วันเปิดตัวเมนูใหม่ "ไก่นุ่มนม" ของเชสเตอร์ กริลล์ เป็น วันที่ Ricky Wong
ได้ถือโอกาสแถลงถึงเป้าหมายของการดำรงตำแหน่งกรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัทโกลบอล
คิทเช่น เจ้าของ แบรนด์ "เชสเตอร์ กริลล์" ว่าเขาตั้งใจจะทำให้ "เชสเตอร์
กริลล์" ซึ่งเป็นแบรนด์สินค้าของคนไทย ก้าวขึ้นสู่ความยิ่งใหญ่เทียบเท่าแบรนด์ฟาสต์ฟู้ดส์ชื่อดังที่ได้รับความนิยมอยู่ทั่วโลก
"เราอยากเห็นเชสเตอร์ กริลล์ สามารถที่จะสู้กับแบรนด์ ดังๆ จากต่างประเทศได้
ไม่ว่าจะเป็นเคเอฟซี หรือแมคโดนัลด์ เหมือนกับในฟิลิปปินส์ ซึ่ง Jolly Bee
ที่เป็นแบรนด์ร้านอาหารประเภทฟาสต์ฟู้ดส์ของท้องถิ่น สามารถทำสำเร็จมาแล้วในประเทศของเขา"
Ricky กล่าว
สิ่งที่ทำให้ Ricky มั่นใจเช่นนั้น เป็นเพราะหลังจากที่เขาได้เข้ามาร่วมงานที่นี่มาเป็นเวลา
1 ปีครึ่ง เขาพบว่า "เชสเตอร์ กริลล์" ก็มีดี พอที่จะเป็นเช่นที่หวังไว้ได้
"เราเป็นผู้นำทางด้านอาหารย่าง ซึ่งสามารถผสมผสานจุดเด่นที่เป็นรสชาติแบบไทยๆ
ให้เข้ากับการบริหารสมัยใหม่แบบมืออาชีพที่ได้รับการยอมรับมาแล้วในต่างประเทศ"
Ricky เข้าร่วมงานกับโกลบอล คิทเช่น เมื่อปลายปี 2544 สิ่งสำคัญที่เขาทำคือการปรับปรุงระบบการบริหารงานภายใน
เขาได้เปลี่ยนชื่อสำหรับเรียกงานบริหารในส่วนกลาง จากเดิมที่ใช้เป็นสำนักงานใหญ่
เป็น "ศูนย์สนับสนุนกิจการร้านอาหาร" (Restaurant Support Center : RSC)
ซึ่งมีบทบาทเป็นศูนย์บัญชาการใหญ่ ที่คอยให้การสนับสนุนการบริหาร และการปฏิบัติ
การของร้านสาขา
ภายใน RSC จะประกอบไปด้วยศูนย์วิจัยและพัฒนาผลิตภัณฑ์ใหม่ (Research and
Development) และศูนย์ประกัน คุณภาพสินค้า (Quality Assurance) ซึ่งทั้ง
2 ศูนย์ดังกล่าว เปรียบเสมือนเป็นห้อง lab ที่คอยคิดค้นสูตรอาหารใหม่ๆ ที่กว่า
จะประกาศเป็นเมนูออกมาได้ จะต้องมีการทดสอบอยู่หลายขั้นตอนด้วยกัน
นอกจากนี้ภายใน RSC ยังเป็นศูนย์รวมของหน่วยสนับสนุน อื่นๆ เช่นศูนย์ฝึกอบรม
(Training Facilities) ฝ่ายการตลาด ฝ่ายจัดซื้อ ฝ่ายพัฒนาบุคลากร รวมถึงฝ่ายบัญชีและการเงิน
ตามแผนการก้าวขึ้นสู่การเป็นเจ้าของแบรนด์ท้องถิ่นผู้ยิ่งใหญ่ นอกจากการจัดระบบการจัดการภายในแล้ว
ยังจำเป็นต้อง วางแผนการขยายเครือข่าย ซึ่งเชสเตอร์ กริลล์จะใช้ทั้งรูปแบบการขายแฟรนไชส์
และการลงทุนเปิดร้านสาขาเป็นของตัวเอง
ปัจจุบันเชสเตอร์ กริลล์ มีสาขาอยู่ทั่วประเทศไทยประมาณ 90 สาขา แม้เขาจะไม่ได้กำหนดอย่างชัดเจนว่าการขยายตัวของ
สาขาร้านเชสเตอร์ กริลล์ในแต่ละปีจะมีตัวเลขไว้ที่เท่าใด แต่เขา ก็ได้วาง
step ไว้ว่าในช่วงแรกจะเน้นการขยายตัวภายในประเทศ ไทย หลังจากนั้นภายในปีนี้
เชสเตอร์ กริลล์จะเริ่มออกไปเปิด สาขาต่างประเทศในประเทศเพื่อนบ้าน เช่น
ฮ่องกง หรือมาเลเซีย ในช่วงปลายปีนี้
"เราจะไม่ขยายตัวอย่างรวดเร็ว แต่จะค่อยเป็นค่อยไป เพื่อให้มีความมั่นคง"
เมื่อต้นปีที่ผ่านมา โกลบอล คิทเช่น ได้เพิ่มผู้บริหารระดับสูงเข้ามาอีก
1 คน คือ วีระชัย หิรัณยัษฐิติ ซึ่งเข้ามารับตำแหน่งกรรมการผู้จัดการ บทบาทของวีระชัยคือการวางกลยุทธ์
เพื่อขยายเครือข่ายร้านเชสเตอร์ กริลล์ ออกไปให้ได้ตามแผนที่กำหนด
ส่วนบทบาทของ Ricky จะขยับขึ้นไปดูทางด้านนโยบาย และการวางกลยุทธ์ในระดับที่สูงขึ้น
ทั้งวีระชัย และ Ricky ต่างเป็นผู้ที่มีประสบการณ์โชกโชน ในวงการร้านอาหารประเภทฟาสต์ฟู้ดส์
โดยเฉพาะการผ่านงานกับแบรนด์ชื่อดังจากต่างประเทศมาแล้ว ดังนั้นเขาทั้งคู่จึงสามารถ
นำจุดเด่นของการบริหารงานที่ได้พบมาในแต่ละแบรนด์ เข้ามาประยุกต์ใช้กับแผนงานของเชสเตอร์
กริลล์ในประเทศไทย
เป้าหมายสูงสุดของ "เชสเตอร์ กริลล์" ที่จะก้าวขึ้นไปสู่การเป็น Regional
Brand ทางด้านร้านอาหารฟาสต์ฟู้ดส์ประเภท อาหารย่าง จึงตกเป็นภารกิจอันยิ่งใหญ่ของทั้ง
2 คนนี้