|
ดอกเบี้ยลดลูกค้าเร่งสร้างบ้าน
ผู้จัดการรายวัน(30 เมษายน 2550)
กลับสู่หน้าหลัก
โฮมสแตนดาร์ดฯ ระบุตลาดรับสร้างบ้านปี50 ปัจจัยบวกอื้อ ส่งผลลูกค้าตัดสินใจสร้างบ้านเร็วขึ้น แจงดีมานด์อั้นจากปี49 เร่งตัดสินใจในกลางปี หนีต้นทุนบ้านปี51ปรับขึ้นอีกรอบ คาดปี50ดอกเบี้ยลดกว่า 1-1.5% ชี้ไตรมาสแรก50ยอดขายทุกบริษัทโตถ้วนหน้าเมื่อเที่ยบช่วงเดียวกันกับปี49 ด้านโฮมสแตนดาร์ดฯ เผยยอดขายคิวแรกโตกว่า 50%
นายบุญลือ วงศ์เพ็ญภาพ กรรมการผู้จัดการ บริษัท โฮมสแตนดาร์ด ดีเวลลอปเมนท์ จำกัด ผู้ประกอบการรับสร้างบ้านระดับกลาง-บน กล่าวว่า ในช่วงไตรมาสแรกที่ผ่านมาแม้ว่าตลาดอสังหาริมทรัพย์โดยรวมจะอัตราการขยายตัวที่ชะลอตัว รวมถึงการชะลอตัวของตลาดวัสดุก่อสร้างที่มีการขยายตัวติดลบ ทำให้หลายฝ่ายมองว่าในปีนี้ธุรกิจอสังหาและธุรกิจเกี่ยวเนื่องจะมีอัตราการขยายตัวที่ต่ำกว่าการประมาณการไว้ แต่หลังจากผ่านไตรมาสแรกที่ผ่านมาปรากฏว่า ตลาดรับสร้างบ้านมีอัตราการขยายตัวที่ตรงกันข้ามกับการประมาณการไว้ โดยมีอัตราการขยายตัวเพิ่มขึ้น
ทั้งนี้ โดยส่วนตัวแล้วเห็นว่าในปีนี้อัตรากรรขายตัวของตลสาดรับสร้างบ้านโดยรวมน่าจะมีระดับอัตราการขยายตัวอยู่ที่ประมาณ 10% หรือมีมูลค่าขายในตลาดรวมประมาณ 10,000 ล้านบาทตามเป้าที่สมาคมธุรกิจรับสร้างบ้านตั้งเป้าไว้ได้ สำหรับสาเหตุที่มองว่าตลาดรับสร้างบ้านน่าจะมีอัตราการขยายตัวเป้นไปตามเป้า ซึ่งส่วนกระแสตลาดอสังหาริมทรัพย์โดยรวม เนื่องจาก ในช่วงไตรมาสแรก กลุ่มผู้ประกอบการรับสร้างบ้านทุกบริษัทมีอัตราการขยายตัวของสยอดขายเพิ่มขึ้นจากปีที่ผ่านมาแทบทุกราย เมื่อเทียบยอดขายของแตละบริษัทในไตรมาส1ของปี2549กับไตรมาส1ของปี2550
โดยในส่วนของยอดขายของบริษัทในไตรมาสร1ปี50เมื่อเทียบกับไตรมาสร1ปี49 แล้วปรากฏว่าอัตราการขยายตัวเพิ่มขึ้นกว่า 50% โดยในไตรมาส1 ของปี49 บริษัทมียอดขาย25 ล้านบาท แต่ในไตรมาส1ของปีนี้ บริษัทมียอดขายสูงถึง 40 ล้านบาท นอกจากนี้สังเกตุจากการจัดงานรับสร้างบ้านของสมาคมครั้งแรกของปี ในเดือนมีนาคม ที่ผ่านมาเทียบช่วงเดียวกันของปีที่แล้ว พบว่ายอดขายในงานรับสร้างบ้านปีนี้มีอัตราเพิ่มขึ้นกว่า 20%
สำหรับสาเหตุที่ มั่นใจว่าในปี50นี้ ตลาดรับสร้างบ้านจะมีอัตราการขยายตัวสูงกว่าปี49 ที่ผ่านมาเนื่องจาก แนวโน้มตลาดรับสร้างบ้านไตรมาสรแรกปี50 กับปี49 เมื่อเทียบกันแล้ว ปัจจัยลบในตลาดดูเหมือนจะมีความชัดเจนทากกว่ากัน โดยเฉพาะในช่วงต้นปี49 ที่ภาวะตลาดหดตัวลงจากผลกระทบการเมือง และการประท้วง ซึ่งบั่นทอนความเชื่อมั่นของลูกค้าในตลาดส่งผลให้มีการชะลอการสร้างบ้านออกไป ประกอบกับในช่วงต้นปี2549 ภาวะน้ำมันปรับตัวเริ่มส่งผลกระทบต่อต้นุทนการก่อสร้างอย่างต่อเนื่องเพราะมีการปรับตัวขึ้นของราคาน้ำมันโดยไม่มีทีท่าว่าราคาจะปรับลง
