|

ร.พ.บางมดบุกธุรกิจศัลยกรรมทุ่ม500ล.ผุดศูนย์เสริมความงาม
ผู้จัดการรายวัน(23 มีนาคม 2550)
กลับสู่หน้าหลัก
โรงพยาบาลบางมด รุกหนักบุกธุรกิจศัลยกรรมความงามเต็มสูบ ทุ่มงบ 500 ล้านบาท สร้างศูนย์เสริมความงาม คาดอีก 2 ปีเปิดบริการ ตอบรับกระแสคนชอบทำศัลยกรรม เสริมอึ๋ม มากขึ้น พร้อมควัก 10 ล้านบาท ลงทุนซื้อเครื่องมือ เสริมศักยภาพ ประกาศลั่นสิ้นปีขอยอดรวมโต 20%
นางศรีวัฒนา อัศดามงคล ผู้อำนวยการ โรงพยาบาลบางมด เปิดเผยว่า โรงพยาบาลบางมดมีแผนที่รุกทำธุรกิจศัลยกรรมเสริมความงามให้เพิ่มมากยิ่งขึ้น โดยเบื้องต้นได้จัดเตรียมงบประมาณไว้กว่า 400-500 ล้านบาทซึ่งเป็นการลงทุนของโรงพยาบาลเอง สำหรับการจัดสร้างศูนย์เสริมความงาม ซึ่งจะตั้งอยู่ในแถบพื้นที่ถนนย่านพระราม 2 ขณะนี้ยังอยู่ระหว่างการก่อสร้าง คาดว่าจะแล้วเสร็จภายในระยะเวลาอีก 2 ปี คาดว่าจะสามารถรองรับจำนวนลูกค้าได้มากถึง 2 พันคนต่อวัน ซึ่งจะตอบรับกับความต้องการของกลุ่มลูกค้าได้เป็นอย่างดี
สำหรับสาเหตุที่จัดสร้างศูนย์ดังกล่าว เนื่องจากได้เล็งเห็นถึงการเติบโตของธุรกิจนี้มีมาโดยตลอด จากประสบการณ์ในการให้บริการกับกลุ่มลูกค้ามาเป็นระยะเวลากว่า 20 ปี ฐานลูกค้าที่เข้ามาในโรงพยาบาลมีจำนวนเพิ่มมาก โดยเฉพาะในระยะเวลา 5 ปีทีผ่านมา กลุ่มคนหันมาให้ความสำคัญกับเรื่องสุขภาพ ต่อเนื่องไปจนถึงเรื่องของบุคลิกภาพความงาม ผู้คนส่วนใหญ่ต้องการให้เป็นที่ยอมรับและดูดีในทางสังคม ส่งต่อให้ธุรกิจเทคนิคการแพทย์จึงเป็นอีกหนึ่งทางเลือกที่ได้รับความนิยมเป็นอย่างมาก จะเห็นได้จากอัตราการเติบโตในส่วนของโรงพยาบาลมีการโตโดยเฉลี่ย 10% ทุกปีจากตลาดส่วนนี้
ปัจจุบันสัดส่วนรายได้จากกลุ่มศัลยกรรมความงามมีอยู่ 30% ของจำนวนรายได้ทั้งหมด โดยกลุ่มลูกค้าที่เข้ามาใช้บริการด้านศัลยกรรมความงามในโรงพยาบาลแบ่งออกเป็นกลุ่มลูกค้าคนไทย 70% และต่างชาติอีก 30% เฉลี่ยอัตราการค่าใช้จ่าย เริ่มต้น 10,000 – 100,000 บาทโดยส่วนใหญ่แล้วกลุ่มลูกค้าที่เข้ามาทำศัลยกรรมจะอยู่ในกลุ่มคนทำงาน นักธุรกิจ และกลุ่มคนทั่วไป
ประเภทของการเข้ามาใช้บริการจะอยู่ในรูปแบบของการเสริมหน้าอก ดึงหน้า แก้ไขใต้ตา เป็นต้น ซึ่งเมื่อดูตัวเลขของการเติบโตของกลุ่มลูกค้าแล้วโรงพยาบาลยังมองว่ายังสามารถเติบโตได้อยู่อย่างต่อเนื่อง และจากแผนการเปิดศูนย์ศัลยกรรมใหม่เพิ่มขึ้นจะเป็นสิ่งหนึ่งที่ช่วยผลักดันยอดรายได้ที่ได้จากกลุ่มเสริมความงามเพิ่มขึ้น เป็น 50% ได้ภายในอนาคตอันใกล้อย่างแน่นอน
