โลกทัศน์ไร้พรมแดนของมกุฎราชกุมารี Victoria


นิตยสารผู้จัดการ( เมษายน 2546)



กลับสู่หน้าหลัก

นับจากเดือนตุลาคมปีที่แล้ว เจ้าฟ้าหญิง Victoria มกุฎราชกุมารีแห่งสวีเดน ทรงตกเป็นเป้าสายตาของ คนทั้งโลก ทุกย่างพระบาทของพระองค์เป็นที่สนใจของสื่อมวลชนตลอดเวลา จากการที่ทรงปฏิบัติพระราชกรณียกิจในฐานะ "ตัวแทน" ของสวีเดนด้วยพระองค์เอง เป็นครั้งแรก ทรงร่วมงาน "Swedish Style in Tokyo" ที่ประเทศญี่ปุ่น ซึ่งมีทั้งนิทรรศการ สัมมนา แฟชั่นโชว์ คอนเสิร์ต กาลาดินเนอร์ งานเลี้ยงค็อกเทล งานปาร์ตี้ เป็นเวลา 3 สัปดาห์เต็ม

ผู้มีโอกาสเข้าเฝ้ามกุฎราชกุมารีผู้อ่อนเยาว์เพียง 24 ชันษา นอกจากจะชื่นชมในพระสิริโฉมอันงดงามแล้ว ยังทึ่งในความเป็นธรรมชาติ เป็นกันเอง ความอ่อนหวาน และสุภาพ ความรอบรู้ และพระปรีชาสามารถ รวมทั้งการวางพระองค์เยี่ยงสามัญชนได้อย่างดีเยี่ยม

กับบทบาทที่จะต้องทรงครองราชย์เป็น "สมเด็จพระราชินี" แห่งสวีเดนในอนาคต เจ้าฟ้าหญิง Victoria พระราชทานสัมภาษณ์ว่า

"ข้าพเจ้าไม่เคยคิดว่าเป็นการเสียสละแต่อย่างใด เพื่อนๆ ของข้าพเจ้าเคยพูดว่า รู้สึกเสียใจกับข้าพเจ้า เมื่อข้าพเจ้าไม่สามารถออกไปเที่ยวเล่นข้างนอกกับพวกเขา เพราะต้องร่วมงานดินเนอร์ และนั่งข้างๆ ชายชราน่าเบื่อ แต่ข้าพเจ้าไม่เคยคิดว่านั่นเป็นเรื่องน่าเบื่อแม้แต่น้อย กลับรู้สึกเสมอว่าได้รับอภิสิทธิ์อันวิเศษยิ่งที่มีโอกาสได้พบปะคนพิเศษเหล่านี้ และได้เรียนรู้สิ่งที่น่าสนใจจากพวกเขา"

"แต่ทุกอย่างย่อมมี 2 ด้านเสมอ ภารกิจของข้าพเจ้าต้องมาพร้อมกับความรับผิดชอบมหาศาลตลอดเวลา เมื่อก่อนข้าพเจ้าจะเกิดความกระวนกระวายกังวลว่าจะมีความรู้ไม่มากพอ ไม่รู้จริงในสิ่งที่ข้าพเจ้ากำลังพูดคุย กลัวการตั้งคำถามโง่ๆ ออกไป รู้สึกว่าตัวเองไม่ให้เกียรติพวกเขา ถ้าไม่มีความรู้ในเรื่องของพวกเขาอย่างลึกซึ้ง แต่ในที่สุดข้าพเจ้าก็สามารถเอาชนะความกังวลเหล่านี้ได้ และหาโอกาส ซักถามให้มากเท่าที่จะทำได้ ข้าพเจ้าตระหนักดีว่ามีโอกาสอันใหญ่หลวงในการได้ศึกษาเพิ่มเติม"