ในขณะที่ไตรมาสรแรกของปีนี้แม้ว่าผลกระทบทางการเมืองจะส่งผลต่อการตัดสินใจซื้อของลูกค้า แต่ที่ผ่านมาผู้บริโภคเริ่มชินกับสภาวะที่เกิดขึ้นแล้ว ประกอบกับปัจจัยบวกในเรื่องของราคาน้ำมันที่มีการปรับลงมาในช่วงก่อนหน้านี้ ทำให้ต้นทุนการก่อสร้างเริ่มนิ่ง นอกจากนี้ในช่วงที่ผ่านมาการปรับลดอัตราดอกเบี้ย ทำให้ตลาสดเริ่มกลับมามีสีสันมากขึ้น และแน้วโน้มการปรับลดของอัตราดอกเบี้ยยังมีแนวโน้มที่จะลดลงอีกจึงน่าจะส่งผลต่อการตัดสินใจก่อสร้างบ้านให้เร็วขึ้น
"ที่ผ่านมาอัตราดอกเบี้ยลดลงไปแล้ว 0.75% และคาดว่าในปีนี้จะลดลงอีก โดยน่าจะลดลงถึง 1-1.5% ซึ่งจะทำให้กำลังซื้อเพิ่มขึ้น และการตัดสินใจของลูกค้าเร็วขึ้น ซึ่งนับตั้งแต่ช่วงไตรมาสร2ของปีเป็นต้นไป การตัดสินใจของลูกค้าจะเร็วขึ้น หลังจากที่ชะลอมาโดยตลอด และในช่วงปลายปี ตลาดจะขยายตัวสูงสุดเพราะสถานการณ์ด้านการเมืองน่าจะลงตัว และเริ่มมีการจัดการเลือกตั้ง ซึ่งจะยิ่งทำให้ผู้บริโภคมั่นใจและเร่งตัดสินใจก่อสร้างเร็วขึ้น"
นายบุญลือกล่าวว่า ทั้งนี้ ปัจจัยบวกที่จะทำให้ในปีนี้ตลาดขยายตัวเพิ่มขึ้นจากปีที่แล้ว เพราะเชื่อว่าลูกค้าที่ชะลอการสร้างบ้านในปี49 จะเริ่มกลับมาสร้างบ้านในช่วงกลางปีนี้ เพราะได้รับผลบวกจากการลดดอกเบี้ย และแนวโน้มการปรับขึ้นราคาวัสดุก่อสร้างอีกรอบในปี51 ในขณะที่ปีนี้ราคาบ้านจะยังไม่ปรับขึ้นแต่หากรอถึงปี51 ราคาบ้านจะปรับขึ้นตามต้นทุนที่เพิ่มขึ้นแน่นอน ดังนั้นลูกค้าจึงน่าจะตัดสินใจสร้างบ้านในปีนี้ก่อนที่ราคาบ้านจะปรับขึ้น
"การชะลอการสร้างบ้านของลูกค้าในปี49 เพื่อดูสถานการณ์ มาจนถึงขณะนี้ น่าจะมาตัดสินใจสร้างบ้านในช่วงกลางปี50 เพราะปัจจัยบวกรอบด้าน แต่ถ้ารอถึงปี51 ราคาบ้านก็จะปรับขึ้นตามราคาวัสุดก่อสร้าง นอกจากนี้ในช่วงกลางปีสมาคมฯยังจะมีการจัดงานรับสร้างบ้านขึ้นอีกครั้งซึ่งจะกระตุ้นการตัดสวินใจผู้สร้างบ้านได้อีกและจะทำให้ปีนี้ตลาดรับสร้างบ้านขยายตัวได้ตามเป้า หรือโตถึง10%ได้"
อย่างไรก็ตามในส่วนของบริษัทนั้นปี50นี้ ตั้งเป้าว่าจะมียอดขายรวมประมาณ 160 ล้านบาทเพิ่มขึ้นจากปี49 ที่มียอดขาย120ล้านบาท 30-40% โดยบ้านที่ลูกค้าคัดสินใจเลือกสร้างกับบริษัทมีราคาเฉลี่ย5 ล้านบาทเป็นส่วนใหญ่ จากที่กลุ่มลูกค้าของบริษัทจะสร้างบ้านในระดับ 3-10ล้านบาท ซึ่งในไตรมาสแรกที่ผ่านมาบริษัทมียอดขายแล้ว 40ล้านบาท ซึ่งถือว่าเป้ฯไปตามเป้าที่วางไว้
กลับสู่หน้าหลัก
ผลงานนี้ ใช้สัญญาอนุญาตของครีเอทีฟคอมมอนส์แบบ แสดงที่มา-ไม่ใช้เพื่อการค้า-ไม่ดัดแปลง 3.0 ประเทศไทย
(cc) 2008 ASTVmanager Co., Ltd. Some Rights Reserved.
|