ซานมิเกลรุกเครื่องดื่มสปาร์คกิ้งอัด20ล.แทรกตลาดน้ำอัดลม-ผลไม้


ผู้จัดการรายวัน(23 เมษายน 2550)



กลับสู่หน้าหลัก

ซาน มิเกล เขย่าวงการน้ำสี-น้ำผลไม้มูลค่ารวม 1.1 หมื่นล้านบาท ลั่นฆ้องสร้างเครื่องดื่มแคธิกอรี่ใหม่ "สปาร์คกิ้ง" อัดฉีด 20 ล้านบาท ปั้น "แบร์รี่ จู๊ซซา" น้ำผลไม้ผสมคาร์บอเนต นำร่อง 2 รสชาติ มะนาว-ส้ม ชูจุดขายเพื่อความสดชื่นและห่วงใยสุขภาพ ปีแรกหวังครองใจคนรุ่นใหม่อายุ13-19 ปี ตั้งเป้าดูดแชร์จากน้ำสี-น้ำผลไม้

แหล่งข่าวจากบริษัท ซาน มิเกล มาร์เก็ตติ้ง (ประเทศไทย) จำกัด ผู้นำเข้าน้ำผลไม้ 100 % ตราแบร์รี่ และผู้ผลิตและจัดจำหน่ายเครื่องดื่มสปาร์คกิ้งตราแบร์รี่ เปิดเผยกับ "ผู้จัดการรายวัน" ว่า บริษัทฯด้เปิดตัวเครื่องดื่มใหม่ภายใต้แบรนด์เดียวกับน้ำผลไม้ "แบร์รี่ จู๊ซซา" ลงสู่ตลาด สำหรับเครื่องดื่มตัวใหม่นี้เป็นเครื่องดื่มแคธิกอรี่ใหม่เรียกว่า "สปาร์คกิ้ง" ผสมระหว่างน้ำผลไม้และคาร์บอเนต ใกล้เคียงกับน้ำอัดลม แตกต่างตรงที่น้ำอัดลมผสมคาร์บอเนตในปริมาณที่มาก ในขณะที่สปาร์คกิ้งผสมคาร์บอเนตในปริมาณที่ต่ำกว่า

แผนการตลาดเครื่องดื่มสปาร์คกิ้ง วางโพซิชั่นนิ่งอยู่ระหว่างกลางของเครื่องดื่มน้ำอัดลมกับน้ำผลไม้ ซึ่งบริษัทฯได้วางเป้าหมายเข้าไปชิงส่วนแบ่งตลาดระหว่างน้ำอัดลมสี มูลค่า 6,000 ล้านบาท หรือคิดเป็น 20% ของตลาดน้ำอัดลมโดยรวมมูลค่า 30,000 ล้านบาท ซึ่งปัจจุบันมีผู้ประกอบการยักษ์อยู่ 2 แบรนด์ ได้แก่ แฟนต้า และมิรินด้า รวมไปถึงเข้าไปชิงส่วนแบ่งตลาดน้ำผลไม้โดยรวมมูลค่า 5,000 ล้านบาท โดยบริษัทได้เตรียมทุ่มงบการตลาด 20 ล้านบาท ผ่านการจัดกิจกรรมการตลาดอย่างครบวงจร เพื่อสร้างการรับรู้ตราสินค้าและกระตุ้นให้เกิดการทดลองดื่ม

สำหรับกลุ่มเป้าหมายเครื่องดื่มสปาร์คกิ้งแบร์รี่ จู๊ซซา วางไว้อายุระหว่าง 13-19 ปีเป็นหลัก เนื่องจากเป็นกลุ่มที่มีพฤติกรรมการดื่มเครื่องดื่มเพื่อความสดชื่น แต่ในขณะเดียวกันก็ห่วงใยในเรื่องของสุขภาพ แตกต่างจากน้ำอัดลมที่ผู้ดื่มส่วนใหญ่ต้องการดื่มเพื่อความสดชื่น ในขณะที่กลุ่มน้ำผลไม้ ผู้ดื่มต้องการดื่มเพื่อฟังก์ชันนัลเป็นหลัก ดังนั้นกลุ่มเป้าหมายค่อนข้างจะเป็นผู้ใหญ่หรือเริ่มเข้าสู่วัยทำงาน

