ตรวจไข้ " ไวรัล มาร์เกตติ้ง" การตลาดเชื้อใหม่ ยังไม่ถึงวันระบาด


ผู้จัดการรายสัปดาห์(2 เมษายน 2550)



กลับสู่หน้าหลัก

การตลาดอินเทรน ไวรัล มาร์เกตติ้ง เหมาะแค่ไหนกับตลาดเมืองไทย
* ดีแทค - แสนสิริ ยอมรับหนังโฆษณาไวรัล ยังห่างไกลแนวคิด
* นักสร้างแบรนด์ชี้หากผู้บริโภคไทยยังรอนักการตลาดชี้นำ ไวรัล ระบาดยาก
* คนโฆษณา แนะ 2 แม่ไม้สร้างกระบวนการสาวกไวรัล

ยุคสมัยที่เปลี่ยนไป นำพาพฤติกรรมผู้บริโภคให้เปลี่ยนตาม การใช้สื่อเพื่อนำพาข่าวสารในแบบเดิม ๆ ที่ใช้กันมาเนิ่นนานหลายทศวรรษ เริ่มลดประสิทธิภาพ การสื่อสารด้วยสื่อรูปแบบใหม่ที่ทลายกรอบที่เคยจำกัดสื่อเดิมเข้ามาแทนที่ โกลบอลเทรนด์ ตีฆ้อง ไวรัล มาร์เกตติ้ง ที่เลียนแนวคิดการแพร่กระจายของเชื้อไวรัส แพร่กระจายจากหนึ่งสู่สิบ เป็นร้อย เป็นพัน ในเวลารวดเร็ว คลับคล้ายจดหมายลูกโซ่ที่คนไทยคุ้นเคยในอดีต จนถึงการฟอร์เวิร์สอีเมล์ ที่กระจายข้อความจากหนึ่งคนสู่ผู้รับมหาศาลในเวลารวดเร็ว
แต่เทรนด์การสื่อสารดาวรุ่งพุ่งแรงของโลก จะเหมาะกับเทรนด์การสื่อสารของไทยเพียงใด

ทรูฯ - ดีแทค - แสนสิริ
สวมบทกองหน้าไวรัลมาร์เกตติ้ง

หนังโฆษณาชุด "ปาติหาน" ของทรู คอร์ปอเรชั่น ที่เริ่มออกอากาศตั้งแต่ 2 กุมภาพันธ์ที่ผ่านมา ถือเป็นหนังโฆษณาเรื่องแรก ๆ ที่มีการกำหนดแผนการใช้ไวรัล มาร์เกตติ้งอย่างเป็นทางการอยู่บนแผนการสื่อสารการตลาดการลอนช์ภาพ Convergence ของทรู คอร์ปอเรชั่น...

อดุลวิชย์ ชวาลา หนึ่งในทีมสร้างสรรค์งานโฆษณาชุดนี้ จากลีโอเบอร์เนทท์ กล่าวว่า จากภาพพจน์ของ ทรู คอร์ปอเรชั่น ที่เป็นบริษัทสื่อสารโทรคมนาคมที่มีบริการหลากหลาย ทำให้ทีมงานเคยคิดผลิตงานออกมาเป็นหนังสั้น ความยาว 10 นาที ที่จะไม่ใช้สื่อโฆษณาทางทีวีในการเผยแพร่แบบเดิม ๆ โดยจะเปลี่ยนไปหาสื่อสมัยใหม่ เช่น การดาวน์โหลดบนเว็บไซต์ แต่เมื่อด้วยข้อจำกัดต่าง ๆ แม้ต้องผลิตงานออกมาในรูปแบบเดิม ๆ คือ หนังโฆษณาความยาว 90 วินาที แต่รูปแบบการนำเสนอมีการใส่ลูกเล่นของไวรัล มาร์เก็ตติ้ง เข้าไปอย่างเต็มที่
ทันทีที่หนังโฆษณาชุด "ปาติหาน" ออกอากาศครั้งแรกในคืนวันศุกร์ที่ 2 กุมภาพันธ์ บรรดานักท่องเว็บที่บังเอิญเสิร์ชเข้าไปอยู่ใน www.trueworld.netไม่ว่าจะคลิกไปอยู่ในหน้าใด จะปรากฏหนังโฆษณาเรื่องนี้ขึ้นมาบนหน้าจอพร้อม ๆ กัน เป็นครั้งแรกในประเทศไทย โดยหนังโฆษณาที่มีเนื้อหาของการส่งข้อมูลข่าวสารเพื่อช่วยเหลือเด็กน้อยในลักษณะไวรอล คอมมูนิเคชั่นเรื่องนี้ ยังให้ผู้ประทับใจในเนื้อหาสามารถดาวน์โหลดหนังฉบับเต็ม 120 วินาที ส่งกระจายต่อกันไปได้ แต่ก็ไม่ได้สร้างความสำเร็จอะไรจากแนวทางการสื่อสารตามเทรนโลกลักษณะนี้ได้

