ไทยออยล์ทุ่มงบลงทุน1.4หมื่นล.หนุนรายได้ปี 51 โตก้าวกระโดด


ผู้จัดการรายวัน(10 เมษายน 2550)



กลับสู่หน้าหลัก

ไทยออยล์ ยอมรับรายได้ปี 50 นี้ลดลงจากปีก่อน เหตุต้องปิดซ่อมโรงกลั่น 2 เดือน ทำให้กำลังการกลั่นลดลงกว่า 1 แสนบาร์เรลต่อวัน พร้อมทุ่มงบลงทุน 1.4 หมื่นล้านบาท ขยายกำลังการผลิต เพื่อหนุนรายได้ปี 51 โตอย่างก้าวกระโดด ขณะที่ผู้ถือหุ้นไฟเขียวกู้เงินกว่า 1.7 หมื่นล้าน รองรับขยายงานในอนาคต

นายวิโรจน์ มาวิจักขณ์ กรรมการอำนวยการ บริษัท ไทยออยล์ จำกัด (มหาชน) หรือ TOP กล่าวว่า ในปี 2550 นี้ บริษัทคาดว่าจะมีรายได้ลดลงจากปีก่อนที่มีรายได้รวม 2.79 แสนล้านบาท เนื่องจากบริษัทต้องปิดซ่อมบำรุงโรงกลั่นและโรงงานปิโตรเคมี ประมาณ 2 เดือน ในช่วงตั้งแต่กลางเดือนตุลาคม - ธันวาคม 2550 ทำให้กำลังการกลั่นลดลงประมาณ 1 แสนบาร์เรล/วัน

ทั้งนี้ ในไตรมาสแรกบริษัทคาดว่าจะมีรายได้เพิ่มขึ้นจากงวดเดียวกันของปีก่อน เพราะค่าการกลั่นปรับตัวสูงขึ้นจากปีก่อนที่ค่าการกลั่นเฉลี่ยอยู่ที่ 7.69 เหรียญสหรัฐ/บาร์เรล แม้ว่าค่าการกลั่นเฉลี่ยทั้งปี 50 นี้ประเมินว่าจะอยู่ในช่วง 4-6 เหรียญสหรัฐ/บาร์เรล

สำหรับงบลงทุนในปี 50 บริษัทคาดว่าจะใช้เงินราว 400 ล้านเหรียญสหรัฐ หรือประมาณ 14,000 ล้านบาท (คำนวณอัตราแลกเปลี่ยน 1 เหรียญสหรัฐต่อ 35 บาท) เพื่อเพิ่มกำลังการผลิตของโรงกลั่นน้ำมันอีก 5 หมื่นบาร์เรล/วัน ซึ่งจะแล้วเสร็จในไตรมาส 4/50 รวมทั้งจะขยายกำลังการผลิตปิโตรเคมี เพิ่มเป็น 9 แสนตัน/ปี ซึ่งจะส่งผลให้รายได้และกำไรสุทธิในปี 51 เติบโตอย่างก้าวกระโดด

ส่วนการประชุมสามัญผู้ถือหุ้นประจำปี 2550 วานนี้ (10 เม.ย.) ผู้ถือหุ้นได้อนุมัติวงเงินกู้จำนวน 500 ล้านเหรียญสหรัฐ หรือประมาณ 17,500 ล้านบาท ซึ่งเป็นการขออนุมัติล่วงหน้าสำหรับรองรับโครงการในอนาคต โดยบริษัทยังไม่มีกำหนดการออกหุ้นกู้ในปีนี้ แต่ทั้งนี้จะต้องขึ้นอยู่กับแนวโน้มดอกเบี้ยด้วย รวมถึงเปรียบเทียบกันต้นทุนเงินกู้ในปัจจุบัน หากพบว่าต้นทุนต่ำกว่าบริษัทอาจตัดสินใจออกหุ้นกู้ เพื่อนำมาชำระเงินกู้ที่ภาระดอกเบี้ยสูงกว่า

สำหรับการเข้าประมูลโรงไฟฟ้า IPP นั้น นายวิโรจน์ กล่าวว่า บริษัทมีความพร้อมอย่างเต็มที่ในการเข้าประมูลโรงไฟฟ้าขนาด 700 เมกะวัตต์ ซึ่งจะใช้เงินลงทุน 350 ล้านเหรียญสหรัฐ โดยบริษัทมีความได้เปรียบ เพราะมีพื้นที่ในการจัดตั้งโรงไฟฟ้าและมีท่อส่งก๊าซเป็นของตัวเอง ส่วนการเข้าร่วมประมูลโรงไฟฟ้า SPP หรือไม่นั้น บริษัทจะขอดูรายละเอียดของภาครัฐก่อน จึงจะตัดสินใจ

"การลงทุนโรงไฟฟ้าจะทำให้บริษัทมีการกระจายรายได้ และมีรายได้ที่แน่นอนจากสัญญาร่วมกับการไฟฟ้าฝ่ายผลิต (กฟผ.) 25 ปี ทำให้ลดความเสี่ยงจากความผันผวนของค่าการกลั่นและหากธุรกิจการกลั่นอยู่ในช่วงขาลง รายได้จากธุรกิจไฟฟ้าจะเข้ามาช่วยทดแทน"


กลับสู่หน้าหลัก

Creative Commons License
ผลงานนี้ ใช้สัญญาอนุญาตของครีเอทีฟคอมมอนส์แบบ แสดงที่มา-ไม่ใช้เพื่อการค้า-ไม่ดัดแปลง 3.0 ประเทศไทย



(cc) 2008 ASTVmanager Co., Ltd. Some Rights Reserved.