บ้านสไตล์ industrial แต่แสนจะอบอุ่นในชิลี


นิตยสารผู้จัดการ( เมษายน 2550)



กลับสู่หน้าหลัก

บ้านคอนกรีตรูปลูกบาศก์ยาว 35 เมตรหลังนี้ เป็นตัวอย่างของงานสถาปัตยกรรมสไตล์ modernist ที่รูปทรงเหลี่ยมๆ ของตัวบ้านภายนอกแลดูเหมือนแข็งๆ ทื่อๆ นั้น กลับตรงกันข้ามกับภายในบ้านโดยสิ้นเชิง เพราะด้านในมีบรรยากาศที่เต็มไปด้วยความอบอุ่นและยืดหยุ่นสำหรับทุกคนในครอบครัว สาเหตุหลักมาจากความต้องการของคู่สามีภรรยาผู้เป็นเจ้าของ ซึ่งมีลูกด้วยกัน 3 คน พวกเขาอยากได้บ้านที่ภายนอกมีรูปทรงสี่เหลี่ยมแล้วออกแบบตกแต่งให้มีความโดดเด่นเฉพาะตัวตามสไตล์ของตัวเอง

สถาปนิก Filipe Assadi จึงรับหน้าที่ออกแบบบ้านโดยร่วมมือกับลูกค้า ซึ่งเป็นช่างก่อสร้างด้วยอย่างใกล้ชิด ทำให้บ้านชานกรุง Santiago ในประเทศชิลีหลังนี้มีพื้นที่กลางแจ้งขนาดมหึมาสามารถรับแสงสว่างได้เต็มที่ และแสดงถึงการใช้ประโยชน์จากวัตถุดิบที่ใช้ในการก่อสร้างได้อย่างมีประสิทธิผล

คอนกรีตล้วนๆ

บ้านหลังนี้ใช้แผ่นคอนกรีตบุผนัง เพดาน และด้านหน้าของตัวบ้าน จึงมีรูปลักษณ์หนักไปทางสไตล์ industrial อยู่ไม่น้อย เป็นความงามที่เจ้าของบ้านจำนวนมากอาจจะรู้สึกว่าออกจะชืดชาแข็งกระด้างอยู่สักหน่อย แต่เจ้าของบ้านหลังนี้กลับมีทางแก้ พวกเขาปล่อยให้ผนังและเพดานคอนกรีตมีสภาพตามธรรมชาติของมันเองแล้วเลือกปูพื้นลอยด้วยไม้ซึ่งทาสีขาวทำให้แลดูนุ่มลง หรืออีกทางเลือกหนึ่งคือ ปล่อยให้พื้นคอนกรีตเป็นไปตามธรรมชาติแล้วเคลือบด้วยสารโพลียูรีเทนก็ให้ความรู้สึกอุ่นได้อย่างน่าประหลาดเช่นกัน ผลที่ได้จะเป็นพื้นโทนสีคาราเมลให้ความรู้สึกนุ่ม อ่อนโยน

Open-plan

สำหรับคนที่รักและโปรดปรานการจัดบ้านแบบ open-plan และต้องการให้มีส่วนที่เป็นฝาผนังน้อยลงโดยให้พื้นที่ส่วนหนึ่งของห้องนั่งเล่นกลืนเข้าไปในพื้นที่ใช้สอยส่วนอื่นๆ นั้น มักพบปัญหาคือ จะทำอย่างไรดีเมื่อคุณยังต้องการความเป็นส่วนตัวและความรู้สึกเป็นสัดส่วนโดยไม่ต้องคำนึงถึงปัญหาเรื่องพื้นที่ว่าง?