เช่นเดียวกับค่ายโทรศัพท์มือถือดีแทค องค์กรธุรกิจที่มีการผลิตหนังโฆษณาออกอากาศมากที่สุดองค์กรหนึ่งในช่วงปีที่ผ่านมา ธนา เธียรอัจฉริยะ รองประธานเจ้าหน้าที่บริหารกลุ่มงานพาณิชย์ บริษัท โทเทิ่ล แอ็คเซ็ส คอมมูนิเคชั่น จำกัด (มหาชน) หรือดีแทค ที่เห็นการขยายตัวของไวรัล มาร์เก็ตติ้งในตลาดโลก เกิดความคิดอยากลองใช้ไวรัล มาร์เก็ตติ้ง กับงานโฆษณารณรงค์การใช้โทรศัพท์อย่างพอดี ชุดโทรพอดี พอดี โดยเลื่อนการออกอากาศบนจอทีวีออกไป 3 สัปดาห์ แล้วปล่อยคลิปของงานโฆษณาชุดนี้ไปให้กับพนักงานดีแทคที่มีกว่า 4,000 คน ช่วยกระจายออกทางอีเมล์ถึงเพื่อนสนิท หวัง 4,000 คน จะขยายสู่หลักหมื่น หลักแสน แต่ไวรัลมาร์เก็ตติ้งของธนา ดูจะมีอุปสรรคไม่น้อย เริ่มตั้งแต่ความหนักของไฟล์หนังโฆษณาที่สูงถึง 7 - 10 เมกกะไบท์ ส่งผลให้การสื่อสารออนไลน์ของดีแทควุ่นวายในช่วงเวลานั้น

แม้ธนา จะตัดสินใจเปลี่ยนมาฝากคลิปหนังไว้บนเว็บฮิตของโลกอย่างยูทิวบ์ โดยตั้งเสิร์ชเวิร์ดเป็นคำง่าย ๆ ล้อเลียนศิลปินดังของเกาหลีว่า "เหลน" เกิดโครงสร้างไวรัล มาร์เกตติ้งขนาดย่อม ที่มีการส่งต่อกันอยู่ในหลักหมื่นคน แต่ธนา ก็ยังถือว่า ผลงานยังไม่เข้าเป้าหมายที่วางไว้ จึงเกิดเป็นเฟสที่ 3 ของการทดลองไวรัล มาร์เกตติ้งครั้งแรก

ธนาสร้างแรงจูงใจให้เกิดการแพร่กระจายของไวรัสการตลาด ด้วยการเสนอผลตอบแทน ตั้งเงื่อนไขมอบค่าโทรฟรี 20 บาท ให้กับผู้ดาวน์โหลดหนังโฆษณาชุดนี้ แล้วส่งต่อให้เพื่อน 3 คน ในช่วงวันเสาร์-อาทิตย์ โดยไม่มีการโฆษณาในสื่อใด ๆ ผลที่ออกมาเป็นคำตอบที่ดีให้กับธนา ที่มีผู้ดาวน์โหลดคลิปเพื่อส่งต่อเป็นไวรัสสูงถึงหลักแสนคน เพียงแต่ ธนา ยังไม่ได้คำตอบสุดท้ายว่า แล้วจะทำอย่างไรให้ไวรัสที่แพร่กระจายได้ยาวนานโดยไม่ต้องพึ่งโปรโมชั่น

