เนรมิตเมือง2หมื่นล้านบาทบทพิสูจน์ฝีมือทายาท“เจริญ”


ผู้จัดการรายสัปดาห์(12 มีนาคม 2550)



กลับสู่หน้าหลัก

*จับตาก้าวต่อไปของลูกไม้ที่หล่นใต้ต้นของราชันย์น้ำเมา “เจริญ สิริวัฒนภักดี”บนถนนสายอสังหาริมทรัพย์

*พลิกแลนด์แบงก์ผืนงามย่านเกษตร-นวมินทร์ 300 ไร่ เนรมิตเมืองขนาดใหญ่ มูลค่า 20,000 ล้านบาท หวังสร้างรายได้ระยะยาว

*กรุยทางสู่มืออาชีพด้านค้าปลีกอย่างเต็มตัว ด้วยการจับมือพันธมิตรมือฉมังอย่าง“สยามฟิวเจอร์”

สำหรับเจริญ สิริวัฒนภักดี ธุรกิจน้ำเมาของเขาที่ทุกคนรู้จักกันดี ได้ก้าวขึ้นไปถึงสูงสุด เปรียบได้กับผู้ใหญ่ที่บรรลุนิติภาวะแล้ว และพร้อมที่จะออกไปเผชิญโลกภายนอกอย่างเต็มรูปแบบ แต่สำหรับธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ภายใต้ปีก ทีซีซี แลนด์ แม้จะมีอาคารสำนักงานให้เช่ามากมายหลายแห่ง แต่ก็ถือว่ายังอยู่ในขั้นเริ่มต้น เพราะยังไม่ได้มีการหยิบที่ดินแปลงใหญ่มาพัฒนาอย่างจริงจัง แต่เมื่อมีการเปิดตัวให้สาธารณชนรู้จักเมื่อไม่กี่ปีที่ผ่านมา หลังจากที่มีการร่วมทุนกับแคปปิตอล แลนด์ กลุ่มทุนสิงคโปร์ จัดตั้งบริษัท ทีซีซี แคปปิตอล แลนด์ ขึ้นเพื่อพัฒนาโครงการสำหรับขาย กลับสร้างปรากฎการณ์ให้ทุกคนต้องจับตามอง เพราะต้นทุนหนึ่งที่ เจริญ มีชัยชนะเหนือกว่าผู้ครองเก้าอี้เบอร์หนึ่งของธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ คือ แลนด์แบงก์แปลงงามจำนวนมาก บวกกับเงินทุนมหาศาลจากการทำธุรกิจหลายด้าน ประกอบกับวิสัยทัศน์ที่มีอยู่ในตัวทายาทของเจริญ ที่กำลังวางแผนงานสำหรับทยอยนำที่ดินแต่ละแปลงมาพัฒนาเพื่อสร้างมูลค่า โดยแต่ละโครงการล้วนแล้วแต่เป็นบิ๊กโปรเจกต์ที่ใครๆ ก็ห้ามกระพริบตา

เริ่มต้นด้วยธุรกิจให้เช่า

จุดเริ่มต้นของ ทีซีซี แลนด์ เริ่มมาจากการพัฒนาอสังหาริมทรัพย์ให้เช่า เช่น อาคารสำนักงาน ศูนย์การค้า โรงแรม สปา ศูนย์ประชุม สนามกอล์ฟ ในช่วงแรกเป็นเพียงการนำที่ดินบางแปลงที่มีศักยภาพมาพัฒนาเพื่อก่อสร้างเป็นอาคาร หรือการเทคโอเวอร์อาคารมารีโนเวทใหม่ ยังไม่ได้เป็นการพัฒนาโครงการเพื่อขาย จนเมื่อมีการร่วมทุนกับ แคปปิตอล แลนด์ กลุ่มทุนสิงคโปร์ที่มีความเชี่ยวชาญในการพัฒนาอาคารสูง ความเป็นดีเวลลอปเปอร์ก็ส่องประกายฉายให้ทุกคนเห็นภาพอย่างชัดเจนขึ้น เริ่มต้นจากคอนโดมิเนียมระดับไฮเอนด์ในทำเลงามใจกลางเมือง เช่น ดิ เอ็มไพร์ เพลส ย่านสาทร, วิลล่า ราชครู ซ.ราชครู, แอทธินี เรสซิเดนท์ ถ.วิทยุ และล่าสุดวิลล่าราชเทวี ถ.พญาไท

