ตลาดกล้องดิจิตอลถึงจุดเดือด "แคนนอน" ขอเป็นผู้นำตลาดปีนี้


ผู้จัดการรายสัปดาห์(9 เมษายน 2550)



กลับสู่หน้าหลัก

"แคนนอน" ประกาศขอปลด "โซนี่" ลงจากตำแหน่งผู้นำตลาดกล้องดิจิตอลภายในปีนี้ ขอมาร์เกตแชร์แค่ 25% เชื่อผลิตภัณฑ์ที่หลากหลายตอบโจทย์ผู้บริโภค ผสมราคาที่ดึงดูดปัจจัยหนุนสู่เป้าหมาย พร้อมขนกล้องดิจิตอลตระกูล IXUS และเพาเวอร์ช็อตเจาะทุกกลุ่มใช้งาน นำ "พอลล่า เทเลอร์" เป็นพรีเซนเตอร์สร้างแบรนด์ คาดยอดขายไม่ต่ำกว่า 2,000 ล้าน

ตลาดกล้องดิจิตอล นับเป็นอีกสมรภูมิหนึ่งที่มีไฟแห่งการแข่งขันรุนแรงไม่แพ้ตลาดอุปกรณ์ดิจิตอลอื่นๆ โดยเฉพาะสงครามการแย่งชิงส่วนแบ่งทางการตลาดของผู้ที่อยู่ในอันดับ 2-3 ที่ต้องผลัดกันชื่นชมสลับกันระหว่าง "แคนนอน" ยักษ์ใหญ่จากประเทศญี่ปุ่น กับ "ซัมซุง" ยักษ์ใหญ่จากเกาหลี แต่เมื่อดูจากความมุ่งมั่นของค่ายแคนนอน จะพบว่า ไม่ได้พอใจที่จะยึดตำแหน่งอันดับ 2 ในตลาดอย่างถาวรเท่านั้น แต่มีเป้าหมายที่ต้องการก้าวขึ้นเป็นเบอร์ 1 ด้วยซ้ำไป

"ปัจจุบัน แคนนอนมีส่วนแบ่งทางการตลาดเป็นเบอร์ 2 ของตลาด โดยมีสัดส่วนทางการตลาดอยู่ที่ 20% แต่สำหรับนโยบายหลักในปีนี้ของแคนนอนได้ตั้งเป้าหมายที่จะก้าวขึ้นเป็นเบอร์ 1 ให้ได้ภายในปีนี้" วรินทร์ ตันติพงศ์พาณิช ผู้อำนวยการอาวุโสและผู้จัดการทั่วไป แผนกคอนซูเมอร์ อิมเมจจิ้ง แอนด์ อินฟอร์เมชั่น บริษัท แคนนอน มาร์เก็ตติ้ง (ไทยแลนด์) จำกัด กล่าวถึงความมุ่งมั่นของแคนนอนในตลาดกล้องดิจิตอลในปีหมูทองให้ฟัง

ด้วยตัวเลข 20% ส่งผลให้แคนนอนครอบครองตำแหน่งทางการตลาดในตำแหน่งเบอร์ 2 ขยับหนีห่างจากเบอร์ 3 อย่างซัมซุง แต่ด้วยเป้าหมายของวรินทร์ ผู้บริหารของแคนนอนที่จะต้องการขึ้นเป็นเบอร์ 1 ทำให้แคนนอนมีงานหนักเอาการในวันที่จะขยับตำแหน่งของตนเองในครั้งนี้