Beautiful Community แคมเปญการตลาดของบริษัทอสังหาริมทรัพย์แสนสิริ เป็นผู้ประกอบการอีกรายที่ดึงแนวคิดไวรัล มาร์เกตติ้งมาใช้ในงาน นอกจากเนื้อหาของหนังโฆษณาที่ว่าด้วยแนวคิด Connecting Happiness หรือการส่งความสุขให้แก่กัน นำเสนอภาพการใช้ชีวิตของคนในหมู่บ้านแสนสิริ ที่ส่งความสุขที่มีต่อกัน ขยายเป็นชุมชน จนถึงสังคมที่มีสิ่งแวดล้อมที่ดี เป็น World of Mouth ที่พร้อมจะเติบโตขึ้นเป็น Viral ในด้านของการเผยแพร่หนังโฆษณา นอกเหนือจากการออนแอร์ทางทีวีตามปกติแล้ว แสนสิริ ยังมีการเปิดเว็บไซต์ ตั้งเป้าเป็นเครื่องมือในการแพร่กระจายแนวคิดเรื่องความสุข ต่อยอดจากหนังโฆษณา

www.beautiful-community.comถือเป็นกลยุทธการสื่อสารใหม่ในตลาดอสังหาริมทรัพย์ เว็บของบริษัทเรียลเอสเตทเว็บนี้ ไม่มีการขายสินค้า ไม่มีรายละเอียดโครงการของแสนสิริ มีอีการ์ดให้ผู้เข้าชมสามารถส่งต่อถึงเพื่อน มีหนังโฆษณาชุด Beautiful Community ให้ดาวน์โหลด และเพลงที่ใช้ประกอบหนัง ผลงานของค่ายเพลงอินดี้ชื่อดัง สมอลล์รูม ก็เปิดให้ดาวน์โหลดฟรี มุ่งหวังให้เว็บนี้เป็นจุดเริ่มต้นของการแพร่ไวรัล มาร์เกตติ้งให้กับแสนสิริ

แต่สมัชชา พรหมศิริ ผู้จัดการอาวุโส ฝ่ายการตลาด บริษัท แสนสิริ จำกัด(มหาชน) ก็ยอมรับว่า ไวรัล มาร์เกตติ้งของแสนสิริ ถือเป็นการเริ่มต้นที่ไม่ได้คาดหวังว่าจะประสบความสำเร็จมากมายแต่อย่างไร จำนวนผู้เข้าชมประมาณ 5,000 - 6,000 คน ตั้งแต่เปิดให้บริการมาก็ถือว่าน่าพอใจ จบแคมเปญโฆษณา ผู้เข้าชมเว็บก็คงจะลดจำนวนลง ซึ่งตนก็ต้องหากรรมวิธีในการดึงให้กลุ่มเป้าหมายกลับเข้าไปในเว็บอย่างต่อเนื่อง ซึ่งเป็นเรื่องที่ต้องหาแนวทางกันต่อไป