จุดพลุด้วยโครงการบ้านหรู

สำหรับแลนด์แบงก์ขนาดใหญ่แปลงแรกที่ทายาทของเจริญนำมาพัฒนา คือ ที่ดิน 300 ไร่บนถนนเกษตร-นวมินทร์ ภายใต้ชื่อ “เสนา มาสเตอร์ แพลน” โดย ทีซีซี แคปปิตอล แลนด์ นำร่องเฟสแรกด้วยโครงการแอทธินี เรสซิเดนท์ บ้านเดี่ยวระดับหรูสไตล์วิคตอเรียน 79 ยูนิต ราคา 40-120 ล้านบาท บนพื้นที่ 250 ตร.วา-1 ไร่ มูลค่าโครงการรวม 2,800 ล้านบาท ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของแนวคิดเมืองในฝัน (Integrated Township Development) ในส่วนที่เรียกว่า Lifestyle Village ที่ วัลลภา ไตรโสรัส กรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท ทีซีซี แลนด์ จำกัด กล่าวว่า ทำเลดังกล่าวมีศักยภาพสูง เนื่องจากเป็นจุดเชื่อมต่อระหว่างถนนวงแหวน 2 สาย คือ ถ.เกษตร-นวมินทร์ และ ถ.เอกมัย-รามอินทรา สามารถเดินทางเข้าสู่ใจกลางเมืองได้อย่างรวดเร็ว รวมทั้งขนาดพื้นที่เพียงพอที่จะพัฒนาเป็นเมืองที่สมบูรณ์ขนาดย่อมได้

พัฒนาเป็นเมืองครบวงจร

นอกจากมีพื้นที่ขนาดใหญ่จนกินสัดส่วน 3% ของพื้นที่เขตลาดพร้าวแล้ว รอบๆ โครงการยังแวดล้อมไปด้วยชุมชนขนาดใหญ่ เป็นหมู่บ้านระดับกลาง-บนที่มีกำลังซื้อสูง การพัฒนาให้เป็นเมืองที่ครบสมบูรณ์เพื่อรองรับกลุ่มเป้าหมายนี้จึงเป็นคำตอบที่จะสร้างมูลค่าเพิ่มให้กับที่ดินแปลงนี้ได้ดีที่สุด โดย วัลลภา กล่าวว่า เมื่อผ่านไป 5 ปีจะได้เห็นภาพของความเป็นเมืองแห่งนี้อย่างชัดเจนขึ้น โดยจะทยอยพัฒนาเป็นเฟส ภายใต้เงินลงทุนรวม 20,000 ล้านบาท

เน้นที่อยู่อาศัยแนวราบ

ในส่วนของเฟสแรก คือ The Royal Resident โซนที่อยู่อาศัยที่ให้น้ำหนักการใช้พื้นที่ประมาณ 30 ไร่ขึ้นไป วัลลภา กล่าวว่า จะเน้นการพัฒนาในแนวราบเป็นหลัก เนื่องจากอยู่นอกเมือง ส่วนเฟสต่อไปจะเป็นการพัฒนาทาวน์เฮาส์ และคอนโดมิเนียมแบบโลว์ไรส์ สูงไม่เกิน 5 ชั้น เจาะกลุ่มเป้าหมายระดับกลาง-บน ขณะนี้ยังไม่ได้กำหนดสัดส่วนการพัฒนาสินค้าที่แน่นอน

รวมศูนย์การค้า-บริการครบวงจร

นอกจากนี้ ยังมีแนวคิดสำหรับเฟสต่อไปอีก 7 โซน ได้แก่ Auto Mall เฟสสำหรับธุรกิจรถยนต์ ให้เช่าทำโชว์รูม, Premium Outlet Centre แหล่งชอปปิ้งขนาดใหญ่รองรับกำลังซื้อของชุมชน, Lifestyle Power Centre เฟสสำหรับธุรกิจค้าปลีก และสันทนาการ ในลักษณะ Lifestyle Center ที่เป็นแหล่งพักผ่อนของคนในชุมชน โดยไม่ต้องเดินทางเข้าเมือง, Lakeside Entertainment เฟสสำหรับธุรกิจร้านอาหาร ตั้งอยู่ริมทะเลสาบภายในโครงการ และ Service Commercial เฟสพื้นที่สำนักงานให้เช่าสำหรับธุรกิจบริการต่างๆ

จับมือ SF เติมเต็มเฟสแรก

นอกจากโครงการรอยัล เรสซิเดนท์ แล้ว วัลลภา ยังมีแผนที่จะพัฒนาส่วน Life Style Power Center ซึ่งเป็นพื้นที่ค้าปลีกในเฟสแรกด้วย โดยดึงมือดีของวงการค้าปลีกอย่าง สยามฟิวเจอร์ ดีเวลลอปเมนท์ เข้ามาดูแลการพัฒนาศูนย์การค้าครบวงจรบนพื้นที่ 16 ไร่ เนื่องจากสยามฟิวเจอร์ได้ชื่อว่ามีประสบการณ์ในธุรกิจค้าปลีกในชุมชนอย่างชัดเจน ซึ่งล่าสุดได้เข้าไปบริหารพื้นที่ขายของเอสพลานาด ศูนย์การค้าและโรงภาพยนตร์ย่านรัชดาภิเษก ซึ่งเป็นโปรเจกต์ยักษ์ใหญ่ของเมเจอร์ซินีเพล็กซ์

