โฟร์พัฒนา ราคาตามคุณภาพ

โดย ณัฐวัฒน์ หอมจิตต์
นิตยสารผู้จัดการ( เมษายน 2550)



กลับสู่หน้าหลัก

โฟร์พัฒนาวางโพสิชั่นนิ่งเน้นคุณภาพทีมช่าง หนีการแข่งขันด้านราคา ขยายตลาดทั้งขึ้นบนและลงล่าง จับกลุ่มตั้งแต่ 2 ล้านบาท จนถึงลูกค้าพิเศษ 10 ล้านบาทขึ้นไป

จุดขายสำคัญประการหนึ่งของโฟร์พัฒนา ที่เน้นย้ำตลอดมาตั้งแต่เริ่มตั้งบริษัทเมื่อปี 2524 ก็คือ คุณภาพบ้าน ที่นี่เป็นบริษัทรับสร้างบ้านรายใหญ่เพียงแห่งเดียวที่ใช้ทีมช่างของตัวเองในการก่อสร้าง ทั้งหมด ไม่มีการใช้ผู้รับเหมาช่วง เพื่อสร้างความมั่นใจในคุณภาพและป้องกันปัญหาการทิ้งงานของผู้รับเหมา

"เราใช้คนของเราเรียกว่าตั้งแต่สถาปนิกไปจนถึงคนงานขุดดิน ทีแรกก็ไม่ได้ตั้งใจว่าจะไม่ใช่ผู้รับเหมา เริ่มต้นเรามีช่างอยู่ พอทำงาน ไปช่างก็เก่งขึ้น มีฝีมือมากขึ้น เราก็คิดว่าต้องเก็บเขาเอาไว้ เพราะช่างมีฝีมือบ้านของเราก็คุณภาพดีขึ้น" ปราโมทย์ ธีรกุล กรรมการผู้จัดการ โฟร์พัฒนา ให้เหตุผล

การใช้ทีมช่างของตัวเองมีจุดดีที่ทำให้สามารถควบคุมคุณภาพ งานได้อย่างเต็มที่ แต่ในขณะเดียวกันก็ทำให้มีต้นทุนสูงกว่าผู้ประกอบการรายอื่นด้วยเช่นกัน ปัจจุบันโฟร์พัฒนามีพนักงานรวมทั้งหมด 700 คน ในจำนวนนี้เป็นทีมช่างอยู่เกือบ 600 คนด้วยกัน ต้นทุนที่สูงกว่ารายอื่นสะท้อนออกมาที่ราคาบ้าน เพราะเมื่อคิดราคา ต่อตารางเมตรแล้ว ของโฟร์พัฒนาจะตกประมาณ 19,000 บาท แทบจะสูงที่สุดในวงการเลยทีเดียว

"ของคนอื่นคิดราคาที่หมื่นเศษๆ เราราคาขนาดนี้ คนที่มาปลูกบ้านกับโฟร์พัฒนาก็มีความคาดหวัง แต่ไม่ใช่ว่าบ้านของเราแพง นะ เพราะช่างของเราไม่ใช่ค่าแรงวันละ 100 กว่าบาท เขาได้ 400 กว่า มีฝีมือ วัสดุที่ใช้ก็ต่างกัน"

ด้วยเหตุนี้ โฟร์พัฒนาจึงมุ่งจับตลาดบ้านระดับราคา 5 ล้านบาทขึ้นไปเป็นหลัก อย่างไรก็ตาม ตลาดใหญ่ในธุรกิจรับสร้างบ้านในปัจจุบันจะอยู่ที่ระดับราคา 2-5 ล้านบาทคิดเป็นสัดส่วนถึง 70% เพื่อรักษาส่วนแบ่งตลาดในกลุ่มนี้เอาไว้ด้วย โฟร์พัฒนาจึงได้ตั้งโฟร์ดีเวลลอป เฮ้าส์ ขึ้นในปีที่ผ่านมาเพื่อเจาะตลาดบ้านราคาไม่เกิน 5 ล้านบาทโดยเฉพาะ

โฟร์ดีเวลลอป เฮ้าส์ แตกต่างจากโฟร์พัฒนาตรงที่บริษัทแห่งนี้ คัดทีมช่างจากโฟร์พัฒนามาทำหน้าที่เป็นผู้รับเหมาช่วงเพื่อลดต้นทุนให้ต่ำลง โดยคัดเลือกหัวหน้าทีมช่างที่มีประสบการณ์ของโฟร์พัฒนาเข้ามาทำหน้าที่ควบคุมและจัดหาทีมก่อสร้างของตัวเอง ซึ่งบริษัทจะเข้าควบคุมคุณภาพ พร้อมทั้งจัดระบบสวัสดิการให้กับทีมช่างทุกคน ถึงแม้ว่าจะไม่ได้อยู่ในสถานภาพพนักงานบริษัทแล้วก็ตาม

