บริษัทซอฟต์แวร์ชั้นนำของโลกอย่างแซสพร้อมแล้วที่จะนำเสนอซอฟต์แวร์โซลูชั่นให้กับสถาบันการเงินสำหรับป้องกันการโจมตีจากขบวนการฟอกเงิน
ปัจจุบันบรรดาสถาบันการเงินกำลังต่อสู้กันอย่างรุนแรง เพื่อผลักดันตัวเองขึ้นเป็นผู้นำผ่านตัวเลขผลประกอบการ
แต่ไม่มีธนาคารพาณิชย์หรือไฟแนนซ์แห่งไหนในโลก ต้องการให้ชื่อเสียงแปดเปื้อนจากปัญหาการฟอกเงินผ่านองค์กรตนเอง
เมื่อปีที่ผ่านมา Bank of New York ตัดสินใจอย่างรวดเร็ว เพื่อปรับปรุงกระบวนการทำงาน
หลังจากมีรายงานปรากฏออกมาว่า ผู้ก่อการร้ายใช้ประโยชน์จากธนาคาร เพื่อฟอกเงินจำนวน
7 ล้านเหรียญสหรัฐไปยังรัสเซีย
ทุกวันนี้ ตลาดการเงินทั่วโลกมีเรื่อง อื้อฉาวเกี่ยวกับการดำเนินธุรกิจเพิ่มขึ้นอย่างน่าตกใจ
โดยเฉพาะหลังจากเหตุการณ์ เขย่าขวัญวันที่ 11 กันยายน 2544 ส่งผลให้บรรดาสถาบันการเงินเริ่มให้ความสำคัญ
กับการป้องกันปัญหาการฟอกเงินมากขึ้น
อย่างไรก็ดี เมื่อแซส (SAS) บริษัทซอฟต์แวร์ชั้นนำของโลกพัฒนาอาวุธรุ่นใหม่
ล่าสุดในการทำสงครามกับผู้ก่อการร้าย ด้วยการนำเสนอระบบโซลูชั่นป้องกันการฟอกเงิน
(Anti-Money Laundering) เพื่อช่วยเหลือสถาบันการเงินในการวิเคราะห์กิจกรรมลูกค้า
และรายงานพฤติกรรมน่าสงสัย
ความกังวลเกี่ยวกับปัญหาการฟอกเงินส่งผลให้ซอฟต์แวร์ของ SAS ได้รับความนิยมอย่างสูง
สังเกตจากสถาบันการเงินที่ได้รับจัดอันดับโดยนิตยสาร Fortune 500 เกือบทั้งหมดใช้บริการของ
SAS นั่นหมายถึงความกระตือรือร้นในการป้องกันเหตุการณ์ที่อาจจะเกิดขึ้นในอนาคต
ขณะที่สถาบันการเงินสัญชาติไทยดูเหมือนว่ายังไม่ให้ความสำคัญเกี่ยวกับปัญหาการฟอกเงินมากนัก "ทุกวันนี้พวกเขายังไม่มีรูปแบบชัดเจนในเรื่องนี้ โดยเฉพาะการนำซอฟต์แวร์เพื่อตรวจสอบการฟอกเงินมาใช้ในองค์กรอย่างสมบูรณ์แบบ
แต่ดำเนินการป้องกันแบบ Day-to-Day" Malcolm Lister ผู้จัดการทั่วไป ด้านบริการสถาบันการเงินแห่งแซส
ประจำออสเตรเลียอธิบาย
ดังนั้น หากเปรียบเทียบระหว่างสถาบันการเงินข้ามชาติกับสถาบันการเงินท้องถิ่นแล้ว
Lister บอกว่าความตื่นตัวในเรื่องดังกล่าวแตกต่างกันอย่างชัดเจน โดยฝ่ายแรกให้ความสำคัญเพื่อการป้องกันการฟอกเงิน
ขณะที่ฝ่ายหลังค่อนข้างสลับซับซ้อนบ้างเล็กน้อย
"สถาบันการเงินท้องถิ่นรับรู้ว่ามีการฟอกเงิน แต่มีการเตรียมพร้อมหรือไม่ยังเป็นข้อสงสัยอยู่"
อย่างไรก็ดี สถาบันการเงินสัญชาติ ไทยมีความกระตือรือร้นหรือไม่นั้น ประเด็น
สำคัญไม่ได้ขึ้นอยู่กับความพร้อมของแต่ละองค์กร แต่มาจากความกดดันจากหน่วยงานภาครัฐที่กำกับดูแลที่มีเพิ่มสูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง
ดังนั้นสถาบันการเงินจะต้องหาวิธีป้องกันอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้ เพราะนี่คือกฎระเบียบที่ต้องดำเนินการ
เมื่อเป็นเช่นนี้ สถาบันการเงินทุกแห่งไม่สามารถหันหลังให้กับปัญหาการฟอกเงินได้อีกต่อไป
ดังนั้นกุญแจสำคัญสำหรับความพร้อมของแต่ละแห่งที่จะนำโซลูชั่นการป้องกันการฟอกเงินมาใช้
คือ ความเข้าใจเกี่ยวกับการบริหารข้อมูล
"หาก SAS นำเสนอโซลูชั่น สถาบันการเงินไทยไม่จำเป็นต้องมีระบบข้อมูลที่สมบูรณ์แบบ
แต่สามารถที่จะดำเนินการควบคู่กันไปได้" Lister กล่าว