|
ฟิทช์ปรับมุมมองTBANK หลัง"สโกเทีย"เข้าร่วมทุน
ผู้จัดการรายวัน(4 เมษายน 2550)
กลับสู่หน้าหลัก
บริษัท ฟิทช์ เรทติ้งส์ (ประเทศไทย) ได้ประกาศเครดิตพินิจภายใต้การพิจารณา (Rating Watch Evolving) แก่อันดับเครดิตภายในประเทศ (National Ratings) ระยะยาวที่ A-(tha)อันดับเครดิตภายในประเทศระยะสั้นที่ F2(tha) และอันดับเครดิตสนับสนุนที่ 5 ของบริษัท ทุนธนชาต จำกัด (มหาชน) (TCAP) รวมทั้งอันดับเครดิตภายในประเทศระยะยาวที่ A-(tha) อันดับเครดิตภายในประเทศระยะสั้นที่ F2(tha) อันดับความแข็งแกร่งทางการเงินที่ D และอันดับเครดิตสนับสนุนที่ 5 ของ ธนาคารธนชาต จำกัด (มหาชน) (TBANK)
การประกาศเครดิตพินิจภายใต้การพิจารณาในครั้งนี้สืบเนื่องมาจากการที่ TCAP ประกาศแผนการที่จะขายหุ้นในสัดส่วน 24.99% ใน TBANK ซึ่งเป็นบริษัทย่อยที่ดำเนินธุรกิจธนาคารพาณิชย์ของ TCAP ให้แก่ Bank of Nova Scotia (Scotia) ซึ่งได้รับการจัดอันดับเครดิตสากลที่ AA-/F1+) ซึ่งดำเนินธุรกิจในประเทศแคนาดา และจะทำการเปลี่ยนแปลงโครงสร้างองค์กรของกลุ่มโดยโอนย้ายบริษัทย่อยของ TCAP 8 บริษัท ซึ่งรวมถึงบริษัทลูกซึ่งดำเนินธุรกิจหลักทรัพย์ ธุรกิจประกันทั้งที่ดำเนินธุรกิจประกันชีวิตและประกันวินาศภัย ธุรกิจลีสซิ่ง และธุรกิจบริหารกองทุน ไปให้แก่ TBANK สัดส่วนใหญ่ในหุ้นของ TBANK และบริษัทย่อยที่ดำเนินธุรกิจบริหารสินทรัพย์ที่ไม่ก่อให้เกิดรายได้ของกลุ่มยังคงจะถูกถือโดย TCAP ซึ่งจะยังดำรงสถานะบริษัทโฮลดิ้งของกลุ่มต่อไป
ทั้งนี้ ในวันที่ 20 มีนาคม 2550 ที่ผ่านมา ฟิทช์ได้ปรับแนวโน้มอันดับเครดิต TCAP และ TBANK เป็นลบ จากเดิมที่แนวโน้มอันดับเครดิตมีเสถียรภาพ โดยการปรับแนวโน้มอันดับเครดิตดังกล่าวสะท้อนถึงความเสี่ยงเกี่ยวกับความสามารถในการทำกำไรที่ถดถอยลง สถานะเงินกองทุนที่อ่อนแอลง และความอ่อนไหวต่อการเพิ่มขึ้นของระดับหนี้ที่ไม่ก่อให้เกิดรายได้ซึ่งเป็นผลมาจากการที่บริษัทมีนโยบายในเชิงรุก TCAP และ TBANK เป็นผู้ประกอบการซึ่งดำเนินการในเชิงรุกมากที่สุดในการตลาดเช่าซื้อรถยนต์ โดยมีส่วนแบ่งทางการตลาดที่ใหญ่ที่สุดในระยะเวลา 6 ปีที่ผ่านมา โดยมีอัตราการเจริญเติบโตของลูกหนี้โดยเฉลี่ยอยู่ที่ 30.4% ต่อปี อย่างไรก็ตาม ความสามารถในการทำกำไรของ TCAP และ TBANK ดูเหมือนจะอยู่ในระดับที่อ่อนแอที่สุด เมื่อเปรียบเทียบกับผู้ประกอบการธุรกิจเช่าซื้อรถยนต์รายหลักรายอื่น สาเหตุหลักเนื่องมาจากการเป็นผู้นำในการแข่งขันด้านราคา ต้นทุนการปล่อยสินเชื่อที่เพิ่มสูงขึ้น และต้นทุนที่เกิดจากการขยายสาขาเป็นจำนวนมาก
Scotia จะใช้เงินลงทุนจำนวน 7.1 พันล้านบาท โดยจะทำการซื้อหุ้นสามัญ จำนวน 157.1 ล้านหุ้น จาก TCAP และซื้อหุ้นสามัญใหม่จำนวน 276.3 ล้านหุ้น ซึ่งจะทำการจัดสรรโดย TBANK ในรูปแบบขายเฉพาะเจาะจง ในช่วงกลางปี 2550 ที่ราคา 16.37 บาทต่อหุ้น การซื้อหุ้นดังกล่าวคาดการณ์ว่าจะเสร็จสิ้นภายในสิ้นเดือนมิถุนายน 2550 Scotia คาดการณ์ว่าจะหยุดการปฏิบัติงานของสาขากรุงเทพ และขายสินทรัพย์ของสาขากรุงเทพของธนาคารไปให้ TBANK เพื่อให้เป็นไปตามนโยบาย “One Presence” ของธนาคารแห่งประเทศไทย นอกจากนี้ Scotia ยังมีทางเลือกที่จะเพิ่มสัดส่วนการถือหุ้นใน TBANK ถึง 49% ในอนาคต โดยจะต้องได้รับการอนุมัติจากธนาคารแห่งประเทศไทยเสียก่อน ในคณะกรรมการของ TCAP ซึ่งมีจำนวนกรรมการทั้งสิ้น 10 ที่นั่ง จะมีตัวแทนจาก Scotia จำนวน 3 ที่นั่ง
สำหรับเงินทุนใหม่จำนวน 4.5 พันล้านบาท จาก Scotia น่าจะช่วยเพิ่มความแข็งแกร่งให้เงินกองทุนชั้นที่ 1 ของ TBANK ประมาณ 30% TCAP ยังมีแผนการที่จะเพิ่มทุนเพิ่มเติมอีก 4 พันล้านบาทในภายหลังด้วย การปรับเปลี่ยนอันดับเครดิตในอนาคต ขึ้นอยู่กับการพิจารณาผลกระทบของการถือหุ้นใน TBANK ของ Scotia ต่อเครือข่ายธนาคารของ TBANK ผลกำไรของธนาคาร กลยุทธ์ในการดำเนินธุรกิจและการบริหารความเสี่ยง รวมทั้งช่วยลดทอนความเสี่ยงต่อความสามารถในการทำกำไรและคุณภาพสินทรัพย์ของกลุ่มด้วย TCAP และ TBANK อาจจะได้ประโยชน์จากความเชี่ยวชาญในด้านการบริการทางธุรกรรมระดับสากล ธุรกิจธนาคารเพื่อการพาณิชย์และเพื่อลูกค้ารายย่อยและธุรกิจบริการที่ปรึกษาการเงินส่วนบุคคล รวมทั้งทางด้านเทคโนโลยีและการปฏิบัติการ
กลับสู่หน้าหลัก
ผลงานนี้ ใช้สัญญาอนุญาตของครีเอทีฟคอมมอนส์แบบ แสดงที่มา-ไม่ใช้เพื่อการค้า-ไม่ดัดแปลง 3.0 ประเทศไทย
(cc) 2008 ASTVmanager Co., Ltd. Some Rights Reserved.
|