เผยสินเชื่อบ้านโตสวนเศรษฐกิจซบ แบงก์แห่ออกแคมเปญชูดอกเบี้ยคงที่

เผยสินเชื่อบ้านโตสวนเศรษฐกิจซบ แบงก์แห่ออกแคมเปญชูดอกเบี้ยคงที่

ผู้จัดการรายวัน(11 เมษายน 2550)

กลับสู่หน้าหลัก

สินเชื่อบ้านยังคึกคักสวนเศรษฐกิจซบ แบงก์แห่ออกแคมเปญชิงยอดปล่อยกู้ ชูดอกเบี้ยคงที่เป็นจุดขาย ระบุช่วงดอกเบี้ยขาลงยังเป็นปัจจัยหนุนที่ทำให้ผู้บริโภคตัดสินใจง่ายขึ้น "กสิกรไทย"โชว์ 3 เดือนแรกยอดสินเชื่อบ้าน 5,000 ล้านบาท โต 30-40%มากกว่าที่ประมาณการไว้ ล่าสุด"บัวหลวง"ลงสนามประกาศปรับลดดอกเบี้ยสินเชื่อบ้านบัวหลวงลง 0.25-0.75% พร้อมเปิดทางเลือกดอกเบี้ยคงที่ 1 ปี 2 ปี และคงที่อิงลอยตัว 3 ปี

นายชาติชาย พยุหนาวีชัย ผู้อำนวยการฝ่ายอาวุโส ฝ่ายบริหารผลิตภัณฑ์และการตลาดสินเชื่อผู้บริโภค ธนาคารกสิกรไทย จำกัด (มหาชน) เปิดเผยว่าในช่วงไตรมาสแรกที่ผ่านมาธนาคารสามารถขยายสินเชื่อที่อยู่อาศัยได้ 5,000 ล้านบาท โดยคิดเป็นอัตราการเติบโตจากช่วงเดียวกันของปีก่อน 30-40% ที่ขยายสินเชื่อได้ 3,500 ล้านบาท เนื่องจากในปีนี้ทิศทางอัตราดอกเบี้ยอยู่ในช่วงขาลงทำให้มีอิทธิพลต่อการตัดสินใจซื้อที่อยู่อาศัยเพิ่มมาก ขณะที่ในครึ่งปีประมาณการณ์การขยายตัวของสินเชื่อที่ 8,000 ล้านบาท

“ปีที่แล้วมีเรื่องของความไม่แน่นอนทางการเมืองเข้ามาทำให้อัตราการขยายตัวของสินเชื่อบ้านในภาพรวมของระบบธนาคารพาณิชย์ติดลบประมาณ 0.4% แต่ในไตรมาสแรกของปีนี้การขยายสินเชื่อมีการเติบโตสวนกับภาวะเศรษฐกิจจากเดิมที่อัตราการเติบโตของสินเชื่อจะเป็นไปตามฤดูกาลที่ไตรมาส1และ2จะชะลอแล้วมากระเตื้องขึ้นในไตรมาส3และ4ของปี” นายชาติชาย กล่าว

สำหรับเป้าหมายการขยายตัวของสินเชื่อที่อยู่อาศัยทั้งปีนั้นธนาคารตั้งเป้าอัตราการเติบโตที่ 18,000 ล้านบาท ซึ่งใกล้เคียงกับปีที่ผ่านมา ทั้งนี้ตัวเลขดังกล่าวจะมีการทบทวนอีกครั้งหรือไม่นั้นคงต้องรอพิจารณาดูอัตราการเติบโตของสินเชื่อในไตรมาสต่อไปก่อนว่าจะมีการขยายตัวดีต่อเนื่องจากไตรมาสแรกหรือไม่ ส่วนทิศทางอัตราดอกเบี้ยที่อยู่อาศัยจากนี้ไปหลังจากที่ธนาคารพาณิชย์หลายแห่งได้ทยอยปรับลดอัตราดอกเบี้ย MLR ไปบ้างแล้วเชื่อว่าในการประชุมคณะกรรมการนโยบายการเงิน (กนง.) ธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) น่าจะปรับลดอัตราดอกเบี้ยนโยบายลงอีก 0.50% ทำให้ในครึ่งแรกของปีนี้อัตราดอกเบี้ยสินเชื่อที่อยู่อาศัย MLR มีโอกาสที่จะปรับลดลงมาอีก 0.50-0.75% และทั้งปีมีโอกาสลงไป 1.0-1.50%