หากในปีนี้ ทางแคนนอนสามารถมีส่วนแบ่งทางการตลาดเพิ่มอีก 5% หรือ 25% แคนนอนบอกว่า จะกลายเป็นเบอร์ 1 ในตลาด ขณะที่ทางแคนนอนมองว่า ผู้นำตลาดอย่างโซนี่ มีส่วนแบ่งตลาดอยู่ประมาณ 20-23% เท่านั้น ทำให้แคนนอนได้เตรียมเม็ดเงินทางการตลาดสำหรับตลาดกล้องดิจิตอลอย่างเดียวไว้ถึง 100 ล้านบาท เพื่อให้ได้ยอดขายทั้งปีอยู่ที่ตัวเลข 2,000 ล้านบาทหรือมียอดขายกล้องดิจิตอลไม่น้อยกว่า 200,000 เครื่อง ท่ามกลางขนาดตลาดรวมของกล้องดิจิตอลปี 2550 ที่คาดการณ์กันว่า จะมีอัตราการเติบโตประมาณ 10-15% คิดเป็นจำนวนยอดขายตกที่ประมาณ 850,000 เครื่อง ในขณะที่มูลค่าเม็ดเงินเท่าเดิม เนื่องจากตลาดกล้องมีการปรับราคาลงประมาณ 15%

ทำไมทางแคนนอนถึงมั่นใจเช่นนั้น ทั้งที่แคนนอนก็เกาะเกี่ยวอยู่ในตำแหน่ง 2-3 มีส่วนแบ่งทางการตลาดไม่ห่างจากที่เป็นอยู่มากนัก วรินทร์อธิบายว่า ทางแคนนอนได้ทำการปรับสัดส่วนยอดขายหลักของบริษัทจากเดิมที่มาจากตลาดพรินเตอร์ที่เคยมียอดขายสูงสุดมาเป็นตลาดกล้องดิจิตอลแทน

วรินทร์เล่าให้ฟังถึงแง่มุมการตลาดในปีที่ผ่านมาให้ฟังว่า จากการที่ทางแคนนอนเคยเปิดตัว IXUS ไปเมื่อกลางปีที่แล้วกระแสตอบรับของตลาดดีมาก ความจริง แคนนอนน่าจะเก็บส่วนแบ่งทางการตลาดได้มากกว่านี้ แต่เนื่องจากทางเราประเมินความต้องการของตลาดผิดพลาด มีดีมานด์ที่สูงมากจนทำให้สินค้าที่นำเข้ามาไม่พอกับความต้องการ ทำให้สินค้าของแคนนอนเกิดการขาดตลาด แต่ปีนี้เรามั่นใจมาก ช่วง 3 เดือนแรกที่ผ่านมาตัวเลขโตขึ้นกว่า 60% เมื่อเทียบกับช่วงเวลาเดียวกันของปีที่แล้ว หรือมีส่วนแบ่งตลาด 16% เป็นผลมาจากการเปิดตัวผลิตภัณฑ์อย่างแรกหลายรุ่นในช่วงปลายปีที่ผ่านมา รวมถึงได้มีการปรับราคาจำหน่ายลดลงมา 10-15% ตามราคาเฉลี่ยนของตลาด ที่สำคัญสินค้าของแคนนอนเมดอินเจแปนทั้งหมด ดังนั้นปีนี้ แคนนอนมั่นใจว่าจะก้าวขึ้นเป็นผู้นำได้

"เราเติบโต 30% ทุกปี แม้ว่าปีนี้ภาวะเศรษฐกิจชะลอตัว แต่ตลาดกล้องดิจิตอลเป็นตลาดที่ยังคงเติบโต เพราะราคาที่ถูกลง 10-20% ทุกปี อีกทั้งผู้ประกอบการระดมเปิดตัวสินค้าอย่างต่อเนื่อง"

วรินทร์ กล่าวเสริมถึงกลยุทธ์ทางด้านผลิตภัณฑ์กล้องดิจิตอลให้ฟังว่า แคนนอนเน้นการนำเสนอผลิตภัณฑ์ที่มีรูปลักษณ์โดดเด่นทันสมัยยิ่งขึ้น ผสานกับเทคโนโลยีที่ล้ำหน้า โดยเฉพาะในส่วนของกล้องถ่ายภาพดิจิตอล ต้องตอบสนองความต้องการของผู้ใช้อย่างรอบด้าน ตั้งแต่ ดีไซน์ สีสัน ความละเอียด คุณภาพของภาพ ที่ช่วยให้เกิดความสะดวกและความหลากหลายในการใช้งาน

