โบรกเกอร์รุมค้านแปรรูปตลาดหุ้นไทย


ผู้จัดการรายวัน(23 มีนาคม 2550)



กลับสู่หน้าหลัก

โบรกฯค้านสุดตัวแปรรูปตลาดหลักทรัพย์ หลังมีกระข่าวก.ล.ต.เตรียมยกเรื่องการแปรรูปเข้าบรรจุในพ.ร.บ.หลักทรัพย์ฉบับแก้ไข ชี้ตลาดหุ้นไทยไม่พร้อมเป็นบริษัทเหตุยังมีภาระกิจสำคัญยังต้องเร่งความสร้างความรู้ความเข้าใจให้ประชาชนและสร้างนักลงทุนรุ่นใหม่ ขณะที่สถานะภาพบริษัทจดทะเบียนนโยบายสำคัญต้องเน้นกำไรสูงสุด

จากกระแสข่าวการเตรียมแปรรูปตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย เพื่อให้เป็นบริษัทจดทะเบียนได้กลับมาสร้างความกังวลให้ผู้ประกอบการให้ธุรกิจหลักทรัพย์อีกครั้ง หลังสำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (ก.ล.ต.) เตรียมที่ยื่นเรื่องการแปรรูปตลาดหลักทรัพย์ เพื่อบรรจุในพระราชบัญญัติ (พ.ร.บ.) หลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ฉบับแก้ไขที่ผ่านการเห็นชอบให้แก้ไขจากคณะรัฐมนตรีในช่วงที่ผ่านมา

โดยล่าสุดการแก้ไขพ.ร.บ.ฉบับดังกล่าว อยู่ระหว่างการตีความของกฤษฎีการ ซึ่งถือว่ายังอยู่ในกระบวนการที่สำนักงานก.ล.ต.ยังสามารถยื่นเรื่องที่เสนอแก้ไขเข้ามาเพิ่มเติมได้

ทั้งนี้ ในช่วงที่ผ่านมากระแสการต่อต้านการแปรรูปตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย แม้ว่าตลาดหลักทรัพย์ในหลายๆประเภททั่วโลกได้มีการแปรรูปกลายเป็นบริษัทจดทะเบียนแล้วหลายแห่งก็ตาม โดยการแปรรูปมีทั้งการเปิดทางให้เอกชนเข้ามาถือหุ้นทั้งในส่วนของบริษัทหลักทรัพย์ต่างๆ หรือประชาชนทั่วไป รวมถึงการถือหุ้นไขว้กันระหว่างตลาดหุ้น 2 แห่งเพื่อสร้างช่องทางในการพัฒนาศักยภาพรองรับการเติบโตที่ยังมีอย่างต่อเนื่อง

อย่างไรก็ตาม ประเด็นในเรื่องดังกล่าวยังคงถูกตั้งเป็นคำถามถึงความเหมาะสมมาอย่างต่อเนื่อง เนื่องจากโครงสร้างตลาดหุ้นไทยกับตลาดหุ้นต่างๆ ในโลกแตกต่างกันในหลายเรื่องซึ่งอาจจะทำให้ความพร้อมในการแปรรูปของตลาดหุ้นมีน้อยกว่าตลาดหุ้นในหลายประเทศ

นอกจากนี้ ประเด็นในเรื่องกิจกรรมต่างๆ ที่เกี่ยวข้องกับบทบาทของตลาดหลักทรัพย์ในการพัฒนาตลาดทุน โดยเฉพาะการเพิ่มจำนวนนักลงทุนอาจจะได้รับผลกระทบที่ชัดเจนเนื่องจากความสำคัญของบริษัทจดทะเบียนคือการเร่งสร้างผลการดำเนินงานให้มีกำไรเพื่อประโยชน์ต่อผู้ถือหุ้นให้มากที่สุด