ความรุนแรง - ขัดแย้ง - ผลประโยชน์
3 ปัจจัยส่งเชื้อไวรัล แพร่กระจาย


สมัชชา ชี้ว่า แนวคิดไวรัล มาร์เกตติ้งที่แสนสิริใช้ คงไม่สามารถเปรียบเทียบกับการทำไวรัล มาร์เกตติ้งของบริษัทสื่อสารเช่น ทรูฯ หรือดีแทค แต่ด้วยการที่แสนสิริเป็นบริษัทของคนรุ่นใหม่ที่มีคนรุ่นใหม่เป็นกลุ่มเป้าหมาย จึงพยายามเสนอแนวคิดใหม่ ๆ ในการสื่อสารอยู่เสมอ ทั้งการทำไวรัลผ่าน E-Newsletter หรือ SMS รวมถึงการดาวน์โหลด แต่ก็ยอมรับว่าคอนเทนท์ที่สร้างความสนใจของคนส่วนใหญ่ ให้สามารถกระจายเป็นไวรัลได้ หนีไม่พ้นข่าวอาชญากรรมรุนแรง ภาพโป๊เปลือย ประเด็นการเมืองต้องห้าม ส่วนเรื่องดี ๆ ก็ต้องมีผลประโยชน์เข้ามาดึงดูด จึงจะสร้างกระแสได้

ด้านผู้บริหารดีแทค กล่าวว่า การให้คนฟอร์เวิร์สต่อกันเป็นลำดับแรกไม่ใช่เรื่องยาก แต่การทำให้คอนเทนท์ที่ส่งนั้นฮิต เป็นที่สนใจ นำสู่การส่งต่อจากหลักร้อย เป็นหลักพัน ถึงหลักล้านคน จำเป็นต้องมีปัจจัยบางอย่างเข้ามาเป็นตัวผลักดัน อาจเป็นผลตอบแทน หรือการใช้มืออาชีพในการปลุกกระแสทางเว็บ แต่สุดท้ายการจะวางแผนปลุกกระแสให้เรื่องใดเรื่องหนึ่งได้รับความสนใจจนเกิดการแพร่ขยายอย่างกว้างขวาง ยังไม่มีสูตรสำเร็จใด ๆ กำหนดไว้ หลายครั้งที่ไวรัล มาร์เกตติ้ง เกิดขึ้นจากความไม่ตั้งใจ คนที่ตั้งใจยิ่งทำให้เกิดยาก...

"เคยมีคนบอกว่าถ้าเรื่องนั้นไม่มี Controversial (ความขัดแย้ง) หนัก ๆ ก็ต้องมี Compensation (การตอบแทน) จึงจะเวิร์ก คอนเทนต์เอนเตอร์เทนเมนต์ก็เวิร์ก เพียงแต่จะมีวิธีใดที่จะเร่งได้ในแง่การตลาด เมืองไทยมีกรณีไวรัลมาร์เกตติ้งที่เกิดโดยไม่จงใจอยู่หลายกรณี เช่น ภาพหลุด คลิปโป๊ แต่หากเป็นการวางแผนอย่างจงใจยังไม่เคยปรากฏว่ากรณีใดเคยประสบความสำเร็จ"

แต่ธนาก็เชื่อว่า ธุรกิจจะเริ่มเข้ามาใช้แนวทางการตลาดไวรัล มาร์เกตติ้งกันมากขึ้น เพราะเป็นทิศทางที่เหมาะกับสถานการณ์ของประเทศในปัจจุบัน เป็นการตลาดแบบไร้กรอบ ที่สามารถลองกันได้ ไม่มีต้นทุนมากมาย ไม่เสียหาย แต่น่าแปลกที่ในประเทศไทยไวรัล เกิดในฟากการเมืองก่อนการตลาด ทั้งที่ประเทศอื่นการตลาดเป็นผู้นำในการใช้ไวรัล มาร์เกตติ้งก่อนการเมือง

