|
โรสการ์เด้นบุกหนักปีนี้หวังโต15%ลุยเจาะกลุ่มข้าราชการ-ต่างชาติ
ผู้จัดการรายวัน(23 เมษายน 2550)
กลับสู่หน้าหลัก
"โรสกาเด้น"สบช่องรัฐเร่งใช้งบประมาณ ออกแคมเปญเอาใจกรุ๊ปสัมมนาจับกลุ่มข้าราชการเร่งใช้งบฯ พร้อมฉกโอกาสฉลอง 120 ปีความสัมพันธ์ไทยญี่ปุ่นผุดแคมเปญ ซื้อ 12 แถม 1 เอาใจนักท่องเที่ยวแดนปลาดิบ "สุชาดา"เผยแนวโน้มธุรกิจสดใส หลังดึงกิจการโรงแรมคืนจากกลุ่มเอไพร์ม ปีแรกที่ผ่านมาเริ่มเห็นผลกำไร ขณะที่ปีนี้หวังผลเติบโต 10-15% เร่งทำงานเชิงรุกบุกงานเทรดโชว์ขยายฐานลูกค้าอาหรับ
นางสุชาดา ยุวบูรณ์ ประธานบริหาร โรงแรม โรส กาเด้น ริเวอร์ไซด์ สวนสามพราน เปิดเผยว่า บริษัทได้จัดแคมเปญกระตุ้นกำลังซื้อในช่วง 9 เดือนของปีนี้ (เม.ย.-ธ.ค.) กลุ่มเป้าหมายหลักคือ กรุ๊ปสัมมนาทั้งส่วนราชการและองค์กรเอกชน โดยจับกระแสที่คณะรัฐมนตรีได้มีมติให้ทุกหน่วยราชการเร่งเบิกจ่ายงบประมาณประจำปี 2550 เพื่อให้เกิดการหมุนเวียนของระบบเศรษฐกิจ เพราะผ่านมาแล้ว 6 เดือนพบว่ายังมีการเบิกจ่ายเงินประมาณในสัดส่วนที่น้อย
ล่าสุดโรสกาเด้นจัดโปรโมชันพิเศษ สำหรับหน่วยงานราชการที่ต้องการจัดประชุมสัมมนา เริ่มต้นที่คนละ 1,700-1,800 บาท ต่อคืน อาหารเช้า พร้อมจัดเลี้ยง และกิจกรรม ซึ่งเป็นราคาที่ลดลงจากปกติเกือบ 50% ซึ่งแคมเปญนี้จะใช้กระตุ้นในช่วง 3 เดือนที่เป็นโลวซีซั่น คือ เมษายน-มิถุนายน ขณะที่กลุ่มคอปอเรทก็มีโปรโมชันพิเศษ เช่นกัน
สำหรับตลาดต่างประเทศ โรสกาเด้น ใช้โอกาสฉลองครบ 120 ปี ความสัมพันธ์ ไทย-ญี่ปุ่น จัดโปรโมชันพิเศษสำหรับกรุ๊ปนักท่องเที่ยวชาวญี่ปุ่น ที่เดินทางมาพักครบ 12 คน แถมฟรีคนที่ 13 หรือกรุ๊ปที่เข้ามาเที่ยวในลักษณะเดย์ทริป หรือเช้าไปเย็นกลับ ก็จะใช้แคมเปญ ซื้อ 12 แถม 1 เช่นกัน แพกเกจกอล์ฟ ราคาเริ่มต้นที่คืนละ 1,900 บาท ตลอดปี 2550 ซึ่งราคานี้จะเปิดรับทั้งคนไทยและต่างชาติ
ทั้งนี้โรส กาเด้น ริเวอร์ไซด์ มีห้องพักในส่วนของโรงแรม จำนวน 184 ห้อง มีห้องจัดประชุมและเรือจัดประชุมรวม 12 ห้อง นอกจากนั้นยังบริการในส่วนของรีสอร์ตเรือนไทย บริการสปา และห้องอาหาร ซึ่งกิจกรรมอื่นๆนอกจากประชุมสัมมนา เรายังรับจัดอีเวนต์ทุกรูปแบบ รวมถึงการจัดงานแต่งงานแบบไทยโบราณด้วย ซึ่งสัดส่วนแขกผู้มาพัก 70% เป็นกลุ่มคนไทยในที่นี้เป็นกรุ๊ปสัมมนาของหน่วยงานราชการถึง 30% จากการกระตุ้นตลาดปีนี้จะทำให้ลูกค้ากลุ่มนี้เพิ่มขึ้น
"ในปีนี้ยอมรับว่าสถานการณ์ที่อึมครึม ทั้งเศรษฐกิจและการเมือง ส่งผลกำลังซื้อถดถอย โดยเฉพาะตลาดคนไทย ซึ่งถือเป็นลูกค้ากลุ่มใหญ่ของโรสกาเด้น แต่เราเชื่อว่า การจับฐานลูกค้าที่เป็นกลุ่มสัมมนาจะช่วยให้เราฝ่าวิกฤตไปได้ อีกทั้งการที่รัฐบาลต้องการให้หน่วยงานเร่งเบิกจ่ายงบประมาณ เชื่อว่าการจัดสัมมนา จะเป็นอีกรูปแบบหนึ่งที่หน่วยราชการจะเลือกใช้บริการ และทางโรงแรมโรสกาเด้น ก็มีการจัดกิจกรรมให้แก่ลูกค้าในหลากหลายรูปแบบ "