“ในปีที่ผ่านมาอัตราดอกเบี้ยยังไม่มีการปรับลดลงเนื่องจากแบงก์ชาติยังมีความกังวลในเรื่องของอัตราเงินเฟ้อที่สูงโดยขณะนั้นอัตราเงินเฟ้ออยู่ที่ระดับ 4.7% แต่ในปีนี้อัตราเงินเฟ้อได้ปรับลดลงมาแล้วอยู่ที่ประมาณ 2.5-3.0% ซึ่งส่วนต่างลดลงค่อนข้างมากทำให้เริ่มคลายความกังวลที่จะตัดสินใจปรับลดอัตราดอกเบี้ยลง” นายชาติชาย กล่าว

นายชาติชาย กล่าวต่อถึงอัตราดอกเบี้ยที่อยู่อาศัยของธนาคารว่าจะมีการปรับลดลงต่อหรือไม่นั้นตามปกติการปรับลดหรือปรับขึ้นจะเป็นไปตามอัตโนมัติอยู่ในตัวอยู่แล้ว แต่ในช่วงต้นเดือนเมษายนที่ผ่านมาธนาคารได้เสนออัตราดอกเบี้ยพิเศษสำหรับลูกค้าทั่วไปทั้งอัตราดอกเบี้ยคงที่ 1ปี 4.0% คงที่2ปี 5.5% คงที่3ปี 6.5% หลังจากที่ได้ประกาศยกเลิกไปในปีที่ผ่านมา นอกจากนี้ยังได้เสนออัตราดอกเบี้ยลอยตัวพิเศษอีก 3 รูปแบบเพื่อเป็นการเพิ่มทางเลือกให้แก่ลูกค้าที่มาขอสินเชื่อผ่านธนาคาร

“เราได้นำอัตราดอกเบี้ยคงที่กลับมาใช้อีกครั้งโดยเริ่มใช้ตั้งแต่ต้นเดือนเมษายนที่ผ่านมาเนื่องจากมองว่าหลังจากที่ทิศทางดอกเบี้ยอยู่ในช่วงขาลงทำให้ธนาคารสามารถควบคุมต้นทุนได้ดีขึ้นจึงนำกลับมาใช้อีก หลังจากปีที่ผ่านมาได้ยกเลิกออกไปเพราะสถาบันการเงินหลายแห่งไม่สามารถควบคุมต้นทุนทางการเงินได้” นายชาติชาย กล่าว

นอกจากนี้ในปีนี้เชื่อว่าการแข่งขันขยายสินเชื่อที่อยู่อาศัยจะยังมีความรุนแรงต่อ เนื่องจากการแข่งขันธุรกิจด้านอื่นๆเริ่มเข้าสู่ภาวะชะลอตัวลง ส่งผลให้การขยายสินเชื่อชะลงตัวลงบ้าง ประกอบกับผู้ประกอบการจะมาให้ความสำคัญในการขยายสินเชื่อที่มีความเสี่ยงต่ำมากขึ้น โดยเฉพาะสินเชื่อที่อยู่อาศัย ที่รับอานิสสงค์จากทิศทางดอกเบี้ยขาลงที่จะเป็นตัวกระตุ้นความต้องการซื้อที่อยู่อาศัยสูงขึ้น

อย่างไรก็ตามในส่วนของธนาคารได้ร่วมกับบริษัทพัฒนาอสังหาริมทรัพย์ต่างๆในการร่วมมือเสนอแคมเปญพิเศษๆมอบให้ลูกค้าอยู่เรื่อยๆ พร้อมแจ้งผลการอนุมัติล่วงหน้า 1 ปี เป็นต้น

ธนาคารกรุงเทพ ปรับลดดอกเบี้ย ‘สินเชื่อบ้านบัวหลวง’ ลง 0.25-0.75%

BBLเปิดศึกดอกเบี้ยคงที่ 1-2 ปี

นางรัชนี นพเมือง ผู้ช่วยผู้จัดการใหญ่ และผู้อำนวยการลูกค้าบุคคลนครหลวง ธนาคารกรุงเทพ จำกัด (มหาชน) เปิดเผยว่า ตั้งแต่วันนี้จนถึงวันที่ 30 มิถุนายน 2550 ทางธนาคารได้จัดโปรโมชั่นพิเศษสำหรับลูกค้าสินเชื่อเพื่อที่อยู่อาศัย หรือ ‘สินเชื่อบ้านบัวหลวง’ ด้วยการปรับลดอัตราดอกเบี้ยลง 0.25-0.75% พร้อมทางเลือกสำหรับการผ่อนชำระ 3 รูปแบบ เพื่อเป็นทางเลือกให้กับลูกค้าพิจารณาถึงปัจจัย และความเหมาะสมของแต่ละราย ทั้งอัตราดอกเบี้ยคงที่ 1 ปี อัตราดอกเบี้ยคงที่ 2 ปี และอัตราดอกเบี้ยคงที่อิงลอยตัว 3 ปี ด้วยข้อเสนอดังกล่าวจะเป็นการช่วยแบ่งเบาภาระการผ่อนในภาวะเศรษฐกิจผันผวนอย่างเช่นปัจจุบัน อีกทั้งยังเป็นการกระตุ้นการตัดสินใจให้กับผู้ที่กำลังคิดจะมีบ้านเป็นของตนเองได้ง่ายยิ่งขึ้น