กล้องดิจิตอล IXUS ที่เปิดตัวในครั้งนี้มี 2 รุ่น ได้แก่ IXUS 75 และ IXUS 70 โดดเด่นด้วยดีไซน์บางเฉียบ แต่ยังคงคุณภาพของภาพถ่ายได้อย่างดีเยี่ยม เพราะแคนนอนพัฒนา Linear Lens ทำให้แสงผ่านเลนส์เข้าสู่ตัวสร้างภาพโดยตรง เพื่อให้ได้ความคมชัดของภาพ โดยไม่ใช้การสะท้อนภาพหรือขยับชิ้นเลนส์เพียงเพื่อให้ได้ความบางของตัวกล้อง และอีกขั้นของเทคโนโลยี Advance Multiple Face Detection เพราะนอกจากจะสามารถโฟกัสใบหน้าบุคคลได้พร้อมกันทีเดียวหลายคนแล้ว ยังมีระบบเอฟอีที่ช่วยปรับแสงแฟลชให้เหมาะสมกับค่าแสงบนใบหน้า พร้อมจอแอลซีดีใหญ่ขนาด 3 นิ้วสำหรับรุ่น IXUS 75 และความละเอียดสูงถึง 7.1 ล้านพิกเซล ส่วนกล้องดิจิตอลในตระกูลเพาเวอร์ช็อตใหม่มีอีก 6 รุ่น ได้แก่ เอ 450 เอ 460 เอ 550 เอ 570ไอเอส เอ 560 และเพาเวอร์ช็อต ทีเอ็กซ์ 1 มีความละเอียดให้เลือกตั้งแต่ 5 ถึง 7.1 ล้านพิกเซล ทุกรุ่นทำงานภายใต้ระบบประมวลผลอัจฉริยะ Digic ซึ่งเป็นลิขสิทธิ์เฉพาะของแคนนอน และมีกล้องวิดีโอดิจิตอลอีก 6 รุ่นใหม่ ประกอบไปด้วย ดีซี 51 เป็นกล้องถ่ายวิดีโอดิจิตอลความละเอียดสูงถึง 5 ล้านพิกเซล รวมทั้ง ดีซี 230/220/210 และเอ็มดี 160/120 ซึ่งเป็นกล้องวิดีโอที่ใช้ง่ายและมีฟังก์ชั่นครบครัน พกพาสะดวกที่ซูมได้ 35 เท่าพร้อมดิจิตอลซูมถึง 1000 เท่า

นอกจากนี้ แคนนอนยังได้นำ "พอลล่า เทเลอร์" มาเป็นพรีเซนเตอร์แคมเปญ "My Image My Canon" ด้วยการผลิตภาพยนตร์โฆษณาผ่านผลิตภัณฑ์กล้องดิจิตอล IXUS เพื่อนำเสนอผ่านสื่อ อาทิ ทีวี วิทยุ สื่อสิ่งพิมพ์ และสื่อ ณ จุดขาย โดยบริษัทฯ คาดว่าจะช่วยสร้างกระแสการรับรู้ให้กับตัวผลิตภัณฑ์ และกระตุ้นยอดขายในกลุ่มที่เป็นคนรุ่นใหม่


กลับสู่หน้าหลัก

Creative Commons License
ผลงานนี้ ใช้สัญญาอนุญาตของครีเอทีฟคอมมอนส์แบบ แสดงที่มา-ไม่ใช้เพื่อการค้า-ไม่ดัดแปลง 3.0 ประเทศไทย



(cc) 2008 ASTVmanager Co., Ltd. Some Rights Reserved.