“นกแอร์-SGA”กอดคอบิน


ผู้จัดการรายวัน(21 มีนาคม 2550)



กลับสู่หน้าหลัก

นกแอร์จับมือเอสจีเอ สยายปีกเส้นทางบินในประเทศ ชูเป็นเบอร์หนึ่งเรื่องเส้นทางบินเหนือคู่แข่งอย่างแอร์เอเชีย เล็งสร้างฮับในทุกภูมิภาคของประเทศ ขณะที่ เอสจีเอ ได้อานิสงส์ขยายช่องทางจำหน่ายให้บริษัท ทิ้งนโยบายเก่าหันจับตลาดแมสมาร์เก็ต ระบุพร้อมร่วมเป็นฝูงบินในทุกเส้นทาง

นายพาที สารสิน ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร สายการบินนกแอร์ เปิดเผยว่า ได้จับมือกับ บริษัท สยาม เจนเนอรัล เอวิเอชั่นจำกัด ผู้ให้บริการ สายการบิน เอสจีเอ(SGA) ภายใต้แนวคิด “ตราสัญลักษณ์ร่วม” หรือ Co-branding ซึ่งจะส่งผลให้นกแอร์มีเดสติเนชั่นเพิ่มขึ้นให้บริการลูกค้าในเส้นทางย่อยได้มากขึ้น ขณะที่ เอสจีเอก็ได้ขยายฐานลูกค้าที่เป็นตลาดคนไทยได้เพิ่มขึ้น โดยการจับมือกันครั้งนี้ เอสจีเอ จะมีช่องทางจำหน่ายตั๋วให้แก่ลูกค้าได้เพิ่มขึ้น เพราะสามารถใช้ร่วมกับนกแอร์ซึ่งมีกว่า 1 หมื่นช่องทางจำหน่าย เช่น เซเว่น-อีเลฟเว่น และ เอ็มเปย์ เป็นต้น โดยจะเริ่มทำการบินร่วมตั้งแต่วันที่ 25 มีนาคมศกนี้

“เอสจีเอ เป็นเครื่องบินขนาดเล็ก 12 ที่นั่ง ซึ่งจะบินในเส้นทางย่อยระยะสั้น 20นาทีถึง1 ชั่วโมง ปัจจุบันบินอยู่ 3 เส้นทาง คือ กรุงเทพ-หัวหิน ,เชียงใหม่-เชียงราย และ เชียงใหม่-บาย โดยที่ร่วมให้บริการเที่ยวบินเชื่อมกับนกแอร์ เพื่อต่อจากเมืองหลักเข้าสู่เมืองขนาดรองและขนาดย่อยจะมีสี่เส้นทาง ได้แก่ กรุงเทพฯ-ปาย,กรุงเทพ-แพร่,กรุงเทพฯ-เชียงราย และ กรุงเทพฯ-หัวหิน โดยผู้โดยสารจะซื้อตั๋วเพียงครั้งเดียว”

ทั้งนี้นกแอร์มีแผนที่จะขยายเดสติเนชั่นสำหรับเส้นทางในประเทศให้ได้มากที่สุด ส่วนหนึ่งเพื่อการแข่งขันทางธุรกิจ อีกส่วนหนึ่งเป็นการเพิ่มบริการให้แก่ลูกค้าให้สามารถเดินทางได้ง่ายขึ้นสะดวกขึ้นในทุกจุดหมายปลายทางของเมืองไทย ซึ่งการร่วมมือกับเอสจีเอครั้งนี้ทำให้นกแอร์เป็นสายการบินที่มีเส้นทางบินในประเทศมากที่สุด เหนือกว่าแอร์เอเชีย โดยบริษัทมีแผนว่าในอนาคต จะสร้างฮับในแต่ละภูมิภาคของประเทศไทย เช่น ภาคเหนือ นกแอร์จะใช้เชียงใหม่เป็นฮับ ในการขยายเส้นทางบินไปในจังหวัดใกล้เคียง ส่วน ภาคอีสาน คาดว่าจะใช้อุดรธานีเป็นฮับ ขณะที่ภาคใต้ ขณะที่กำลังอยู่ระหว่างการศึกษา

