|

"สวนอุตหกรรมโรจนะ"เล็งยื่นประมูลIPP หลังจับมือญี่ปุ่น-กฟผ.ผุดโรงไฟฟ้าที่ลาว
ผู้จัดการรายวัน(10 เมษายน 2550)
กลับสู่หน้าหลัก
กฟผ.ผนึกกลุ่มคันไซ ญี่ปุ่น-สวนอุตสาหกรรมโรจนะร่วมทุนโครงการโรงไฟฟ้าพลังน้ำ-น้ำเงี้ยบ1 ที่สปป.ลาว ขนาดกำลังการผลิต 261 เมกะวัตต์ มั่นใจสรุปผลศึกษาได้ภายในสิ้นปีนี้ ก่อนลุยก่อสร้างและจ่ายไฟฟ้าเข้าไทยในปี 2557 "จิระพงษ์"บิ๊กสวนอุตฯโรจนะ เล็งจับมือพันธมิตรเข้าร่วมประมูลไอพีพีรอบใหม่ เล็งสร้างโรงไฟฟ้าใช้ก๊าซฯขนาด 700-1,400 เมกะวัตต์ในพื้นที่นิคมฯตัวเอง
วานนี้ (9 เม.ย.) การไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย (กฟผ.) จัดพิธีลงนามบันทึกข้อตกลงความร่วมมือการพัฒนาโครงการโรงไฟฟ้าพลังน้ำ-เขื่อนน้ำเงี้ยบ 1 ในสปป.ลาว ขนาดกำลังการผลิต 261 เมกะวัตต์ในระหว่างกฟผ. กับThe Kansai Electric Power Co.,Inc. และบริษัท สวนอุตสาหกรรมโรจนะ จำกัด (มหาชน) โดยมีนายปิยสวัสดิ์ อัมระนันทน์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพลังงานเป็นประธาน
โดยการศึกษาโครงการดังกล่าว เริ่มจากกลุ่มคันไซฯประเทศญี่ปุ่นได้รับใบอนุญาตในศึกษาและสร้างโรงไฟฟ้าพลังน้ำ -น้ำเงี้ยบ1 จากรัฐบาลลาว จึงได้มีการชักชวนกฟผ.และสวนอุตสาหกรรมโรจนะเข้าร่วมทุน โดยมีสัดส่วนผู้ร่วมทุนประกอบไปด้วยกลุ่มคันไซ 40 % สปป.ลาว 20% กฟผ. 25% และสวนอุตสาหกรรมโรจนะ 15%
นายไกรสีห์ กรรณสูต ผู้ว่าการการไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย (กฟผ.) กล่าวว่า โครงการโรงไฟฟ้าพลังน้ำเขื่อนน้ำเงี้ยบ 1 เป็นความร่วมมือระหว่างรัฐบาลไทยกับรัฐบาลสาธารณรัฐประชาธิปไตยประชาชนลาว โดยโครงการนี้จะมีกำลังการผลิตไฟฟ้า 261 เมกะวัตต์ มูลค่ารวม 470 ล้านเหรียญสหรัฐ คาดว่าจะใช้จากการกู้ยืมประมาณ 70% และจากผู้ร่วมลงทุนประมาณ 30 %
ทั้งนี้เงินลงทุนในส่วนของ กฟผ. เป็นเงินประมาณ 35.53 ล้านเหรียญสหรัฐหรือประมาณ 1,350 ล้านบาท โดยกฟผ. จะดำเนินการสำรวจ ศึกษาออกแบบ ควบคุมระบบส่งไฟฟ้า และงานศึกษาด้านสิ่งแวดล้อม บริษัท Kansai จะดำเนินการด้านสำรวจ ศึกษา ออกแบบ ควบคุมเขื่อนและโรงไฟฟ้า คาดว่าเริ่มดำเนินการก่อสร้างในปี 2551 และสามารถจ่ายกระแสไฟฟ้าในเชิงพาณิชย์ได้ในเดือนมกราคม 2557