พร้อมกันนี้จากแผนการขยายตลาดศัลยกรรมให้มีความสมบูรณ์แบบเพิ่มมากขึ้น ยังมีกิจกรรมและการโฆษณาและการประชาสัมพันธ์ตลอดทั้งปี โดยได้จัดเตรียมงบสำหรับการใช้ทำตลาด 20% ของยอดรายได้รวม เพื่อเป็นการสื่อสารให้กับกลุ่มลูกค้าได้เข้าใจถึงกระบวนการและขั้นตอนในการจัดทำมากขึ้น เบื้องต้นได้เตรียมจัด 2- 3 แคมเปญ ทั้งนี้ช่วงปลายปี จะมีการจัดประกวด “มิสบิวตี้ฟูล” โดยการคัดเลือกจากหญิงสาวที่ผ่านการทำศัลยกรรมความงามเท่านั้น เพื่อหาฑูตความงามของโรงพยาบาล เพื่อให้ความรู้เกี่ยวกับความงามให้กับคนทั่วไป และเป็นตัวแทนในการสื่อการตลาดของโรงพยาบาล
นอกจากแผนการสร้างยอดรายได้จากธุรกิจศัลยกรรมเพื่อความงาม ทางโรงพยาบาลยังเตรียมปรับปรุงโรงพยาบาลในส่วนของกลุ่มผู้ป่วยทั่วไปที่เข้ามาใช้บริการ ปรับให้มีความพร้อมมากที่สุด ซึ่งขณะนี้ ยังอยู่ระหว่างการดำเนินการในส่วนของด้านหน้าของตึกอยู่ ทั้งนี้นอกจากการปรับปรุงส่วนตึกแล้ว ยังมีแผนการนำเครื่องมือทางการแพทย์เทคโนโลยีใหม่ที่ใช้สำหรับตรวจโรคต่างๆให้กับกลุ่มค้าเช่นเดียวกัน
ที่ผ่านมาโรงพยาบาลได้ลงทุนซื้ออุปกรณ์รวมทั้งเครื่องมือทางการแพทย์ ต่อปี เป็นจำนวนเงินกว่า 10 ล้านบาททุกปี ดังนั้นในการสั่งเข้าอุปกรณ์ใหม่ๆเชื่อว่าจะเป็นสิ่งที่ช่วยพัฒนาระบบการตรวจให้สมบูรณ์และคาดว่าจะใช้งบเท่ากันเพื่อ รองรับจำนวนกลุ่มคนที่เข้ามาในโรงพยาบาลทั้งผู้ป่วยนอกและผู้ป่วยใน
“แม้ว่าเศรษฐกิจค่อนข้างชะลอตัว แต่ทางโรงพยาบาล จะยังคงเดินหน้าทำตลาดต่อเนื่อง โดยในช่วงไตรมาสแรกจะมีการจัดอีเว้นต์ใหญ่มากขึ้นการปรับปรุงและเพิ่มศักยภาพของเครื่องมือการแพทย์ที่มากขึ้น อีกทั้งการเติบโตในธุรกิจศัลยกรรมความงามยังเติบโตได้อยู่อย่างต่อเนื่อง คาดว่าในสิ้นปียอดรายได้รวมจะเติบโตได้กว่า 20%”
นางศรีวัฒนา อัศดามงคล ผู้อำนวยการ โรงพยาบาลบางมด เปิดเผยว่า โรงพยาบาลบางมดมีแผนที่รุกทำธุรกิจศัลยกรรมเสริมความงามให้เพิ่มมากยิ่งขึ้น โดยเบื้องต้นได้จัดเตรียมงบประมาณไว้กว่า 400-500 ล้านบาทซึ่งเป็นการลงทุนของโรงพยาบาลเอง สำหรับการจัดสร้างศูนย์เสริมความงาม ซึ่งจะตั้งอยู่ในแถบพื้นที่ถนนย่านพระราม 2 ขณะนี้ยังอยู่ระหว่างการก่อสร้าง คาดว่าจะแล้วเสร็จภายในระยะเวลาอีก 2 ปี คาดว่าจะสามารถรองรับจำนวนลูกค้าได้มากถึง 2 พันคนต่อวัน ซึ่งจะตอบรับกับความต้องการของกลุ่มลูกค้าได้เป็นอย่างดี
สำหรับสาเหตุที่จัดสร้างศูนย์ดังกล่าว เนื่องจากได้เล็งเห็นถึงการเติบโตของธุรกิจนี้มีมาโดยตลอด จากประสบการณ์ในการให้บริการกับกลุ่มลูกค้ามาเป็นระยะเวลากว่า 20 ปี ฐานลูกค้าที่เข้ามาในโรงพยาบาลมีจำนวนเพิ่มมาก โดยเฉพาะในระยะเวลา 5 ปีทีผ่านมา กลุ่มคนหันมาให้ความสำคัญกับเรื่องสุขภาพ ต่อเนื่องไปจนถึงเรื่องของบุคลิกภาพความงาม ผู้คนส่วนใหญ่ต้องการให้เป็นที่ยอมรับและดูดีในทางสังคม ส่งต่อให้ธุรกิจเทคนิคการแพทย์จึงเป็นอีกหนึ่งทางเลือกที่ได้รับความนิยมเป็นอย่างมาก จะเห็นได้จากอัตราการเติบโตในส่วนของโรงพยาบาลมีการโตโดยเฉลี่ย 10% ทุกปีจากตลาดส่วนนี้
