'บสก.-เครดิตบูโร'เร่งแก้ข้อมูลหนี้เน่า


ผู้จัดการรายวัน(22 มีนาคม 2550)



กลับสู่หน้าหลัก

บสก.จับมือครดิต บูโรอำนวยความสะดวกให้ลูกหนี้ที่หลุดจากเอ็นพีแอล แจ้งแก้ไขข้อมูลเครดิตผ่านบสก.ได้ เพื่อให้สามารถเข้าสู่ระบบทำธุรกรรมกับสถาบันการเงินได้เร็วขึ้น เผยขณะนี้บสก.มี NPL ที่ต้องบริหารจัดการถึง 51,225 ราย มูลค่า 233,160 ล้านบาท และมีลูกค้าที่ชำระหนี้เสร็จสิ้นเฉลี่ยเดือนละประมาณ 400 ราย

นายบรรยง วิเศษมงคลชัย กรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัทบริหารสินทรัพย์ กรุงเทพพาณิชย์ จำกัด(บสก.) กล่าวว่า บสก.ได้การลงนามในบันทึกข้อตกลงกับ บริษัท ข้อมูลเครดิตแห่งชาติ (เครดิต บูโร) เรื่องการอำนวยความสะดวกให้เจ้าของข้อมูลยื่นขอแก้ไขข้อมูลเครดิตผ่านบกส. ซึ่งเป็นนโยบายที่ บสก. ต้องการช่วยเหลือลูกค้าที่ชำระหนี้เสร็จสิ้นเรียบร้อยแล้ว ให้มีโอกาสกลับคืนสู่ระบบเศรษฐกิจ โดยการปรับปรุงข้อมูลให้เป็นปัจจุบัน ซึ่งจะเป็นประโยชน์ต่อลูกค้าในการทำธุรกรรมทางการเงินในอนาคต

ทั้งนี้ เมื่อลูกค้าชำระหนี้เสร็จสิ้นบสก. จะแจ้งให้ลูกค้าทั้งบุคคลธรรมดา และนิติบุคคลทราบถึงสิทธิที่ลูกค้าสามารถขอแก้ไขข้อมูลเครดิตผ่านบสก. ได้ และหากลูกค้าประสงค์จะขอแก้ไขข้อมูลของตนให้กรอกแบบฟอร์มใบคำขอแก้ไข/โต้แย้งข้อมูลเครดิต ซึ่งบสก.จะเป็นผู้อำนวยความสะดวกให้กับ บริษัท ข้อมูลเครดิตแห่งชาติ ในการรับแบบคำขอแก้ไขข้อมูลจากลูกค้า และจะรวบรวมส่งให้กับบริษัท ข้อมูลเครดิตแห่งชาติ เพื่อการตรวจสอบและแก้ไข หลังจากนั้น บสก.จะออกหนังสือยืนยันการรับโอนหนี้ และหนังสือยืนยันการชำระหนี้เสร็จสิ้น และ/หรือปิดบัญชีให้กับลูกค้าเพื่อใช้เป็นหลักฐานต่อไป

นายบรรยง กล่าวอีกว่า ปัจจุบัน บสก.มีสินทรัพย์ด้อยคุณภาพ (NPL) ที่ต้องบริหารจัดการถึง 51,225 ราย คิดเป็นมูลค่า 233,160 ล้านบาท โดย NPL ส่วนใหญ่ บสก.รับโอนมาจากสถาบันการเงินที่เป็นสมาชิกของ บริษัท ข้อมูลเครดิตแห่งชาติ ซึ่งเมื่อลูกค้าหรือเจ้าของข้อมูลที่รับโอนมายังบสก.ได้มีการเจรจาปรับโครงสร้างหนี้ได้ข้อยุติ และชำระหนี้ให้กับบสก.เสร็จสิ้นแล้ว ก็ยังไม่สามารถส่งข้อมูลของลูกค้าให้กับ บริษัท ข้อมูลเครดิตแห่งชาติได้ เนื่องจากบสก. มิได้เป็นสมาชิก ดังนั้น ในช่วงที่ผ่านมาลูกค้าจึงไม่ได้รับการปรับปรุงในฐานข้อมูลของ บริษัทข้อมูลเครดิตแห่งชาติให้ถูกต้องและทันสมัย

"จากประเด็นดังกล่าว บสก. และบริษัท ข้อมูลเครดิตแห่งชาติ จำกัด จึงได้ตกลงร่วมกันจัดให้มีการอำนวยความสะดวกให้เจ้าของข้อมูลซึ่งเป็นลูกค้าที่ บสก. รับโอนมาจากสถาบันการเงิน โดยเมื่อลูกค้ารายนั้นได้ชำระหนี้เสร็จสิ้นแล้ว สามารถยื่นแบบคำขอแก้ไขข้อมูลเครดิตผ่านบสก. เพื่อทำการแก้ไขในระบบรายงานข้อมูลเครดิตให้ถูกต้อง ทั้งนี้ ในปัจจุบันบสก.มีลูกค้าที่ชำระหนี้เสร็จสิ้นโดยเฉลี่ยเดือนละประมาณ 400 ราย"กรรมกาารผู้จัดการใหญ่ บสก.กล่าว

ด้านนายนิวัฒน์ กาญจนภูมินทร์ ผู้จัดการใหญ่ บริษัท ข้อมูลเครดิตแห่งชาติ จำกัด กล่าวว่า การดำเนินการดังกล่าวถือเป็นนโยบายของบริษัทที่จะช่วยลดช่องว่างระหว่างผู้ให้สินเชื่อและลูกค้าสินเชื่อ โดยการช่วยให้สถาบันการเงินต่างๆ มีข้อมูลเกี่ยวกับลูกค้าเพียงพอที่จะพิจารณาการให้สินเชื่อ และช่วยให้ลูกค้าสินเชื่อทุกรายได้รับโอกาสในการเข้าถึงแหล่งสินเชื่อและบริการอื่นๆ ของสถาบันผู้ให้สินเชื่ออย่างเท่าเทียมกัน ดังนั้น ข้อตกลงครั้งนี้ จะทำให้ลูกค้าของบสก.ได้รับความสะดวกในการทำธุรกรรมทางการเงินอื่นๆในอนาคต

"บริษัทพยายามอำนวยความสะดวกในการให้บริการทั้งต่อสถาบันการเงินและต่อผู้บริโภค ปัจจุบันนี้ผู้บริโภคสามารถตรวจสอบข้อมูลเครดิตของตนเองได้หลายวิธี ทั้งที่สำนักงานของเครดิตบูโร หรือผ่านทางสาขาธนาคารนครหลวงไทย หรือ ทางไปรษณีย์ เมื่อตรวจสอบแล้วก็สามารถแก้ไขหรือโต้แย้งข้อมูลเครดิตของตนได้”นายนิวัฒน์กล่าว


กลับสู่หน้าหลัก

Creative Commons License
ผลงานนี้ ใช้สัญญาอนุญาตของครีเอทีฟคอมมอนส์แบบ แสดงที่มา-ไม่ใช้เพื่อการค้า-ไม่ดัดแปลง 3.0 ประเทศไทย



(cc) 2008 ASTVmanager Co., Ltd. Some Rights Reserved.