สถาปนิกของบ้านหลังนี้ใช้วิธีติดตั้งผนังคอนกรีตแผ่นบางๆ ระหว่างทางเดินและห้องนั่งเล่น (โปรดดูภาพประกอบ)

เฉลียงยาว

ชั้นบนของตัวบ้านออกแบบเป็นเฉลียงยาวที่เชื่อมห้องนอนทั้งสี่ทำให้เดินถึงกันได้อย่างสะดวก เฉลียงนี้ล้อมรอบด้วยหน้าต่างกระจก ซึ่งมีส่วนทึบแสงสูงถึงระดับเอวเพื่อความเป็นส่วนตัว

เน้นสีขาว

เจ้าของบ้านเลือกสีขาวที่ให้ความรู้สึกอุ่นมาคานกับสีเป็นกลางของวัตถุดิบได้อย่างสมบูรณ์ แต่นั่นไม่ได้หมายความว่าสีขาวทั้งหมดจะให้ผลออกมาเท่ากัน เพราะถ้าต้องการคานกับความเย็นชืดชาของโลหะและคอนกรีต ขณะเดียวกันก็สามารถเน้นความมันของเนื้อไม้ได้ สีที่เหมาะที่สุดคือขาวแกมเหลือง เช่น Dulux Antique WhiteUSA, Berkshire White หรือ Napkin White

วิวัฒนาการของสไตล์ industrial

นอกเหนือจากคอนกรีตแล้ว ความงามสไตล์ industrial ยังสะท้อนออกมาจากการประดับตกแต่งด้วยโคมไฟยักษ์และราวบันได โดยชุดลูกกรงเหล็กตรงชุดของบันได (staircase) และบริเวณเฉลียงชั้นบนช่วยสร้างความโดดเด่นเชิงประติมากรรมได้อย่างสวยงาม นอกจากนี้ยังช่วยป้องกันอุบัติเหตุภายในบ้านที่อาจเกิดจากความซุกซนของเด็กๆ ได้ด้วย

ตัวบันไดไม้ลายทางตามแนวนอนก็ช่วยคานความแข็งทื่อของโลหะได้เป็นอย่างดี

ส่วนราวลูกกรงชั้นบนที่ออกแบบให้ตัดขวางกันไปมาคล้ายกับตาข่ายบางๆ เพื่อความปลอดภัยของเด็กๆ แล้ว ยังช่วยเสริมเอกลักษณ์ของงานออกแบบสไตล์ industrial ได้อีกทางหนึ่งด้วย

สีลูกกวาด

ความงามสไตล์ industrial ที่เน้นวัสดุประเภทโลหะ กระจก และคอนกรีตให้ความมันวาวก็จริง แต่บ่อยครั้งเหมือนกันที่ให้ความรู้สึกทึบทึมและมีสีโดดหรือสีเดียวมากเกินไป รวมทั้งขาดองค์ประกอบของความเป็นมนุษย์อีกต่างหาก จึงต้องพึ่งงานตกแต่งด้วยสีสันอันหลากหลายเพื่อสร้างความสดใสและมีชีวิตชีวาให้กับตัวบ้านด้วย ตัวอย่างเช่น ในห้องนั่งเล่นประดับด้วยผลงานศิลปะหลากสีสันแบบสีลูกกวาดของศิลปินชิลี Francisca Uribe Etxeberria เพื่อให้ลายและสีสันของงานศิลปะที่ประดับฝาผนังนั้นเข้าชุดกับโต๊ะกาแฟกระจกสีที่ออกแบบเป็นลายตารางสี่เหลี่ยมได้อย่างเหมาะเจาะ นอกจากนี้ ยังตกแต่งด้วยหมอนอิงสีสันสดใสหลากสีไม่ว่าจะเป็นแดงและส้มสด ซึ่งล้วนทำหน้าที่คานกับความเย็นชืดชาของสไตล์ industrial ได้สมบูรณ์แบบ

แปลและเรียบเรียงโดย ดรุณี แซ่ลิ่ว
จากนิตยสาร House & Garden / February 2007


กลับสู่หน้าหลัก

Creative Commons License
ผลงานนี้ ใช้สัญญาอนุญาตของครีเอทีฟคอมมอนส์แบบ แสดงที่มา-ไม่ใช้เพื่อการค้า-ไม่ดัดแปลง 3.0 ประเทศไทย



(cc) 2008 ASTVmanager Co., Ltd. Some Rights Reserved.