ปัจจุบันสัดส่วนรายได้จากกลุ่มศัลยกรรมความงามมีอยู่ 30% ของจำนวนรายได้ทั้งหมด โดยกลุ่มลูกค้าที่เข้ามาใช้บริการด้านศัลยกรรมความงามในโรงพยาบาลแบ่งออกเป็นกลุ่มลูกค้าคนไทย 70% และต่างชาติอีก 30% เฉลี่ยอัตราการค่าใช้จ่าย เริ่มต้น 10,000 – 100,000 บาทโดยส่วนใหญ่แล้วกลุ่มลูกค้าที่เข้ามาทำศัลยกรรมจะอยู่ในกลุ่มคนทำงาน นักธุรกิจ และกลุ่มคนทั่วไป
ประเภทของการเข้ามาใช้บริการจะอยู่ในรูปแบบของการเสริมหน้าอก ดึงหน้า แก้ไขใต้ตา เป็นต้น ซึ่งเมื่อดูตัวเลขของการเติบโตของกลุ่มลูกค้าแล้วโรงพยาบาลยังมองว่ายังสามารถเติบโตได้อยู่อย่างต่อเนื่อง และจากแผนการเปิดศูนย์ศัลยกรรมใหม่เพิ่มขึ้นจะเป็นสิ่งหนึ่งที่ช่วยผลักดันยอดรายได้ที่ได้จากกลุ่มเสริมความงามเพิ่มขึ้น เป็น 50% ได้ภายในอนาคตอันใกล้อย่างแน่นอน
พร้อมกันนี้จากแผนการขยายตลาดศัลยกรรมให้มีความสมบูรณ์แบบเพิ่มมากขึ้น ยังมีกิจกรรมและการโฆษณาและการประชาสัมพันธ์ตลอดทั้งปี โดยได้จัดเตรียมงบสำหรับการใช้ทำตลาด 20% ของยอดรายได้รวม เพื่อเป็นการสื่อสารให้กับกลุ่มลูกค้าได้เข้าใจถึงกระบวนการและขั้นตอนในการจัดทำมากขึ้น เบื้องต้นได้เตรียมจัด 2- 3 แคมเปญ ทั้งนี้ช่วงปลายปี จะมีการจัดประกวด “มิสบิวตี้ฟูล” โดยการคัดเลือกจากหญิงสาวที่ผ่านการทำศัลยกรรมความงามเท่านั้น เพื่อหาฑูตความงามของโรงพยาบาล เพื่อให้ความรู้เกี่ยวกับความงามให้กับคนทั่วไป และเป็นตัวแทนในการสื่อการตลาดของโรงพยาบาล
นอกจากแผนการสร้างยอดรายได้จากธุรกิจศัลยกรรมเพื่อความงาม ทางโรงพยาบาลยังเตรียมปรับปรุงโรงพยาบาลในส่วนของกลุ่มผู้ป่วยทั่วไปที่เข้ามาใช้บริการ ปรับให้มีความพร้อมมากที่สุด ซึ่งขณะนี้ ยังอยู่ระหว่างการดำเนินการในส่วนของด้านหน้าของตึกอยู่ ทั้งนี้นอกจากการปรับปรุงส่วนตึกแล้ว ยังมีแผนการนำเครื่องมือทางการแพทย์เทคโนโลยีใหม่ที่ใช้สำหรับตรวจโรคต่างๆให้กับกลุ่มค้าเช่นเดียวกัน
ที่ผ่านมาโรงพยาบาลได้ลงทุนซื้ออุปกรณ์รวมทั้งเครื่องมือทางการแพทย์ ต่อปี เป็นจำนวนเงินกว่า 10 ล้านบาททุกปี ดังนั้นในการสั่งเข้าอุปกรณ์ใหม่ๆเชื่อว่าจะเป็นสิ่งที่ช่วยพัฒนาระบบการตรวจให้สมบูรณ์และคาดว่าจะใช้งบเท่ากันเพื่อ รองรับจำนวนกลุ่มคนที่เข้ามาในโรงพยาบาลทั้งผู้ป่วยนอกและผู้ป่วยใน
“แม้ว่าเศรษฐกิจค่อนข้างชะลอตัว แต่ทางโรงพยาบาล จะยังคงเดินหน้าทำตลาดต่อเนื่อง โดยในช่วงไตรมาสแรกจะมีการจัดอีเว้นต์ใหญ่มากขึ้นการปรับปรุงและเพิ่มศักยภาพของเครื่องมือการแพทย์ที่มากขึ้น อีกทั้งการเติบโตในธุรกิจศัลยกรรมความงามยังเติบโตได้อยู่อย่างต่อเนื่อง คาดว่าในสิ้นปียอดรายได้รวมจะเติบโตได้กว่า 20%”
กลับสู่หน้าหลัก
 ผลงานนี้ ใช้สัญญาอนุญาตของครีเอทีฟคอมมอนส์แบบ แสดงที่มา-ไม่ใช้เพื่อการค้า-ไม่ดัดแปลง 3.0 ประเทศไทย
(cc) 2008 ASTVmanager Co., Ltd. Some Rights Reserved.
|