“กะรัต”เปิดศึกตลาดกลาง-บน ตั้งเป้าเบียดคู่แข่งติดท็อปทรี


ผู้จัดการรายสัปดาห์(30 เมษายน 2550)



กลับสู่หน้าหลัก

กะรัต ฟอเซท ชูจุดขายคุณภาพ-ดีไซน์-บริการ รุกตลาดกลาง-บน จับมือพันธมิตรต่างชาติใช้โนว์ฮาว หวังลดต้นทุนการผลิต พร้อมสู้ศึกตลาดโลก มั่นใจทิศทางตลาดก็อกน้ำยังสดใส ตั้งเป้าติดอันดับ 1 ใน 3 ผู้นำตลาดภายใน 3 ปี เตรียมเข้าตลาดหลักทรัพย์ปลายปี หวังระดมทุนขยายโรงงาน เพื่อเพิ่มกำลังการผลิต

กะรัต ฟอเซท เมื่อ 20 ปีที่แล้วถือเป็นหนึ่งขาในธุรกิจวัสดุก่อสร้างของ บมจ.ปูนซิเมนต์นครหลวง ในฐานะที่เป็นผู้ผลิตก็อกน้ำที่มีโนว์ฮาวการผลิตจากอิตาลี แต่ในช่วงหลังๆ นับจากปี 2543 เป็นต้นมาที่เกิดการเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่ หลังจากมีกลุ่มทุนต่างชาติกลุ่มใหม่เข้ามาถือหุ้นในบริษัทแม่ และตัดขายธุรกิจต่างๆ ในเครือออกไป เหลือไว้เพียงธุรกิจหลัก คือ ปูนซิเมนต์ และคอนกรีต เท่านั้น ในขณะที่ธุรกิจสุขภัณฑ์ที่ใช้แบรนด์กะรัตเช่นเดียวกัน กลุ่มโคห์เล่อร์จากอเมริกาเป็นผู้ซื้อกิจการไป

เพราะยังมองเห็นอนาคตว่าทิศทางของตลาดก็อกน้ำจะเติบโตได้ดี จึงทำให้ผู้บริหารของ กะรัต ฟอเซท ในขณะนั้นตัดสินใจซื้อหุ้นทั้งหมดจาก บมจ.ปูนซิเมนต์นครหลวง กลายมาเป็นผู้ถือหุ้นหลักในสัดส่วน 40% และขึ้นแท่นเป็นผู้บริหารนโยบายด้วยตัวเองอย่างเต็มตัว ซึ่ง อัครพงศ์ นิธยานนท์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท กะรัต ฟอเซท จำกัด กล่าวว่า ปัจจุบันบริษัทฯ เป็นผู้ผลิตและผู้จัดจำหน่ายก็อกน้ำ, ฟลัชวาล์ว, กระจก, บานกั้นห้องอาบน้ำ, อุปกรณ์ประกอบห้องน้ำ และอุปกรณ์อื่นๆ ภายใต้แบรนด์ “กะรัต ฟอเซท ”(Karat Faucet) ราคา 800-6,000 บาท เพื่อเจาะตลาดระดับกลาง-บน และแบรนด์ “โกบอล”(Global) ราคา 200-500 บาท เป็นสินค้าที่มีคุณภาพเหนือกว่าสินค้าจีน สำหรับเจาะตลาด Mass

นอกจากนี้ยังเป็นผู้นำเข้าและจัดจำหน่าย “วิเซนทิน” (Visentin) ก็อกน้ำระดับไฮเอนด์จากอิตาลี ราคาตั้งแต่ 5,000 บาทขึ้นไป เน้นดีไซน์และการใช้วัสดุตกแต่งที่หรูหรา เจาะตลาด Niche Market ปัจจุบันสัดส่วนการทำตลาดสินค้าแยกตามแบรนด์แบ่งเป็น กะรัต ฟอเซท 40% ,โกบอล 50% และ วิเซนทิน 10% โดยมีการจำหน่ายผ่านช่องทางผ่านตัวแทนจำหน่ายกว่า 600 ราย ในกรุงเทพฯ 50% และต่างจังหวัด 50%

