|
บูติก โฮเทลแถบสาทรแข่งเดือด ดิ้นปรับกลยุทธ์รับศึกโลว์ซีซัน
ผู้จัดการรายสัปดาห์(19 มีนาคม 2550)
กลับสู่หน้าหลัก
ก่อนที่ฤดูกาลโลว์ซีซันจะมาถึง สำหรับโรงแรมย่านสาทรซึ่งมีหลายค่ายเตรียมปล่อยหมัดเด็ดหวังชิงส่วนแบ่งตลาดโดยเฉพาะนักธุรกิจต่างชาติ ล่าสุดการใช้เทคโนโลยีทันสมัยไว้บริการในห้องพักคือกลยุทธ์หนึ่งที่นับว่ากลุ่มโรงแรมระดับ 5 ดาว ย่านถนนสาทร หยิบนำไปใช้และถือว่าได้ผลทีเดียว
ขณะที่กลุ่มโรงแรมระดับ 5 ดาว และเซอร์วิสอพาร์ตเมนต์ ที่ผุดขึ้นราวดอกเห็ดทั้งสองฝากฝั่งบนถนนสาทร กลับกลายเป็นสมรภูมิรบทางการแข่งขันเพื่อแย่งชิงกลุ่มลูกค้าโดยเฉพาะนักธุรกิจที่ถือว่าเป็นตลาดสำคัญ ด้วยความที่มีห้องพักราคาค่อนข้างสูง กอปรกับย่านถนนสาทรเป็นย่านธุรกิจที่มีสำนักงานของต่างประเทศเป็นจำนวนมาก ความได้เปรียบในเรื่องของโลเคชั่นจึงเป็นแผนการตลาดที่ถูกหยิบนำมาใช้และนับว่าได้ผลไม่น้อย ซึ่งจะเห็นได้ว่าโรงแรมระดับ 5 ดาวแทบทุกค่ายจะหันมาเน้นเรื่องของการให้บริการเป็นส่วนใหญ่และไม่ค่อยมีความแตกต่างกันมากนัก
ส่งผลให้เซอร์วิสอพาร์ตเมนท์ ซึ่งเป็นตัวแปรสำคัญของกลุ่มโรงแรมระดับ 5 ดาวโดยเฉพาะในเรื่องของสงครามราคาที่ก่อให้กลุ่มโรงแรมระดับ 5 ดาวย่านถนนสาธรได้รับผลกระทบไปตามๆ กัน ขณะเดียวกันโรงแรมระดับ 5 ดาวต่างต้องเร่งปรับกลยุทธ์เพื่อดึงกลุ่มนักธุรกิจให้เข้าไปใช้บริการและเพื่อให้ธุรกิจสามารถดำเนินต่อไปได้อีกด้วย
สอดคล้องกับ มร.พอล ลิน ผู้จัดการทั่วไปโรงแรมเอเวอร์กรีน กรุงเทพฯ ที่บอกว่าสถานการณ์บ้านเมืองในประเทศไทยกำลังส่งผลกระทบต่ออัตราการเข้าพักของโรงแรมในย่านถนนสาทรไม่น้อย เนื่องจากกลุ่มเป้าหมายจะเป็นนักธุรกิจ การเกิดเหตุการณ์ขึ้นทั้งในกรุงเทพฯ และ 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ของไทย ทำให้ยอดตัวเลขของกลุ่มนักธุรกิจที่เดินทางเข้ามาใช้บริการลดลงอย่างเห็นได้ชัด
“โดยเฉพาะปีนี้ถ้าเปรียบเทียบกับปีที่แล้วช่วงเดียวกันอัตราการเข้าพักจะลดลงเหลือเพียง 70% เท่านั้น” มร.พอล ลิน กล่าว
ขณะเดียวกันกลุ่มเซอร์วิสอพาร์ตเมนท์ที่มีอยู่และกำลังก่อสร้างยังคงเป็นปัจจัยสำคัญที่จะส่งผลให้ธุรกิจโรงแรมระดับ 5 ดาวย่านถนนสาธรมีคู่แข่งขันเพิ่มขึ้นและทำตลาดได้ยากขึ้นตามไปด้วย
มร. พอล ลิน กล่าวอีกว่าด้วยจำนวนห้องพักที่มีกว่า 160 ห้อง การที่จะให้เต็ม 100% คงทำได้ยาก และสำหรับตลอดปี 2550 นี้มีการวางเป้าหมายไว้เพียงแค่ 75-80% เท่านั้น หากแต่กลยุทธ์การทำตลาดอาจจะมีการปรับเปลี่ยนไปบ้างโดยเฉพาะกลุ่มของ เอเวอร์กรีน เองที่มีบริษัทในเครืออยู่ทั่วโลกไม่ว่าจะเป็นกลุ่มธุรกิจด้านโรงแรมหรือกลุ่มธุรกิจสายการบิน อีวา แอร์ จะมีการสร้างพันธมิตรทางการตลาดร่วมกัน ส่งผลให้ต้องมีการปรับตัวเองอยู่ตลอดเวลาและต่อเนื่องเพราะไม่เช่นนั้นแล้วลูกค้าจะหันไปใช้บริการที่อื่น
“ปัจจุบันกำลังจะเข้าสู่ช่วงโลว์ซีซัน คาดว่าอัตราการเข้าพักน่าจะถึง 70% ซึ่งเราก็ไม่ประมาทและมีการติดต่อลูกค้าผ่านเอเย่นต์อยู่เป็นประจำเพื่อให้มีจำนวนลูกค้าเพิ่มขึ้น และมีการจัดแคมเปญให้บริการฟรีอินเทอร์เนตในห้องพักสำหรับบริการลูกค้าด้วย”มร.พอล ลิน กล่าว