ใช้รูปแบบ Lifestyle Center

นพพร วิฑูรชาติ กรรมการผู้จัดการ บริษัท สยามฟิวเจอร์ ดีเวลลอปเมนท์ จำกัด (มหาชน) หรือ SF กล่าวว่า สำหรับพื้นที่ค้าปลีกในโครงการเสนา มาสเตอร์ แพลน บริษัทฯ จะเช่าพื้นที่ระยะยาว 30 ปี ใช้เงินลงทุนค่าก่อสร้าง 500 ล้านบาท พัฒนาพื้นที่ในรูปแบบ Lifestyle Center เพื่อรองรับคนในชุมชนดังกล่าวที่มีกำลังซื้อสูงระดับ B+ ขึ้นไป โดยมีทั้งสินค้าทั่วไป ในลักษณะของซุปเปอร์มาร์เก็ตระดับบน และครอบคลุมถึงบันเทิงและสันทนาการ เช่น ร้านอาหารนานาชาติ โรงภาพยนตร์นอกจากนี้ยังมีธุรกิจอื่นๆ เช่น Home Decoration Center ซึ่งได้เครือซิเมนต์ไทยมาเช่าพื้นที่แสดงสินค้าวัสดุก่อสร้าง ในรูปแบบของ Cement Thai Design Center ทั้งนี้พื้นที่ค้าปลีกดังกล่าวมีพื้นที่ขายรวม 52,000 ตร.ม. ขณะนี้สามารถหาผู้เช่าหลักได้แล้ว โดยโครงการจะแล้วเสร็จปลายปีนี้ หรือต้นปีหน้า คาดว่าจะมีรายได้ปีแรก 120 ล้านบาท

ใช้เครือข่าย SF สร้างความแข็งแกร่ง

เหนือสิ่งอื่นใดที่ ทีซีซีฯ ตัดสินใจเลือกสยามฟิวเจอร์ ไม่ใช่เพียงแต่ความแข็งแกร่งในการพัฒนาและบริหารพื้นที่ค้าปลีกเท่านั้น แต่เป็นเพราะสยามฟิวเจอร์มีเครือข่ายเชื่อมโยงกับเมเจอร์ซินีเพล็กซ์ เจ้าของเครือข่ายธุรกิจโรงภาพยนตร์ยักษ์ใหญ่ของเมืองไทย ในฐานะที่เมเจอร์ฯ ถือหุ้นใหญ่อยู่ ซึ่งจะสามารถอาศัยแบรนด์และความเชี่ยวชาญของเมเจอร์ฯ เข้ามาลงทุนธุรกิจโรงภาพยนตร์ภายในโครงการได้ นอกจากนี้ ยังเชื่อมโยงไปถึง แคลิฟอร์เนีย ว้าว เอ็กซ์พีเรียนซ์ ธุรกิจฟิตเนส หนึ่งในบริษัทที่เมเจอร์ถือหุ้นใหญ่ ซึ่งจะเป็นหนึ่งในธุรกิจที่จะเข้ามาอยู่ในโครงการเสนา มาสเตอร์ แพลนด้วยเช่นกัน

เล็งหาพันธมิตรอื่นเสริมความแกร่ง

สำหรับการพัฒนาพื้นที่เฟสอื่นๆ วัลลภา กล่าวว่า ขณะนี้อยู่ระหว่างการเจรจาเพื่อหาพันธมิตรเข้ามาพัฒนาแต่ละเฟสที่แต่ละรายมีความเชี่ยวชาญ ซึ่งในส่วนของที่ดินอื่นๆ ก็เช่นกัน ทีซีซีฯ ก็ยังจะมองหาผู้ร่วมทุนจากประเทศอื่นๆ มาเสริมความแข็งแกร่งนอกเหนือจากสิงคโปร์ โดยขณะนี้อยู่ในระหว่างเจรจา เช่น อเมริกา ออสเตรเลีย เนเธอร์แลนด์

ก้าวย่างของ ทีซีซี ครั้งนี้กลายเป็นภาพสะท้อนความยิ่งใหญ่อีกมุมหนึ่งในธุรกิจของเจริญที่ทุกคนเห็นได้ชัดเจนขึ้น และไม่จำกัดโมเดลธุรกิจอยู่เพียงการพัฒนาโครงการที่อยู่อาศัยเท่านั้น แต่มีความพยายามที่จะจับมือพันธมิตร หาหนทางเติบโตและรุกคืบธุรกิจอสังหาริมทรัพย์อย่างครบวงจร จากนี้ไปคงไม่แปลกหากจะพูดว่าคลื่นลูกใหม่นี้น่าจับตามองเพียงใด


กลับสู่หน้าหลัก

Creative Commons License
ผลงานนี้ ใช้สัญญาอนุญาตของครีเอทีฟคอมมอนส์แบบ แสดงที่มา-ไม่ใช้เพื่อการค้า-ไม่ดัดแปลง 3.0 ประเทศไทย



(cc) 2008 ASTVmanager Co., Ltd. Some Rights Reserved.