แลนด์ แอนด์ เฮ้าส์ ปีนี้ต้องบ้านเดี่ยว


นิตยสารผู้จัดการ( เมษายน 2550)



กลับสู่หน้าหลัก

การปรับทิศทางการทำโครงการที่อยู่อาศัยบริษัทแลนด์ แอนด์ เฮ้าส์ ในปีนี้ ทำให้ผู้ประกอบการหลายรายต้องหยุดดูและพิจารณาว่าจะเดินไปทางไหนต่อ เพราะรายใหญ่อย่างแลนด์ฯ ประกาศตัวชัดเจนแล้วว่า โครงการในปีนี้ของบริษัทจะเน้นไปที่บ้านเดี่ยวถึง 90% ส่วนที่เหลือจะเป็นทาวน์เฮาส์ 5% และคอนโดมิเนียม 5%

กรรมการและรองกรรมการผู้จัดการ บริษัทแลนด์ แอนด์ เฮ้าส์ อดิศร ธนนันท์นราพูล ให้เหตุผลว่า ในปีนี้ที่อยู่อาศัยที่เกิดขึ้นและขายได้ จะต้องเป็นที่อยู่อาศัยที่เกิดขึ้นจากความต้องการของผู้ซื้ออย่างแท้จริง และอัตราการขยายตัวจะเพิ่มขึ้นจากปี 2549 เพียงเล็กน้อยเท่านั้น คาดว่าไม่น่าจะเกิน 10%

แนวโน้มการชะลอตัวของการขยายบ้าน เป็นสิ่งที่เกิดขึ้นให้เห็นได้ชัดเจนขึ้นในช่วงหลัง โดยแลนด์ฯ เองยอดขายในปี 2549 ที่ผ่านมามีทั้งสิ้น 17,620 ล้านบาท ลดลงจากปีก่อนหน้า 5,125 ล้านบาท หรือประมาณ 22.5%

"ยอดรับรู้รายได้ที่อ่อนตัวลงมาจากโครงการคอนโดมิเนียมที่ลดลงกว่า 2,000 ล้านบาท มาอยู่ที่ 418 ล้านบาท รวมกับอุปสงค์ในตลาดที่อ่อนตัวลงจากราคาน้ำมัน ดอกเบี้ยที่สูงขึ้น แต่ความเชื่อมั่นของผู้บริโภคลดลง"

เขาอธิบายถึงสิ่งที่เกิดขึ้นในปีที่ผ่านมา ซึ่งเป็นเหตุผลในการปรับทิศทางของบริษัทใหม่ในปีนี้

แน่นอนว่า เมื่อยอดขายลดลงแบบนี้ ก็ส่งผลต่อการทำกำไรของบริษัทเช่นกัน ปีที่ผ่านมาบริษัทมีกำไรอยู่ที่ 3,247 ล้านบาท ลดลงถึง 36.6% ซึ่งลดลงมากกว่าอัตราการลดลงของยอดขาย เหตุผลสั้นๆ เข้าใจง่ายก็คือ กำไรขั้นต้นของบริษัทลดลง จากราคาวัสดุก่อสร้างที่ปรับตัวสูงขึ้น แต่ราคาขายบ้าน ไม่สามารถปรับขึ้นได้ และยังต้องเพิ่มงบประมาณโฆษณา ส่งเสริมการขายเข้าไปอีก กำไรเลยลดต่ำมาถึงระดับนี้

หากบริษัทใหญ่อย่างแลนด์ฯ บอกว่ากำไรขั้นต้นลดลง บริษัทอื่นๆ จะมีกำไรเหลือแค่ไหน

การกลับมาสู่ตลาดบ้านเดี่ยวของแลนด์ฯ อดิศรได้นำตัวเลขของธนาคารอาคารสงเคราะห์มาให้พิจารณาด้วยว่า บ้านจดทะเบียนในช่วง 11 เดือนของปี 2549 บ้านเดี่ยวมีอัตราลดลงถึง 26.4% ทาวน์เฮาส์เพิ่มขึ้น 28% ส่วนคอนโดมิเนียมเพิ่มขึ้นถึง 179.6%

ความหมายของตัวเลขชุดนี้แสดงให้เห็นว่า สินค้าประเภทบ้านเดี่ยวค่อยๆ ลดน้อยลง ส่วนหนึ่งมาจากผู้ประกอบการทำบ้านเดี่ยวน้อยลง หรือคนซื้อบ้านเดี่ยวน้อยลง เพราะราคาแพงเกินไป แต่ในความหมายของแลนด์ฯ น่าจะเป็นอย่างแรกคือ สินค้าบ้านเดี่ยว เริ่มลดน้อยลง ส่วนคอนโดมิเนียม กลายเป็นสินค้าที่มีมากเกินไป แลนด์ฯ ก็น่าจะถึงจุดอิ่มตัวแล้วในการบุกตลาดคอนโดมิเนียม

เพราะก่อนหน้านี้ แลนด์ฯ บุกทำตลาดคอนโดมิเนียมอย่างหนัก จนทำให้คู่แข่งรายใหญ่อย่างแสนสิริ ต้องทิ้งคอนโดมิเนียม หันกลับมาทำบ้านเดี่ยวแทน

แลนด์ฯ กำลังกลับไปสู่ตลาดที่ตัวเองครองอยู่ และเป็นจุดแข็งของบริษัท

แฟนพันธุ์แท้ แลนด์ แอนด์ เฮ้าส์ ที่ต้องการบ้านเดี่ยวยังมีอยู่มาก

แต่บริษัทก็ไม่ได้หวังว่ากลุ่มที่จงรักภักดีต่อแบรนด์ แลนด์ แอนด์ เฮาส์ จะมีแค่กลุ่มคนทำงานระดับบน หรือคนสูงอายุ แลนด์ฯ พยายามมองกลุ่มคนทำงานระดับล่างลงมา จึงเป็นที่มาของภาพยนตร์ โฆษณาชุดล่าสุดที่เจาะกลุ่มคนเริ่มต้นทำงานภายใต้แนวคิด "บ้านแลนด์ฯ ไม่แพงอย่างที่คิด" รวมไปถึง "มีบ้านแลนด์ฯ ได้ก่อนอายุ 35"

บริษัทต้องการขยายกลุ่มลุกค้าให้กว้างขึ้นและดูทันสมัยขึ้น

แต่แนวคิดนี้จะประสบความสำเร็จหรือไม่ก็คงต้องรอดูผลงานในปีนี้ เพราะบางคนมองโฆษณาของแลนด์ฯ แบบขำขำว่า

"มีบ้านแลนด์ฯ ได้ก่อนอายุ 35 พออายุ 36 ก็กลายเป็น NPL"


กลับสู่หน้าหลัก

Creative Commons License
ผลงานนี้ ใช้สัญญาอนุญาตของครีเอทีฟคอมมอนส์แบบ แสดงที่มา-ไม่ใช้เพื่อการค้า-ไม่ดัดแปลง 3.0 ประเทศไทย



(cc) 2008 ASTVmanager Co., Ltd. Some Rights Reserved.