เกี่ยวกับกระแสรักชาติที่เป็นหัวข้อโต้แย้งในสวีเดนจนมีกลุ่มหัวรุนแรงต่างๆ ฉวยโอกาสนำธงชาติสวีเดน และสัญลักษณ์ของประเทศไปแอบอ้าง ซึ่งทำให้ราชสำนักกังวลกับปัญหานี้อยู่เสมอ มกุฎราชกุมารี Victoria ผู้ทรงมีพระราชมารดาเป็น "ลูกครึ่ง" บราซิล-เยอรมัน และพระราชบิดาทรงสืบเชื้อสายผู้อพยพจากฝรั่งเศสสู่สวีเดนในศตวรรษที่ 19 พระราชทานความคิดเห็นผ่านนิตยสาร Stockholm New No.12 ว่า

"ข้าพเจ้าเชื่อว่าทุกคนมีสิทธิที่จะภาคภูมิใจในธงชาติ และประเทศชาติของพวกเขา และไม่มีใครสามารถลิดรอนสิทธินี้ไปได้ โดยส่วนตัวแล้ว ข้าพเจ้าภาคภูมิใจ ในสวีเดนอย่างมาก แต่ก็ภูมิใจในประชาชนผู้แข็งแกร่งทุกคนที่อพยพครอบครัวจากประเทศอื่นมาอยู่ที่นี่ด้วย ในส่วนลึกแล้วข้าพเจ้ายกย่องพวกเขาเหล่านี้ ซึ่งช่วยทำให้สังคมสวีเดนของเราสมบูรณ์ มีความเป็นสากลมากขึ้น รวมทั้งน่าตื่นเต้นและหลากหลายมากขึ้นด้วย ข้าพเจ้าคิดว่า หนึ่งในปัญหาใหญ่ที่สุดเกี่ยวกับผู้อพยพก็คือ มีคนมองว่ามันเป็นปัญหามากเกินไป แทนที่จะคิดว่าเป็นการสร้างโอกาส บางคนก็หวาดกลัวว่า การพัฒนาสู่ความเป็นสากลและโลกาภิวัตน์ จะกลายเป็นพิษภัยต่อคุณค่าแห่ง ความเป็นสวีเดนดั้งเดิมของเรา ข้าพเจ้ากลับเชื่อมั่นในทางตรงกันข้ามว่า ปรากฏการณ์ ดังกล่าวจะเสริมสร้างความแข็งแกร่งให้กับความเป็นสวีเดนของเรา"

"เป็นความรับผิดชอบของเราในการประเมินทุกสิ่งทุกอย่างที่เราเข้าไปมีส่วนด้วยความถี่ถ้วนระมัดระวัง เพราะการคงอยู่ของเราเป็นเสมือนหลักประกันแห่งความ เอาจริงเอาจัง และความสำคัญของโครงการ ทุกสิ่งทุกอย่างที่เรากระทำล้วนมีผลตามมาทั้งสิ้น ข้าพเจ้าไม่ได้เป็นตัวแทนผลประโยชน์ทางการเมือง หรือเศรษฐกิจของ ใคร ข้าพเจ้าเน้นที่ความเป็นกลาง ไม่ฝักใฝ่ทางการเมืองและมีความจริงใจโดยแท้จริง ข้าพเจ้าไม่ได้ทำเพื่อเงินหรือเพื่อให้ได้คะแนนเสียง หรือเพื่อจุดมุ่งหมายส่วนตัวอื่นใด หากแต่ทำในนามและเพื่อผลประโยชน์ของสวีเดน ข้าพเจ้าเป็นคนของสวีเดนโดย แท้จริง!"



กลับสู่หน้าหลัก

Creative Commons License
ผลงานนี้ ใช้สัญญาอนุญาตของครีเอทีฟคอมมอนส์แบบ แสดงที่มา-ไม่ใช้เพื่อการค้า-ไม่ดัดแปลง 3.0 ประเทศไทย



(cc) 2008 ASTVmanager Co., Ltd. Some Rights Reserved.