เดชา ครุฑทิน สวมหมวกสองในในเครือสุมิโตโม คอนสตรัคชั่น ยักษ์ใหญ่ด้านก่อสร้างของญี่ปุ่น
ซึ่งนอกจากจะเข้ามารับงานก่อสร้างขนาดใหญ่ในไทยแล้ว ยังได้ลงทุนในเรื่องของการพัฒนาที่ดินด้วยหมวกใบแรกของเขาคือ
ผู้อำนวยการฝ่ายก่อสร้างบริษัทสุมิโตโม คอนสตรัคชัน ใบที่สองคือ ผู้อำนวยการฝ่ายส่งเสริมการขาย
บริษัทสุมิโกพัฒนาการ บริษัทในเครือสุมิโตโม ซึ่งตั้งขึ้นมาเพื่อทำโครงการหมู่บ้านจัดสรรราคาแพง
"เลคไซด์วิลล่า"
เดชาจบการศึกษาด้านวิศวะจาก SEIBU INSTITUE OF TECHNOLOGY ของฟิลิปปินส์เขาเริ่มต้นชีวิตนายช่างงานก่อสร้าง
ด้วยการเข้าไปทำรับงานเป็นหัวหน้าวิศวกรของบริษัทนิชิมัตสึ อยู่ 3 ปี จึงได้เข้าสู่อาณาจักรของไทย
สุมิโกคอนสตรัคชั่น บริษัทชั้นนำด้านการก่อสร้างของญี่ปุ่นอยู่ถึง 20 ปี
ตลอดระยะเวลาดังกล่าว เดชาก็สนุกกับงานก่อสร้างที่ตนเองถนัดนั้นเป็นอย่างดีแต่หารู้ไม่ว่างานที่จะสร้างชื่อให้นั้น
จะเป็นงานที่เขาต้องปิดตำราก่อสร้างทั้งหมด เพื่อรับรู้ในสิ่งที่ตัวเองไม่เคยรู้มาก่อนเลย
สิ่งที่ดลบันดาลให้เดชาต้องล้างสมองตัวเองเพื่อรับรู้ในสิ่งใหม่ๆ นั้น
นอกจากจะเป็นไปตามนโยบายของกลุ่มซูมิโตโม ที่หวังจะขยายงานออกไปทางด้านพัฒนาที่ดินโดยการตั้งบริษัทสุมิโกพัฒนาการขึ้นมาเพื่อพัฒนาโครงการ
"เลคไซด์วิลล่า" โดยเฉพาะแล้ว ยังเป็นไปเพื่อแก้ไขปัญหาของซูมิโตโม
คอนสตรัคชั่น ในขณะนั้นซึ่งค่อนข้างจะอัตคัดงานที่จะมาเสริมเพื่อเลี้ยงดูคนงานกว่า
1,500 คนในสังกัดให้อยู่รอดได้
ข้อเสนอสำคัญของกลุ่มซูมิโตโมนั้น นอกจากจะมอบหมายให้เดชาดูแลในส่วนของงานก่อสร้างบ้านเลคไซด์วิลล่าให้เคร่งครัดตามมาตรฐานชั้นสูงแล้ว
งานสำคัญที่ทางกลุ่มได้มอบหมายแย่างเจาะจงว่าจะต้องให้เดชาเข้าไปดูแลคือผู้อำนวยการฝ่ายส่งเสริมการขาย
"เขาให้ความเห็นเพียงนิดเดียวว่า ผมพูดเก่งและมีหลักฐานดี แล้วยิ่งมานึกว่าเราจะต้องรับงานนี้เพื่อความอยู่รอดของคน
1,500 คนแล้วผมก็เลยตกปากรับคำทันที" เดชากล่าวถึงเหตุผลในการตัดสินใจของตนเอง
"เลคไซด์วิลล่า" เป็นโครงการบ้านจัดสรรราคาแพงที่เจาะกลุ่มลูกค้าคนรวยโครงการแรกบนถนนบางนา-ตราด
ก.ม.ที่ 7 นับจากวันนั้นจนถึงวันนี้ กว่า 5 ปีที่เลคไซด์ได้เปิดตัวขึ้นมา
จากโครงการแรกมาถึงโครงการที่สอง และจนกระทั่งมีโครงการที่ 3 การฝ่าฟันเพื่อทำยอดขายให้ทะลุเป้าที่วางไว้
ในภาวะที่เพิ่งเริ่มบุกเบิกตลาดบ้านระดับสูงและต้องฝ่ามรสุมการเมือง เศรษฐกิจที่ผันผวนตลอดเวลานั้นแทบจะไม่น่าเชื่อเลยว่า