สำหรับดีแทคเองก็จะคิดต่อไป เพราะแนวทางนี้ยังมีมุมที่ในภาคของการสื่อสารการตลาดรูปแบบเดิม ๆ ทำไม่ได้ เช่นการโฆษณาแบรนด์ที่แทบไม่มีผลต่อยอดขาย ลงทุนด้วยงบประมาณสูง แต่สามารถออนแอร์ได้เพียงระยะสั้น แต่การเผยแพร่ทางสื่อใหม่ ๆ ไม่มีต้นทุน โครงการต่อไปคาดว่าจะใช้แนวคิดของเป๊ปซี่ในประเทศจีน ที่จัดประกวดหนังโฆษณาธีม ดีแทคก็อาจจัดกิจกรรมที่จะให้นักศึกษาผลิตโฆษณารณรงค์การใช้มือถือแบบพอดี แล้วโหลดขึ้นบนเว็บ เพื่อให้ผู้เข้าชมมาร่วมกันโหวต และสามารถดาวน์โหลดต่อ ๆ กัน มีรางวัลให้ ก็น่าเป็นอีกแนวทางในการสร้างความสำเร็จให้กับไวรัล มาร์เกตติ้งได้อีกทาง

ศศี วัฒนพานิช Chief Ideation Officer บริษัท อะ ดอลฟิน โซไซตี้ จำกัด ผู้เชี่ยวชาญด้านกลยุทธการสร้างแบรนด์ แสดงความเห็นว่า แม้แนวโน้มของไวรัล มาร์เกตติ้ง จะเป็นเทรนการสื่อสารรูปแบบใหม่ของตลาดโลก แต่สำหรับเมืองไทยก็ต้องมองว่าเมื่อไรจึงจะพร้อม วัฒนธรรมการใช้อินเทอร์เน็ตของคนไทยยังไม่ได้สูงเท่าต่างชาติ แม้มีการนำรูปแบบไวรัล มาร์เกตติ้งมาใช้ แต่จะสามารถใช้เทคโนโลยีใหม่นี้ได้อย่างมีประสิทธิภาพเมื่อไรไม่สามารถคาดการณ์ได้

"เวลานี้มีนักการตลาดกลุ่มหนึ่งที่รับรูปแบบนี้มาใช้ แต่กลุ่มต่อมาที่จะสามารถดัดแปลงให้ใช้ได้อย่างมีประสิทธิภาพ บอกไม่ได้ว่าจะมาเมื่อไร นึกถึงการเข้ามาของฟาสต์ฟูดในยุคแรก ๆ ของประเทศไทย เคเอฟซี ที่ไม่ประสบความสำเร็จในการเข้ามาครั้งแรก เพราะเวลานั้นคนไทยยังไม่พร้อมจะบริโภคฟาสฟูด แต่เมื่อถึงเวลาการเข้ามาครั้งที่ 2 เคเอฟซีสามารถขยายตัวได้อย่างรวดเร็ว เทรนในต่างประเทศกับการเกิดขึ้นของเว็บไซต์ยูทิวบ์ หรือกูเกิล แสดงให้เห็นตลาดนั้นเปลี่ยนรูปแบบ คอนซูเมอร์เป็นคนครีเอท เป็นผู้กำหนดตลาด แต่สำหรับในเมืองไทยวันนี้ ผู้บริโภคยังรอให้นักการตลาดเป็นผู้ครีเอทอยู่"

2 แม่ไม้สร้างไวรัลให้ได้ผล

การจะทำให้แบรนด์ได้รับการพูดแบบแพร่สะพัดเหมือนโดนไวรัสในกลุ่มผู้บริโภค หรือคนกลุ่มอื่นๆ นั้น วิสุทธิ์ ตันตติยาพงษ์ รองกรรมการผู้จัดการ บริษัท แอ็คเซส แอนด์ แอสโซซิเอท จำกัด กล่าวว่า การดำเนินกิจกรรมต้องทำเหนือเส้น (Above the Line) หรืออยู่ในสื่อสารมวลชน ไม่ว่าจะเป็น โทรทัศน์ วิทยุ สื่อสิ่งพิมพ์ และอินเทอร์เน็ต และต้องมีงบประมาณในการซื้อสื่อค่อนข้างมาก (Heavy budget spending) อีกทั้งต้องมีผลกระทบของเนื้อสารด้วย