แหล่งข่าวระดับสูงบริษัทหลักทรัพย์ กล่าวว่า ความแตกต่างที่ชัดเจนของตลาดหุ้นไทยกับตลาดหุ้นในต่างประเทศที่มีการแปรรูปตลาดหลักทรัพย์เป็นบริษัทจดทะเบียน คือความเสรีในการดำเนินธุรกิจของบริษัทต่างๆ ความพร้อมในเรื่องการบริหารงานที่ดีกว่า เนื่องจากมีการเปิดให้มีการซื้อขายมายาวนานรวมถึงขนาดของตลาดหลักทรัพย์ก็แตกต่างกันค่อนข้างมากซึ่งเรื่อดังกล่าวถือว่าเป็นอุปสรรคในการแปรรูปที่สำคัญ

ทั้งนี้ ตลาดทุนไทยแม้ว่าจะเปิดซื้อขายมาถึง 30 ปีแต่ศักยภาพของตลาดหุ้นของไทยเมื่อเทียบกับตลาดหุ้นอื่นๆ ทั่วโลกยังถือว่าต้องมีการพัฒนาอีกค่อนข้างมาก ไม่ว่าจะเป็นด้านจำนวนบริษัทที่จดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ฯ

มูลค่าหลักทรัพย์ตามราคาตลาด (มาร์เกตแคป) และที่สำคัญจำนวนนักลงทุนที่ลงทุนในตลาดหลักทรัพย์ที่ยังอยู่ในระดับที่ต่ำมากเมื่อเทียบกับจำนวนประชากรทั่วประเทศ

นอกจากนี้ ประเด็นที่สำคัญการแปรรูปตลาดหลักทรัพย์ฯจะส่งผลต่อนโยบายในการบริหารอย่างสิ้นเชิง เนื่องจากการสร้างกำไรสุทธิ เพื่อประโยชน์ต่อผู้ถือหุ้นเป็นสิ่งที่ผู้บริหารบริษัทจดทะเบียนจะต้องให้ความสำคัญเป็นอันดับแรก โดยปัจจุบันตลาดหลักทรัพย์ฯยังมีภาระและหน้าที่ในการสร้างความรู้ความเข้าใจเกี่ยวกับการลงทุนในตลาดทุนแก่ประชาชนเพื่อสร้างฐานนักลงทุน ซึ่งหากมีการแปรรูปจริงเม็ดเงินที่จะต้องนำมาสร้างฐานนักลงทุนอาจจะลดลงไปค่อนข้างมากหรืออาจจะต้องตัดงบไปเลย

"ตลาดหุ้นไทยยังไม่เหมาะที่จะแปรรูปในช่วงนี้ เพราะนโยบายต่างๆที่จะต้องเปลี่ยนไปหลังการแปรรูปอาจจะทำให้ตลาดทุนไทยต้องเข้ายุคถอยหลังเข้าคลอง ความต่างทางโครงสร้างของตลาดหุ้นทั่วโลกถือว่าเป็นปัจจัยหลังต่อการพิจารณาว่าการแปรรูปเหมาะสมหรือพร้อมหรือไม่

อนึ่ง ก่อนหน้ากรณีการแปรรูปถูกคัดค้านจากนายกิตติรัตน์ ณ ระนอง อดีตผู้จัดการตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย เนื่องจากมองว่าไม่มีความจำเป็นที่ตลาดหลักทรัพย์ฯจะต้องแปรรูป ประกอบกับตลาดหลักทรัพย์ฯไม่มีความจำเป็นเกี่ยวกับความต้องการเงินเพื่อนำมาลงทุนหรือขยายงานในด้านต่างๆเนื่องจากเงินกองทุนของตลาดหลักทรัพย์ในปัจจุบันก็มีสูงมากกว่าหมื่นล้านบาท


กลับสู่หน้าหลัก

Creative Commons License
ผลงานนี้ ใช้สัญญาอนุญาตของครีเอทีฟคอมมอนส์แบบ แสดงที่มา-ไม่ใช้เพื่อการค้า-ไม่ดัดแปลง 3.0 ประเทศไทย



(cc) 2008 ASTVmanager Co., Ltd. Some Rights Reserved.