นายจิระพงษ์ วินิชบุตร กรรมการผู้จัดการ บริษัท สวนอุตสาหกรรมโรจนะ จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า โครงการดังกล่าวอยู่ระหว่างการศึกษาความเป็นไปได้คาดว่าจะสรุปผลได้ปลายปี 2550 หลังจากนั้นจะดำเนินการก่อสร้าง และจ่ายไฟฟ้าเข้าระบบเพื่อป้อนขายให้กฟผ.ในปี 2557 โดยแหล่เงินทุนจะมาจากการกู้เงินจากธนาคารเพื่อความร่วมมือแห่งประเทศญี่ปุ่น(เจบิก) ในสัดส่วนหนี้สินต่อทุน 3:1 เท่า ซึ่งบริษัทฯจะใช้เงินลงทุนในโครงการนี้ประมาณ 700-800 ล้านบาท
สาเหตุที่เข้าไปร่วมทุนในโครงการดังกล่าว เนื่องจากบริษัทฯได้มีการร่วมทุนกับกลุ่มคันไซฯตั้งบริษัท โรจนะพาวเวอร์ ที่ทำธุรกิจไฟฟ้าป้อนในนิคมอุตสาหกรรมโรจนะอยู่แล้ว ซึ่งกลุ่มคันไซเป็นบริษัทที่มีศักยภาพในการผลิตไฟฟ้า รวมทั้งเห็นว่าเป็นโครงการที่ดีมีผู้ร่วมทุนอย่างรัฐบาลลาว และกฟผ. ซึ่งไฟฟ้าที่ผลิตได้จะเข้ามาจำหน่ายในไทย
"การตัดสินใจเข้าร่วมทุนในโครงการผลิตไฟฟ้าพลังน้ำ(น้ำเงี้ยบ)ครั้งนี้ เนื่องจากเห็นว่าเป็นโครงการที่ดี มีการร่วมทุนกันระหว่างกฟผ. รัฐบาลลาว และกลุ่มคันไซ ซึ่งไฟฟ้าที่ผลิตได้จะส่งเข้ามาจำหน่ายให้กฟผ.ทำให้โครงการมีความมั่นคงมากยิ่งขึ้น "
นอกจากนี้ บริษัทฯยังสนใจเข้าร่วมประมูลโครงการรับซื้อไฟฟ้าไฟฟ้าภาคเอกชนรายใหญ่ (ไอพีพี)ครั้งนี้ด้วย แต่ต้องรอนโยบายรัฐ และเงื่อนไขต่างๆในหนังสือชี้ชวนก่อน ซึ่งการลงทุนดังกล่าวจะเป็นการร่วมทุนกับพันธมิตรทั้งไทยและต่างประเทศประมาณ 3-4 ราย โดยสนใจจะสร้างโรงไฟฟ้าที่ใช้ก๊าซธรรมชาติเป็นเชื้อเพลิง ขนาดกำลังการผลิต 700-1,400 เมกะวัตต์ ในสวนอุตสาหกรรมโรจนะที่อยุธยา หรือระยอง
สำหรับสัดส่วนการถือหุ้นในโครงการไอพีพีนั้น บริษัทฯยังไม่ได้กำหนดชัดเจนขึ้นอยู่กับขนาดของโรงไฟฟ้าที่จะเข้าร่วมประมูล หากประมูลโรงไฟฟ้าขนาดใหญ่ สัดส่วนการถือหุ้นจะน้อยลง ซึ่งยืนยันว่าสถานที่สร้างโรงไฟฟ้าจะอยู่ในนิคมฯซึ่งมีความพร้อมด้านระบบสาธารณูปโภคอยู่แล้ว
กลับสู่หน้าหลัก
 ผลงานนี้ ใช้สัญญาอนุญาตของครีเอทีฟคอมมอนส์แบบ แสดงที่มา-ไม่ใช้เพื่อการค้า-ไม่ดัดแปลง 3.0 ประเทศไทย
(cc) 2008 ASTVmanager Co., Ltd. Some Rights Reserved.
|