"สปาร์คกิ้ง นับว่าเป็นเครื่องดื่มที่ใหม่สำหรับประเทศไทย แต่ในอนาคตก็อาจจะเป็นตลาดที่มีศักยภาพ โดยเมื่อปี 2548 บริษัท โคคา-โคลา (ประเทศไทย) จำกัด ได้พัฒนาเครื่องดื่มสปาร์คกิ้งภายใต้แบรนด์"อไลฟ์" น้ำผลไม้ผสมวิตามินซี มี 2 รสชาติ คือ พอมเมโล สแปลช และ ซิตรัส เซิร์ฟ ในขวดพีอีทีใสขนาด 350 มล. ราคาขวดละ 15 บาท แต่ไม่ได้รับการตอบรับจากผู้บริโภค หลังจากนั้นบริษัทดังกล่าวหยุดเคลื่อนไหวทางการตลาดกระทั่งปัจจุบัน"

สำหรับแบร์รี่ จู๊ซซา บริษัทฯได้ใช้โรงงาน ที่ นิคมอุตสาหกรรมอมตะนคร จังหวัดระยองผลิต มีด้วยการ 2 รสชาติเช่นเดียวกับประเทศฟิลิปปินส์ ได้แก่ รสมะนาวและส้ม ซึ่งความโดดเด่นของสินค้า คือ การนำเข้ามะนาวและส้มสายพันธ์ที่มีชื่อจากฟิลิปปินส์มาผลิต โดยรูปแบบบรรจุภัณฑ์ขวดเพ็ท ขนาด 330มล. จำหน่ายในราคา 15 บาท ซึ่งเมื่อเทียบกับเครื่องดื่มน้ำอัดลมมีราคาสูงกว่า 1-2 บาท

ด้านการกระจายสินค้าได้ให้บริษัทพรีเมียร์ มาร์เก็ตติ้ง ซึ่งเป็นบริษัทเดียวที่จัดจำหน่ายน้ำผลไม้ให้กับบริษัทเป็นดิสทริบิวเตอร์ให้ ขณะนี้ได้เริ่มวางจำหน่ายผ่านช่องทางไฮเปอร์มาร์เก็ตเกือบทุกเชนแล้ว อาทิ เทสโก้ โลตัส คาร์ฟูร์ เป็นต้น ทั้งนี้คาดว่าจะกระจายสินค้าครอบคลุมทุกช่องทางและทั่วประเทศภายใน 4 เดือนนี้ โดยแบ่งสัดส่วนระหว่างกรุงเทพและต่างจังหวัด 50:50 ส่วนร้านค้าสะดวกซื้อเซเว่นอีเลฟ กำลังอยู่ระหว่างการเจรจาอยู่

สำหรับการเปิดตัวแบร์รี่ จู๊ซซา บริษัทคาดว่าจะได้รับการตอบรับเป็นอย่างดี เช่นเดียวกับประเทศฟิลิปปินส์ ซึ่งได้เปิดตัวเครื่องดื่มดังกล่าวมา 2-3 ปีแล้ว ทั้งนี้การดำเนินธุรกิจของซานมิเกลในประเทศไทย ในระยะยาววางไว้เป็นโมเดลเดียวกับประเทศฟิลิปปินส์ คือ การทำธุรกิจอาหารและเครื่องดื่มมากกว่าเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ ซึ่งบริษัทได้วางแผนจะขยายโปรดักส์ไลน์ลงสู่ตลาดอาหารและเครื่องดื่มครบพอร์ตโฟลิโอภายใน 3 ปีนี้ โดยสินค้าของบริษัทมีตั้งแต่ ไอศกรีม เครื่องดื่มฟังก์ชันนัล ชา กาแฟ นู้ดเดิ้ล ไก่ ฯลฯ


กลับสู่หน้าหลัก

Creative Commons License
ผลงานนี้ ใช้สัญญาอนุญาตของครีเอทีฟคอมมอนส์แบบ แสดงที่มา-ไม่ใช้เพื่อการค้า-ไม่ดัดแปลง 3.0 ประเทศไทย



(cc) 2008 ASTVmanager Co., Ltd. Some Rights Reserved.