สำหรับอัตราดอกเบี้ยใหม่ ‘สินเชื่อบ้านบัวหลวง’ 3 รูปแบบ ประกอบด้วย ทางเลือกที่ 1 อัตราดอกเบี้ยปีแรกคงที่ 4.50% และ MLR ในปีที่เหลือ ซึ่งเท่ากับลดลง 0.50% จากเดิม 5.00% ทางเลือกที่ 2 อัตราดอกเบี้ยคงที่ปีแรก 5.75% ปีที่ 2 คงที่ 6% และ MLR ในปีที่เหลือ ซึ่งเท่ากับลดลงปีแรก 0.25% และปีที่สอง 0.75% ส่วนทางเลือกที่ 3 อัตราดอกเบี้ยคงที่อิงลอยตัว 3 ปี MLR-1.00% (หรือปัจจุบันเท่ากับ 6.50%) และ MLR ในปีที่เหลือ โดยปัจจุบัน MLR หรือ อัตราดอกเบี้ยสำหรับลูกค้ารายใหญ่ชั้นดี ประเภทเงินกู้แบบมีระยะเวลา เท่ากับ 7.50

นอกจากนี้ลูกค้าสินเชื่อบ้านบัวหลวง ยังได้รับส่วนลดอัตราดอกเบี้ยอีก 0.25% ในปีแรก เมื่อสมัครใช้บริการคุ้มครองเครดิต โฮมเฟิสต์ ซึ่งเป็นการบริการประกันชีวิตสำหรับลูกค้าสินเชื่อบ้านบัวหลวง เพื่อเป็นหลักประกันให้กับครอบครัวของลูกค้าว่าจะยังคงมีกรรมสิทธิ์ในทรัพย์สินอย่างสมบูรณ์โดยไม่ต้องรับภาระหนี้สิน ในกรณีที่เกิดเหตุการณ์ไม่คาดคิดกับผู้เอาประกัน ไม่ว่าจะเสียชีวิต หรือทุพพลภาพสิ้นเชิงถาวร ทั้งนี้ลูกค้าสามารถกู้เพิ่มเพื่อชำระค่าธรรมเนียมคุ้มครองเครดิต โฮมเฟิสต์ และประกันอัคคีภัยระยะยาวได้อีกด้วย

ธอส.เตรียมปล่อยกู้ดบ.คงที่ 3 ปี วงเงินหมื่นล้าน

ก่อนหน้านี้ นายขรรค์ ประจวบเหมาะ กรรมการผู้จัดการ ธนาคารอาคารสงเคราะห์ (ธอส.) กล่าวว่า ธนาคารจะออกผลิตภัณฑ์สินเชื่อที่อยู่อาศัยตัวใหม่ เพื่อกระตุ้นการปล่อยสินเชื่อให้เพิ่มมากขึ้น โดยคิดดอกเบี้ย คงที่ 3 ปี ในวงเงินประมาณ 10,000 ล้านบาท ซึ่งคาดว่าจะสามารถเริ่มปล่อยสินเชื่อดังกล่าวได้ภายในไตรมาส 2 ของปี 2550

โดยแคมเปญใหม่นี้ช่วยจะกระตุ้นยอดสินเชื่อ หลังจากที่ตั้งแต่ในช่วงต้นปีที่ผ่านมายอดการปล่อยสินเชื่อชะลอตัวลงอย่างมาก โดยขณะนี้อยู่ระหว่างการพิจารณาอัตราดอกเบี้ย คงต้องรอการประชุมของคณะกรรมการนโยบายการเงิน (กนง.)ก่อนว่าจะลดอัตราดอกเบี้ยลงเท่าไร

นอกจากนี้นายขรรค์ ในฐานะที่ปรึกษารัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลังยังได้เสนอให้กระทรวงการคลังและธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.)สนับสนุนเงินกู้ดอกเบี้ยต่ำ(ซอฟต์โลน) ให้กับ ธอส.ในวงเงิน 3 หมื่นล้านบาท เพื่อสนับสนุนการปล่อยสินเชื่อเพื่อกระตุ้นการกู้ซื้อบ้าน รวมถึงออกลดภาษีคือลดค่าธรรมเนียมการโอนและค่าธรรมเนียมการจดจำนองให้เหลือน้อยลงด้วย

กลับสู่หน้าหลัก

ผลงานนี้ ใช้สัญญาอนุญาตของครีเอทีฟคอมมอนส์แบบ แสดงที่มา-ไม่ใช้เพื่อการค้า-ไม่ดัดแปลง 3.0 ประเทศไทย