"สังเกตว่าไวรัลจะเกิดขึ้นก็ต่อเมื่อคุณอยู่ในสื่อสารมวลชนอย่างเป็นปรากฏการณ์ใหม่ ไม่ได้หมายความว่าเป็นสินค้าใหม่ แต่ต้องเป็นเรื่องราวใหม่ นอกกรอบ แต่ไปกันได้กับภูมิหลังของผู้คน เพราะเรากำลังพูดในเนื้อสารที่ตรงกับปูมหลังของผู้บริโภค และกำลังพูดถึงช่องทางส่งสารที่พฤติกรรมการเสพสื่อของผู้บริโภคสอดคล้องกัน นี่คือปัจจัยที่ทำให้ไวรัลต้องอยู่บนกิจกรรมเหนือเส้น ขณะที่ใต้เส้น (Below the line) ทำแล้วไม่แรง เพราะจะอยู่ในวงจำกัด ซึ่งต้องทำหลายครั้ง ดังนั้นสิ่งที่ตัดสั้นที่สุดคือต้องทำเหนือเส้นก่อน แล้วใต้เส้นจึงค่อยตามมาภายหลัง"

อย่างไรก็ตาม การรับสื่อเพียงอย่างเดียวความรุนแรงจะไม่เกิดขึ้นจนกว่าผู้บริโภคจะได้ทดลองใช้สินค้านั้น เมื่อประทับใจก็จะกลายเป็นกลุ่มอ้างอิง และกลายเป็นสาวกของสินค้าและบริการนั้นในที่สุด

"คนที่ใช้จริงถ้ามีประสบการณ์การซื้อที่ดี มันก็เป็นกลุ่มอ้างอิงของคุณ ผมเรียกกระบวนการนี้ว่า การเปลี่ยนจากทดลองซื้อเป็นบอกต่อ หรือเถียงแทน คือทดลองแล้วดี เขามีความเชื่อมั่นแล้ว พวกนี้ต้องใช้เวลาพอสมควร กับอีกกลุ่มหนึ่งคือยอมเป็นสาวกทั้งที่ยังไม่ใช้จริง แต่ถูกทั้งสื่อและกลุ่มอ้างอิงเดิม หรือกลุ่มผู้ใช้เดิมพูดซะจนยอมเป็นสาวก จึงจะเกิดอาการบอกต่อได้"

วิสุทธิ์ กล่าวอีกว่า กระทำให้กระบวนการไวรัล มาร์เก็ตติ้งได้ผล จำเป็นอย่างยิ่งที่ต้องใช้สื่อเหนือเส้นอย่างต่อเนื่องด้วยความถี่ในช่วงเริ่มต้น 5 ครั้งต่อสัปดาห์เพื่อสร้างโมเมนตั้ม แต่สิ่งที่น่าสนใจก็คือ แม้อินเทอร์เน็ตจะกลายเป็นสื่อเหนือเส้นแล้วในวันนี้ แต่อินเทอร์เน็ตในบ้านเราเป็นเครื่องมือที่คล้ายกับการสร้างเรื่อง ทำให้ผู้คนคิดว่าอินเทอร์เน็ตที่เป็นไวรัลนั้นต้องมีวิธีสร้างผลกระทบในเนื้อสาร ซึ่งจริงแล้วการจะมีผลกระทบหรือไม่ต้องขึ้นอยู่กับเรื่องเป็นสำคัญ

"คนชอบมองว่าอินเทอร์เน็ตมักแพร่กระจายไปในทิศทางเดียว แต่ไม่ใช่ เพราะคนที่ใช้อินเทอร์เน็ตก็เป็นคนอยู่ในสังคมนั่นเอง สามารถติดต่อสื่อสารแบบ one to one หรือ one to many ได้หมด เช่นคุณรับสารมาหนึ่งคนจากอินเทอร์เน็ต แต่คุณไปแพร่ทางออฟไลน์ คือ การใช้การบอกต่อที่สามารถบอกต่อไปยังกลุ่มคนได้อีกมากมาย หรือเขาอาจใช้อินเทอร์เน็ตต่อเนื่องกันไปอีกก็ได้ แต่แบรนด์จะแรงหรือไม่ มันไม่ได้เป็นเรื่องของการส่งต่อ มันต้องเป็นประสบการณ์การใช้จริงๆหรือไม่ และคนที่ได้ประสบการณ์ใช้จริงที่ดีแล้วมันจะสร้างสาวก ซึ่งสาวกเหล่านี้นี่เองที่จะสร้างไวรัลมาร์เก็ตติ้ง"