ผู้ที่อยู่เบื้องหลังความสำเร็จดังกล่าวนั้น จะเป็นหัวหน้าวิศวกรที่ไม่เคยรู้เรื่องหลักการขายแม้แต่น้อยนิด
ในระยะต้นของการสวมหมวกนักขายบ้าน ที่ไม่เคยมีประสบการณ์ในทางการตลาดมาก่อนเลย
สิ่งที่เดชาสามารถจะทำได้คือ อาศัยความรู้ทางด้านงานก่อสร้างให้เป็นประโยชน์
เมื่อจะต้องไปหว่านล้อมลูกค้าให้สนใจในโครงการเลคไซด์เดชา ก็จะร่ายยาวให้ฟังถึงคุณสมบัติดีเด่นของเลคไซด์วิลล่าทั้งในส่วนของการบำบัดน้ำเสียที่ถือว่าเป็นหมู่บ้านแรกๆ
ที่ให้ความสนใจในการทุ่มทุนสร้างบ่อบำบัดอย่างได้มาตรฐานเป็นของตนเอง รวมถึงโครงสร้างบ้านที่มีรากฐานแข็งแกร่งเพื่อรองรับกับทะเลสาบของบ้านแต่ละหลังให้มีความคงทน
"ผมยังจำประสบการณ์ที่ไปขายให้กับลูกค้ารายแรกที่ค่อนข้างจะมีกินได้ว่า
เกร็งพอสมควร ก็อาศัยความรู้ทาง ด้านงานก่อสร้างนี้เองเป็นใบเบิกทาง ให้สามารถคุยเรื่องอื่นต่อเนื่องไปได้"
โครงการที่ 1 ของเลคไซด์ถึงเส้นชัย โดยใช้เวลาการขายอยู่ไม่ถึงปี พร้อมทั้งสถิติสำคัญที่บ้านทั้งหมดของเลคไซด์
1 ซึ่งมีจำนวน 234 หลัง ปรากฏว่ามีการเปลี่ยนมือเพียง 3-4 หลังเท่านั้น
หลังจากเสร็จสิ้นงานขายโครงการ 1 ของเลคไซด์แล้วเดชาก็ต้องกลับไปดูแลงานก่อสร้างของซูมิโตโมอีกหลายแห่งในตำแหน่งเดิมคือผู้อำนวยการฝ่ายก่อสร้างบริษัท
สุมิโกคอนสตรัคชั่น ไม่ว่าจะเป็นสะพานลอยยกระดับในจังหวัดนนทบุรีและปทุมธานี
หรือโครงการสะพานพระราม 7 แต่ก็ยังคงต้องรับผิดชอบเป็นทัพหน้าในการขายโครงการเลคไซด์วิลล่า
2 ในช่วงปี 2534 อีกตำแหน่งหนึ่งด้วย
และเมื่อมาถึงโครงการเลคไซด์ 3 ซึ่งเป็นโครงการใหญ่อีกเช่นเดียวกัน ซึ่งมีทั้งมารีน่า
สนามกอล์ฟ จำนวน 265 หลังพร้อมทั้งราคาบ้านที่ปรับสูงขึ้นตากอัตราต่ำสุด
8 ล้าน ก็ขึ้นมาเป็นกว่า 10 ล้านขึ้นไปบวกกับสถานการณ์เศรษฐกิจที่ยังไม่ฟื้นตัวมากนัก
ก็ยังเป็นปัจจัยสำคัญที่กลุ่มซูมิโตโมยังจำเป็นต้องใช้ให้เดชามานั่งแป้นในตำแหน่งผู้อำนวยการขายให้เลคไซด์
3 นี้อีกครั้ง
"ตอนแรกเขาก็กะจะไม่เรียกผมอยู่แล้วเหมือนกันเพราะเห็นผมยังง่วนอยู่กับงานก่อสร้างที่ยังล้นมือ
โดยเฉพาะโครงการหรินธรทาวเวอร์ที่กำลังเร่งรัดให้เสร็จ แต่พอเห็นท่าไม่ดี
เขาก็ต้องให้ผมมาช่วยอีกครั้ง"
จนกระทั่งวันนี้ ถ้าหากจะถามเดชาว่าชอบงานไหนมากกว่ากันระหว่างงานขายและงานก่อสร้างแล้ว
เดชาก็จะเลือกได้ค่อนข้างลำบาก ท้ายที่สุดแล้วเขาอาจจะไม่มีทางเลือกมากนัก
นอกเสียจากจะต้องสวมหมวกทั้งสองใบนี้พร้อมๆ กันเหมือนเช่นที่เป็นมาและเป็นอยู่ต่อไป