อัครพงศ์ กล่าวว่า ปีนี้บริษัทฯ ตั้งเป้ารายได้รวม 360 ล้านบาท เติบโตขึ้นจากปีที่แล้ว 20% โดยเน้นการเติบโตจากสินค้าระดับกลางเป็นหลัก แบ่งเป็นยอดขายในประเทศ 325 ล้านบาท คิดเป็น 90% และยอดส่งออกต่างประเทศ 35 ล้านบาท คิดเป็น 10% จากการเจาะตลาดในเอเชีย และตะวันออกกลาง ทั้งนี้ไตรมาสแรกของปีนี้ บริษัทฯ สามารถทำยอดขายเติบโตจากช่วงเดียวกันของปีที่แล้ว 30% เนื่องจากมีการปรับปรุงไลน์สินค้าให้ชัดเจน หันมาผลิตสินค้าเฉพาะรุ่นที่ตรงกับความต้องการของลูกค้ามากขึ้น และมีการปรับปรุงด้านบริการ โดยใช้ทีมขายเก่า ซึ่งมีความคุ้นเคยกับลูกค้าเก่าเป็นอย่างดี

นอกจากนี้ยังมีการเซ็นสัญญากับ 4 พันธมิตร ได้แก่ นีโอเพิร์ล ปากกรองน้ำจากเยอรมนี, มารูวา ผู้ผลิตชิ้นส่วน Cartridge จากญี่ปุ่น และฟลุช เจ้าของเทคโนโลยีการผลิตเซรามิควาล์ว สร้างนวัตกรรมใหม่ เพื่อลดต้นทุนการผลิตให้สามารถแข่งกับตลาดโลกได้

สำหรับแผนการตลาดในปีนี้ บริษัทฯ มีแผนจะเพิ่มโมเดลในรุ่นของกะรัต ฟอเซท ให้มากขึ้น เน้นคุณภาพ ฟังก์ชั่นการใช้งาน ผสมผสานกับดีไซน์ที่ทันสมัยสอดคล้องกับพฤติกรรมผู้บริโภคปัจจุบันที่ให้ความสำคัญกับการเลือกซื้อสินค้าให้เข้ากับสไตล์ของด้วยตนเองมากขึ้น โดยตั้งงบสื่อสารการตลาดไว้ 35 ล้านบาท รวมทั้งบริการหลังการขายผ่าน Call Center และตัวแทนจำหน่ายกว่า 600 รายทั่วประเทศ

อัครพงศ์ ตั้งเป้าว่า กะรัต ฟอเซท จะเป็น Bathroom Solution Provider มีสินค้าคุณภาพที่หลากหลาย ตอบสนองความต้องการของลูกค้าทุกระดับ และจะก้าวขึ้นไปติดอันดับ 1 ใน 3 ของผู้นำตลาดให้ได้ภายใน 3 ปี จากขณะนี้ที่ กะรัต ฟอเซท มีมาร์เก็ตแชร์ 10% อยู่ในอันดับ 4 ของตลาดรวมก็อกน้ำและอุปกรณ์ประกอบห้องน้ำที่มีมูลค่า 3,500 ล้านบาท ทั้งนี้บริษัทฯ ยังมีแผนที่จะเข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ฯ ในปลายปีนี้ เพื่อระดมทุน 50-60 ล้านบาทมาใช้ในการขยายโรงงาน และปรับปรุงเครื่องจักร เพื่อเพิ่มกำลังการผลิตจากปัจจุบันที่มีกำลังการผลิต 400 ตันต่อปีมาเป็น 500 ตันต่อปี


กลับสู่หน้าหลัก

Creative Commons License
ผลงานนี้ ใช้สัญญาอนุญาตของครีเอทีฟคอมมอนส์แบบ แสดงที่มา-ไม่ใช้เพื่อการค้า-ไม่ดัดแปลง 3.0 ประเทศไทย



(cc) 2008 ASTVmanager Co., Ltd. Some Rights Reserved.