รายได้ไฟฟ้าหนุนบ้านปูปีนี้โตอีก10%


ผู้จัดการรายวัน(29 มีนาคม 2550)



กลับสู่หน้าหลัก

นายชนินท์ ว่องกุศลกิจ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท บ้านปู จำกัด (มหาชน) หรือ BANPU เปิดเผยว่า การปรับตัวเพิ่มขึ้นของราคาน้ำมันในตลาดโลกในช่วงที่ผ่านมา ส่งผลทำให้ราคาถ่านหินมีการปรับตัวสูงขึ้นตาม เนื่องจากภาคอุตสาหกรรมมีความจำเป็นที่จะต้องใช้ถ่านหินเข้ามาทดแทนมากขึ้น ขณะที่ความต้องการใช้ในตลาดโลกก็ยังมีสูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง เนื่องจากหลายประเทศยังมีความต้องการขยายตัวในภาคอุตสาหกรรมเพิ่มขึ้น

นอกจากนี้ การปรับเปลี่ยนนโยบายของรัฐบาลจีนเกี่ยวกับถ่านหิน จากเดิมที่ประเทศจีนเป็นผู้ส่งออกรายใหญ่ของโลก ขณะที่ในช่วง 2 เดือนที่ผ่านมาประเทศจีนมีการนำเข้าถ่านหินประมาณ 1 ล้านตันซึ่งยิ่งที่ส่งผลต่อปริมาณถ่านหินที่ซื้อขายในโลกและเป็นเหตุที่ผลักดันให้ราคาถ่านหินปรับตัวเพิ่มขึ้น โดยคาดว่ายังมีโอกาสที่ราคาถ่านหินอาจจะปรับตัวเพิ่มขึ้นจากปัจจุบันได้อีกประมาณ 5-10% ทั้งนี้ เชื่อว่าราคาถ่านหุ้นรวมถึงราคาน้ำมันน่าจะยังทรงตัวอยู่ในระดับสูงในระดับนี้ไปจนถึงครึ่งปีหน้า

"ราคาถ่านหินยังน่าจะปรับตัวขึ้นได้อีก เพราะนโยบายของรัฐบาลจีนที่เปลี่ยนจากผู้ส่งออกเป็นผู้นำเข้าส่งผลต่อปริมาณถ่านหินในตลาดโลก โดยราคาในปีนี้อาจจะปรับขึ้นได้อีก 5-10%"นายชนินทร์กล่าว

สำหรับปริมาณการขายถ่านหินของบริษัทในปีนี้น่าจะยังอยู่ในระดับประมาณ 21 ล้านตันต่อปี โดยคาดว่าราคาขายถ่านหินเฉลี่ยในปีนี้จะอยู่ที่ประมาณ 37 เหรียญต่อตัน จากปีที่ผ่านมาที่เฉลี่ยอยู่ที่ 35.6 เหรียญต่อตัน ในส่วนของรายได้คาดว่าจะปรับตัวเพิ่มขึ้นจากปีที่ผ่านมาซึ่งอยู่ที่ 3.3 หมื่นล้านบาทประมาณ 7-10% เนื่องจากบริษัทจะรับรู้รายได้จากโรงไฟฟ้า

ในส่วนของของความเสียหายที่เกิดขึ้นที่ท่าเรือบอนตังประเทศอินโดนีเซีย ขณะนี้สามารถเปิดดำเนินการได้เป็นที่เรียบร้อยแล้ว แต่จะต้องมีการปิดซ่อมอีกครั้งในช่วงเดือนเมษายน ซึ่งอาจจะส่งผลกระทบต่อรายได้ของบริษัทในช่วงไตรมาส 1/50 บ้างแต่เชื่อว่าทั้งปีความเสียหายจากท่าเรือดังกล่าวไม่น่าจะส่งผลกระทบต่อบริษัท เนื่องจากเชื่อว่าในช่วงครึ่งกหลังของปีปริมาณถ่านหินที่ขายจะสามารถชดเชยจากสูญเสียในช่วงดังกล่าวได้

นายชนินท์ กล่าวอีกว่า ในอนาคตบริษัทมีแผนที่จะนำเหมืองถ่านหินในประเทศอินโดนีเซียเข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์อินโดนีเซีย โดยขณะนี้อยู่ระหว่างการให้ที่ปรึกษาทางการเงินประเมินมูลค่ามูลค่าทรัพย์สิน ขณะที่มูลค่าในการระดมทุนขณะนี้ยังไม่สามารถระบุได้เนื่องจากจะต้องมีการหารือกันอีกครั้ง

บทวิเคราะห์บริษัทหลักทรัพย์ กรุงศรีอยุธยา แนะนำซื้อหุ้น BANPU โดยประเมินราคาที่เหมาะสมในปีนี้ที่ 208 บาท เนื่องจากแนวโน้มราคาถ่านหินที่แข็งแกร่งกว่าที่คาดการณ์ไว้ก่อนหน้า โดยบริษัทได้ปรับเพิ่มประมาณการราคาขายเฉลี่ยถ่านหินปี 50 และปี 51 เพิ่มขึ้นปีละ 4.1% และปรับเพิ่มประมาณการกำไรสุทธิปี 50 เพิ่มขึ้น 3.0% จากเดิม เป็น5,391 ล้านบาท และปี 51 เพิ่มขึ้น 3.2% จากเดิม เป็น 4,953 ล้านบาท

นอกจากนี้ ผลการดำเนินงานของบริษัทยังคงมีแนวโน้มเติบโตต่อเนื่องเนื่องจากโครงการขยายการผลิตถ่านหินเพิ่มเติมของเหมืองใต้ดินของ Indominco และ Trubaindo อยู่ระหว่างการศึกษา ขณะที่บริษัทมีโอกาสในการเข้าเป็นผู้ดำเนินการโครงการโรงไฟฟ้าหงสาลิกไนต์ขนาดกำลังการผลิต 1,800 เมกะวัตต์ในลาว

ส่วนศักยภาพการเติบโตของปริมาณขายถ่านหินจากแหล่งถ่านหินใหม่ในประเทศอินโดนีเซีย ที่คาดว่าบริษัทจะทำการ Acquisition ในปี 50

ขณะที่ส่วนของกำไรจากการขายหุ้นของบริษัทในเครือบางส่วนในตลาดหลักทรัพย์จาการ์ตา ที่คาดว่าจะเกิดใน 2H50 ราคาหุ้นปัจจุบันซื้อขายที่ P/E ปี 50 ที่ 9.9 เท่า ซึ่งต่ำกว่าค่าเฉลี่ยของหุ้นกลุ่มถ่านหินในภูมิภาคเอเชียที่ 14.1 เท่า และมีอัตราผลตอบแทนจากเงินปันผล 5.1%


กลับสู่หน้าหลัก

Creative Commons License
ผลงานนี้ ใช้สัญญาอนุญาตของครีเอทีฟคอมมอนส์แบบ แสดงที่มา-ไม่ใช้เพื่อการค้า-ไม่ดัดแปลง 3.0 ประเทศไทย



(cc) 2008 ASTVmanager Co., Ltd. Some Rights Reserved.