานลูกค้าในต่างจังหวัดมากขึ้น เนื่องจากกำลังการซื้อลดลง โดยจะจำหน่ายผ่านทางตู้แช่ร้านค้าโชวห่วย
กลับสู่หน้าหลัก
ผลงานนี้ ใช้สัญญาอนุญาตของครีเอทีฟคอมมอนส์แบบ แสดงที่มา-ไม่ใช้เพื่อการค้า-ไม่ดัดแปลง 3.0 ประเทศไทย
(cc) 2008 ASTVmanager Co., Ltd. Some Rights Reserved.
|