พันธ์ทิพย์ : เว็บท่าทางลัด
สู่ไวรัล คอมมูนิเคชั่น แบบไทย ๆ


แม้จะพยายามสรรหารูปแบบการทำไวรัล มาร์เกตติ้ง หลากหลายมาใช้ และยังไม่สามารถค้นพบสูตรสำเร็จที่จะกระจายไวรัสการตลาดให้กับดีแทคได้ แต่สำหรับกิจกรรมในการทำ CRM แบบง่าย ๆ ที่ธนา เธียรอัจฉริยะ เจียดเวลาขณะนั่งอยู่หน้าจอคอมพิวเตอร์ ตรวจสอบกระทู้ร้องเรียนการบริการของดีแทค ในห้องมาบุญครอง เว็บพันธ์ทิพย์ดอทคอม เข้าไปตอบและช่วยแก้ปัญหาให้ลูกค้าในชื่อ Thanahappy มาเป็นเวลาหลายปี วันนี้ดีแทค เกิดชุมชนไซเบอร์ ที่มีสมาชิกเพิ่มจากหลายสิบ เป็นหลายร้อย หลายพัน สู่หลักหลายหมื่นคน เป็นหูเป็นตาตรวจสอบการบริการให้กับดีแทค และสามารถใช้เป็นจุดของการแพร่กระจายข่าวสารจากดีแทคสู่ผู้บริโภคเป็นไวรัล คอมมูนิเคชั่นแบบย่อม ๆ จนเกิดมีห้องเอไอเอส และห้องทรูมูฟ ตามมา

สมัชชา พรหมศิริ มองว่า เป็นแนวคิดที่ดีในการเข้าไปตรวจสอบข้อร้องเรียนในเว็บไซต์ โดยเฉพาะในพันธ์ทิพย์ดอทคอม สร้างเป็นชุมชน ก็เป็นแนวทางที่แสนสิริมองไว้เช่นกัน หลังจากได้ศึกษาแนวทางของดีแทค เห็นว่าเมื่อผู้บริหารเข้าไปมีส่วนร่วมในกระทู้สาธารณะเหล่านี้ แม้จะไม่สามารถช่วยแก้ปัญหาได้ทันที แต่อย่างน้อยเป็นการบ่งบอกว่า มีความสนใจ เอาใจใส่ ลูกค้าทุกราย

"จะถือว่าเลียนแบบก็ได้ แต่ยอมรับว่าแนวทางที่คุณธนาทำ เพราะมีความเข้าใจในเทคโนโลยี และเข้าในในคอมมูนิตี้ตรงนี้ ธุรกิจอสังหาริมทรัพย์หลีกเลี่ยงที่จะต้องเผชิญกับกระแสไม่ได้ บ้านเป็นเรื่องของปากต่อปาก หากโครงการมีปัญหา ภาพลบจะถูกแพร่กระจายอย่างรวดเร็ว กระทู้ในเว็บพันธ์ทิพดอทคอม กับความประทับของลูกบ้าน เป็นสิ่งที่ผู้ประกอบการต้องให้ความสนใจ"


กลับสู่หน้าหลัก

Creative Commons License
ผลงานนี้ ใช้สัญญาอนุญาตของครีเอทีฟคอมมอนส์แบบ แสดงที่มา-ไม่ใช้เพื่อการค้า-ไม่ดัดแปลง 3.0 ประเทศไทย



(cc) 2008 ASTVmanager Co., Ltd. Some Rights Reserved.