"หัวหน้าช่างก็จะเปลี่ยนจากลูกจ้างไปเป็นเถ้าแก่น้อยแล้ว เราก็จะสอนเขา ดูแลประกันสังคมให้ ทำบัญชีให้ แต่เขาจะต้องจัดการเรื่องแรงงานเอง ต้องคุมงานได้ แก้ปัญหาได้ แล้วโฟร์ดีเวล ลอปฯ ก็จะส่งงานให้เขา" ปราโมทย์กล่าว

โฟร์ดีเวลลอป เฮ้าส์ ตั้งเป้ารายได้ในปีที่แล้ว 60 ล้านบาท แต่เนื่องจากตลาดกลุ่มนี้มีการแข่งขันสูง ประกอบกับภาวะโดยรวมของธุรกิจรับสร้างบ้านได้รับผลกระทบจากปัญหาความไม่สงบทางการเมือง ทำให้ปิดยอดปลายปีไปที่ 40 ล้านบาท อย่างไรก็ตาม หลังจากเริ่มมีผลงานตัวอย่างให้ลูกค้าได้ดูก่อนตัดสินใจ ประกอบกับมีแบรนด์โฟร์พัฒนา หนุนหลัง ทำให้ตัวเลขรายได้ในปีนี้เพิ่มสูงขึ้นไม่น้อย จากเป้าที่ตั้งไว้ที่ 60 ล้านบาทแต่ผ่านมาได้เพียง 2 เดือนก็ทำยอดได้ถึง 40 ล้านบาท แล้ว

นอกจากกลุ่มดังกล่าวแล้ว ปลายปีที่แล้วโฟร์พัฒนาตัดสินใจรุกตลาดบ้านระดับราคาเกิน 10 ล้านบาทอย่างจริงจัง โดยแยกออกมาเป็นแผนกเฉพาะ เรียกว่า Premium-Special Design จับกลุ่มลูกค้าที่ต้องการบ้านที่เป็นเอกลักษณ์ มีเพียงหลังเดียว ไม่ซ้ำแบบใคร ซึ่งในเบื้องต้นได้ลูกค้ารายแรกคือครอบครัวบูลกุลที่ตกลงสร้างบ้าน 4 หลังในพื้นที่เดียวกัน รวมมูลค่ากว่า 30 ล้านบาท

กลุ่มนี้ปีหนึ่งทำน้อยมาก ไม่กี่หลัง ปีนี้คาดว่าจะได้ 80 ล้านบาท" ปราโมทย์เล่าถึงตลาดใหม่ของโฟร์พัฒนา

การขยายงานอีกด้านหนึ่งที่โฟร์พัฒนาให้ความ สนใจและเดินหน้าไปแล้ว ได้แก่ การร่วมทุนทำโครงการบ้านจัดสรรในชื่อบ้านชื่นรัชดา ถนนรัชดาภิเษก บริเวณแยกประชานุกูล โครงการดังกล่าวเป็นบ้านหรู ราคาขาย 16 ล้านบาทขึ้นไป จำนวน 22 ยูนิต โครงการนี้โฟร์พัฒนาร่วมทุนกับเจ้าของที่ดินพัฒนาโครงการขึ้น โดยรับผิดชอบในการวางคอนเซ็ปต์ และงานก่อสร้าง

"เราอยากจะทำบ้านจัดสรรแต่ถ้าให้เราซื้อที่ดินมาทำก็ไม่เอา ไม่มีเงิน ก็มาร่วมกันทำ เขาก็ลงที่ดิน เราก็วางคอนเซ็ปต์แล้วก็สร้างบ้าน แทนที่เจ้าของที่ดินจะขายที่ได้ตารางวาละ 4 หมื่น ก็ขาย พร้อมบ้านได้ 7 หมื่นบาท แต่ต้องรอหน่อย"

ปราโมทย์เล่าว่าหากมีโอกาสได้ที่ดินทำเลที่เหมาะสม ได้พันธมิตรที่ดีและยังสนุกที่จะทำก็สนใจที่จะทำโครงการลักษณะนี้อีก


กลับสู่หน้าหลัก

Creative Commons License
ผลงานนี้ ใช้สัญญาอนุญาตของครีเอทีฟคอมมอนส์แบบ แสดงที่มา-ไม่ใช้เพื่อการค้า-ไม่ดัดแปลง 3.0 ประเทศไทย



(cc) 2008 ASTVmanager Co., Ltd. Some Rights Reserved.