นางสุชาดา กล่าวว่า หลังจากที่บริษัท กลับมาบริหารโรสกาเด้นเองได้ 1 ปีเศษ จากก่อนหน้านี้ ได้ให้บริษัท เอไพร์ม จำกัด เป็นผู้บริหารซึ่งประสบภาวะขาดทุนมาโดยตลอด 4 ปี แต่ปัจจุบันนี้ โรสกาเด้นเริ่มมีผลกำไรแล้ว ส่วนหนึ่งมาจากการลดต้นทุนด้านบริหารจัดการ ประกอบกับการกลับมาทำตลาดเชิงรุกอีกครั้ง โดยเฉพาะการติดต่อไปยังฐานลูกค้าเก่าๆที่มีอยู่ ทั้งตลาดคนไทยในประเทศ และตลาดต่างประเทศ ก็ได้ผลการตอบรับดี มีลูกค้ากลับมาใช้บริการเพิ่มมากขึ้น โดยปีที่ผ่านมา โรสกาเด้นมีอัตราเข้าพักเฉลี่ยทั้งปี 55% จากก่อนหน้านี้อัตราเข้าพักเฉลี่ยของโรสกาเด้นจะอยู่ที่ 35% ซึ่งในกลุ่มต่างชาติ ตลาดหลัก คือ ญี่ปุ่น อังกฤษ และ สแกนดิเนเวีย
สำหรับแผนธุรกิจปีนี้ บริษัทตั้งเป้าเติบโตจากปีก่อน 10-15% ขึ้นอยู่กับสถานการณ์บ้านเมืองและเศรษฐกิจของประเทศไทย โดยตลาดใหม่ๆ ที่จะเริ่มเจาะในปีนี้ แบ่งเป็นตลาดในประเทศ จับกลุ่มนักเรียน สถานศึกษา เช่น โรงเรียนนานาชาติ และกลุ่มโรงเรียนสาธิตต่างๆ ซึ่งเราจะขายแพกเกจในรูปแบบเดย์ทริป เป็นการเที่ยวแบบทัศนศึกษาชมวิถีชีวิตไทย
"ตลาดนักเรียนแบบทัศนศึกษาเติบโตสูงมากโดยปีที่ผ่านมาโตเกือบ 200% เพราะฐานลูกค้ากลุ่มนี้ยังน้อย แต่เชื่อว่าเป็นอีกหนึ่งตลาดที่มีอนาคตสดใส "
ส่วนต่างประเทศ จะทำตลาดเชิงรุก ในรูปแบบไดเร็กเมลถึงตรงกับฐานลูกค้าเก่า และการขยายตัวแทนจำหน่ายในต่างประเทศ นอกจากนั้นยังเพิ่มความถี่ของการไปร่วมงานเทรดโชว์และโรดโชว์ จากเดิมที่จะไปเฉพาะงานใหญ่ๆ เช่น WTM และ ITB แต่ปีนี้จะขายไปตลาดตะวันออกกลาง อินเดียและเกาหลี ล่าสุดไปร่วมงานเทรดโชว์ ATM หรืออารเบียน ทราเวล มาร์ท ที่กรุงดูไบ ประเทศ สหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ แพกเกจที่นำเสนอขายจะเป็นเดย์ทริปชมวิถีชีวิตไทย ส่วนโรงแรมที่พัก นักท่องเที่ยวกลุ่มนี้จะเน้นแหล่งที่เป็นไนท์ไลฟ์มากกว่า
อย่างไรก็ตาม ในปีที่ผ่านมา ผลประกอบการโรสกาเด้นเติบโต 7% จากที่ตั้งเป้าว่าจะเติบโต 10% ส่วนหนึ่งเป็นเพราะ เราได้ปิดโรงแรมบ้างส่วนเพื่อรีโนเวต ทำให้รับรองลูกค้าไม่ได้เต็มที่ แต่ปีนี้และปีต่อๆไป บริษัทตั้งเป้าเติบโตไม่น้อยกว่า 10% ทุกๆปี สัดส่วนรายได้ 45% มาจาก F&B (อาหารและเครื่องดื่ม) ,20%จากแขกที่มาใช้บริการห้องพัก 25% มาจากการแสดงโชว์ และ รายได้จากอื่นๆอีก 10%
ส่วนช่องทางการจำหน่าย ขณะนี้อยู่ระหว่างการปรับปรุงเว็บไซน์ โดยว่าจ้างบริษัทจากประเทศสิงคโปร์ในการจัดทำ คาดว่าจะแล้วเสร็จในเดือนพฤษภาคมปีนี้ ทั้งนี้ที่เราให้ความสำคัญกับการปรับปรุงเว็บไซน์เพราะ ปัจจุบันลูกค้าที่ผ่านเข้ามาในช่องทางนี้มีจำนวนสูงมาก คิดเป็นสัดส่วน 20-30% ของยอดการจองห้องพักทั้งหมด อีก 40% เป็นลูกค้าวอล์คอิน ที่เหลือจะเป็นการขายในช่องทางอื่นๆ
กลับสู่หน้าหลัก
ผลงานนี้ ใช้สัญญาอนุญาตของครีเอทีฟคอมมอนส์แบบ แสดงที่มา-ไม่ใช้เพื่อการค้า-ไม่ดัดแปลง 3.0 ประเทศไทย
(cc) 2008 ASTVmanager Co., Ltd. Some Rights Reserved.
|