“เราต้องการสร้างบริการที่ประทับใจให้แก่ลูกค้า เพื่อให้เกิดความมั่นใจในแบรนด์นกแอร์ ก่อนที่จะขยายสู่ตลาดต่างประเทศ ซึ่งในเส้นทางบังกาลอ ประเทศอินเดีย คาดว่าจะเปิดให้บริการได้ในไตรมาสสอง เลื่อนจากแผนเดิมที่คาดว่าจะเปิดในไตรมาสแรกของปีนี้ เพราะติดปัญหาทางสนามบินของบังกาลอ ส่วนเส้นทางในประเทศปีนี้เปิดเพิ่มไปเชียงราย สุราษฎร์ธานี และ อุบลราชธานี”

อย่างไรก็ตาม บริษัทเชื่อว่า การร่วมมือกับ เอสจีเอครั้งนี้จะมีผู้โดยสารของนกแอร์ใช้บริการต่อเส้นทางบินของเอสจีเอประมาณ10-15% โดยปีนี้นกแอร์คาดว่าจะขนผู้โดยสารได้ไม่น้อยกว่า 3 ล้านคน ขณะที่ผู้โดยสารรวมสำหรับเส้นทางบินในประเทศปีนี้น่าจะอยู่ที่ 14-15 ล้านคน

นายเจน ชาญณรงค์ ประธาน บริษัท สยาม เจนเนอรัล เอวิเอชั่นจำกัด ผู้ให้บริการ สายการบิน เอสจีเอ(SGA) กล่าวว่า การร่วมมือกับนกแอร์จะทำให้บริษัทเติบโตแบบก้าวกระโดด ซึ่งหากลูกค้าให้การตอบรับดี บริษัทก็พร้อมจะเปลี่ยนเครื่องบินเป็นขนาด 35 ที่นั่ง โดยปีนี้ มีแผนจะซื้อเครื่องบินเพิ่มอีก 1 ลำจากปัจจุบันมีอยู่ 2 ลำ และ หากมีดีมานด์เพิ่มมากขึ้น จะส่งผลให้ค่าตั๋วโดยสารของเอสจีเอถูกลง ได้อีก

โดยการร่วมกับนกแอร์ครั้งนี้ถือเป็นการเปลี่ยนแนวคิดใหม่ทั้งหมดของบริษัท จากเดิมที่มีกลุ่มลูกค้าเป็นนิชมาร์เก็ต โดยเฉพาะกลุ่มนักท่องเที่ยวต่างชาติและนักธุรกิจ แต่จากนี้ไป เอสจีเอ จะเป็นสายการบินที่คนไทยทุกคนสามารถใช้บริการได้ในระดับแมสมาร์เก็ต เพราะบริษัทมีช่องทางจำหน่ายเพิ่มขึ้น ขณะที่ใช้ความแข็งแกร่งของแบรนด์นกแอร์ในการช่วยทำตลาด โดยเราพร้อมเป็นฝูงบินให้แก่นกแอร์ในทุกเส้นทาง โดยบริษัทเปิดดำเนินการในประเทศไทยมาแล้ว 6 ปี แต่ยังไม่เป็นที่รู้จัดในตลาดคนไทยมากนัก


กลับสู่หน้าหลัก

Creative Commons License
ผลงานนี้ ใช้สัญญาอนุญาตของครีเอทีฟคอมมอนส์แบบ แสดงที่มา-ไม่ใช้เพื่อการค้า-ไม่ดัดแปลง 3.0 ประเทศไทย



(cc) 2008 ASTVmanager Co., Ltd. Some Rights Reserved.