นอกจากนี้การเปิดให้บริการสำหรับประเทศไทยของกลุ่มโรงแรม เอเวอร์ กรีน ในปีนี้จะครบรอบปีที่ 13 จะมีการปรับปรุงด้านบริการโดยเฉพาะการเปลี่ยนโทรทัศน์เป็นจอแบบ LCD ใหม่ทั้งหมดทุกห้อง ขณะเดียวกันการเป็นเชนบริหารต่างประเทศที่มีกลุ่มโรงแรมเอเวอร์ กรีนในเครือทั่วโลกยังคงมีประโยชน์สำหรับเชนเอเวอร์กรีนในไทยไม่น้อย เพราะกลุ่มลูกค้าที่เดินทางไปยังประเทศต่างๆ ที่มีเครือข่ายโรงแรมตั้งอยู่ซึ่งจะคอยเป็นไกด์ช่วยแนะนำเมื่อกลุ่มลูกค้ามีความต้องการที่จะเดินทางมายังประเทศไทย
“การใช้บริการห้องพักของนักธุรกิจจะอยู่เพียง 1-2 สัปดาห์ แล้วก็บินกลับประเทศไป สำหรับนักธุรกิจที่มีเวลาพักยาวนานหลายอาทิตย์ก็จะหันไปเช่าเซอร์วิสอาพาตเม้นท์แทนเพราะราคาจะต่างกับโรงแรมมาก ทำให้เราต้องพึ่งเอเย่นต์และกลุ่มโรงแรมในเครือต่างประเทศด้วย”มร.พอล ลิน กล่าว
ด้านการเคลื่อนไหวของโรงแรมบายัน-ทรี ที่อยู่บนถนนสาทรเช่นกัน ล่าสุดพบว่ามีการปรับกลยุทธ์โดยเฉพาะในส่วนของห้องอาหารที่ถูกหยิบนำมาใช้ประโยชน์และก็ได้ผลไม่น้อย โดยเฉพาะห้องอาหารญี่ปุ่นที่ขึ้นชื่อและมีการเข้าไปใช้บริการไม่น้อยเช่นกัน
แม้ว่าการท่องเที่ยวของไทยจะประสบกับภาวะทางเศรษฐกิจที่ผันผวน ราคาน้ำมันที่พุ่งสูงขึ้น หรือการเมืองที่ไม่มีความชัดเจน แน่นอนอาจส่งผลต่อธุรกิจโรงแรมย่านสาธรบ้างในช่วงระยะเวลาสั้นๆ แต่หากได้รับการแก้ไขอย่างทันท่วงทีก็จะสามารถทำให้นักธุรกิจไว้วางใจและเริ่มเข้ามาใช้บริการของโรงแรมและเซอร์วิสอพาร์ตเมนท์สร้างความคึกคักทางธุรกิจเหมือนเมื่อปีที่ผ่านมา เพราะเมื่อช่วงเดือนมีนาคมปี 2549 พบว่าทุกโรงแรมในระดับ 5 ดาวมีอัตราการเข้าพักพุ่งสูงถึง 100% กันแทบทั้งสิ้น จนทำให้ลูกค้าต้องหาที่พักในแถบถนนสุขุมวิทแทน
ช่วงฤดูกาลโลว์ซีซันในอนาคตอันใกล้นี้ ผู้ประกอบการโรงแรมระดับ 5 ดาวแถบย่านถนนสาทรแทบทุกค่ายต่างส่งเป็นเสียงเดียวกันว่าขอให้ทุกอย่างกลับมาเหมือนปกติ เพราะกลุ่มลูกค้าที่เป็นนักธุรกิจเมื่อมีเหตุการณ์ไม่ปลอดภัยเขาก็จะไม่เดินทางเข้ามาในประเทศไทย ซึ่งไม่เหมือนกับกลุ่มนักท่องเที่ยวที่ไม่ค่อยได้รับผลกระทบเท่าไรนัก
ขณะเดียวกันการปรับตัวอย่างต่อเนื่องตลอดเวลาของกลุ่มโรงแรมระดับ 5 ดาวย่านถนนสาทรไม่ว่าจะเป็นการอัดแคมเปญใหม่ๆ ออกมาเป็นระยะ หรือเปิดให้บริการด้านห้องอาหารในเทศกาลต่างๆ ทุกอย่างล้วนเป็นกลยุทธ์ที่ถูกหยิบนำมาใช้ และถ้าหากจำนวนห้องพักมีลูกค้าน้อยลงสิ่งที่จะต้องตัดสินใจทำในขั้นตอนสุดท้ายคงจะหนีไม่พ้นเรื่องของการหั่นราคาให้ถูกลง ถึงแม้ว่าโรงแรมระดับ 5 ดาวหลายค่ายต่างจะออกมาปฏิเสธว่าไม่มีทางที่จะกระโดดลงไปเล่นเรื่องของราคาก็ตาม ซึ่งเหตุการณ์ปัจจุบันหลายอย่างที่กำลังเกิดขึ้นส่งผลให้ธุรกิจโรงแรมและเซอร์วิสอพาร์ตเมนท์ต้องปรับตัวเพื่อความอยู่รอดเพียงเพื่อรอให้นักธุรกิจลูกค้าประจำเดินทางกลับเข้ามาใช้บริการใหม่อีกครั้งนั่นเอง
กลับสู่หน้าหลัก
ผลงานนี้ ใช้สัญญาอนุญาตของครีเอทีฟคอมมอนส์แบบ แสดงที่มา-ไม่ใช้เพื่อการค้า-ไม่ดัดแปลง 3.0 ประเทศไทย
(cc) 2008 ASTVmanager Co., Ltd. Some Rights Reserved.
|