สื่อวิทยุระอุเปิดศึกดั๊มราคาแย่งลูกค้าคาดตลาดรวมโต5%


ผู้จัดการรายวัน(9 มีนาคม 2550)



กลับสู่หน้าหลัก

บอสใหญ่ เวอร์จิ้น เรดิโอฯ ชี้อย่างเก่งภาพรวมธุรกิจปีนี้ใกล้เคียงปีที่ผ่านมา มองการแข่งขันในตลาดดุเดือด กลยุทธ์ ราคา จะเป็นเครื่องมือสู้ศึกปีนี้ เวอร์จิ้นเน้นการปรับตัวให้เข้ากับสถานการณ์ ขายโฆษณาพ่วงการเพิ่มมูลค่าต่อยอดให้ลูกค้า หวังมีรายได้รวมเพียง 525 ล้านบาท เท่าปีที่ผ่านมา

นายเชษฐ มังคโลดม กรรมการผู้จัดการ บริษัท เวอร์จิ้น บีอีซี-เทโร เรดิโอ (ประเทศไทย) จำกัด เปิดเผยว่า ปีนี้จะเป็นปีที่อุตสาหกรรมตลาดวิทยุ มีการแข่งขันกันสูง เหตุจากการที่สภาพเศรษฐกิจที่อยู่ในขาลงมาตั้งแต่กลางปีที่ผ่านมา ทำให้ลูกค้าชะลอแผนการใช้งบประมาณทางการตลาด โดยหากจะมีการใช้ จะต้องใช้ให้เกิดความคุ้มค่าคุ้มราคา และตรงกลุ่มเป้าหมายมากที่สุด

ส่งผลให้อุตสาหกรรมวิทยุในปีนี้คาดว่าจะมีอัตราการเติบโตใกล้เคียงกับปีที่ผ่านมา หรือเติบโตขึ้นไม่เกิน 5% คิดเป็นมูลค่าประมาณ 3,000 ล้านบาท แต่ละค่ายในปีนี้จึงต้องมีการปรับตัวเพื่อให้แต่ละคลื่นที่บริหารอยู่ มีรายได้เป็นไปตามที่วางแผนไว้

โดยเฉพาะการขายสื่อโฆษณานั้นปีนี้คาดว่า ส่วนใหญ่จะใช้กลยุทธ์ทางด้านราคามาแข่งขันกันเพื่อให้ได้ลูกค้าตามออเดอร์ ขณะที่บริษัทฯเองนั้นได้มีการปรับราคาค่าโฆษณาลดลงนับจาก 3 ปีก่อนแล้ว จนในปีนี้มีราคาเฉลี่ยอยู่ที่ 1,800-2,400 บาท ต่อ 1 สปอต ระยะเวลา 30 วินาที แยกได้เป็นคลื่นอีซี่ เอฟเอ็ม 105.5 ปีนี้อยู่ที่ 2,200-2,400 บาท, คลื่นเวอร์จิ้น ฮิตซ์ 95.5 เอฟเอ็ม อยู่ที่ 2,100-2,400 บาท และคลื่น เวอร์จิ้น ซอฟท์ 103 เอฟเอ็ม อยู่ที่ 1,000-1,200 บาท ซึ่งระดับราคาดังกล่าว เมื่อเทียบของแต่ละเซกเม้นท์แล้ว เป็นราคาที่ถูกที่สุดในตลาด

“มั่นใจว่าหลายๆค่ายจะลดราคาค่าโฆษณาลงมาแข่งขัน เพื่อให้ลูกค้ามากขึ้น ถึงแม้ในความเป็นจริงจะไม่สามารถลดได้ก็ตาม แต่ในทางปฏิบัติ เชื่อมั่นว่าราคาจะเป็นเครื่องมือที่ค่ายต่างๆนำมาใช้มากที่สุด”

นอกจากกลยุทธ์ทางด้านราคาที่จะนำมาแข่งขันกันแล้ว การขายเวลาโฆษณาดังกล่าว จะต้องมีการสร้างมูลค่าเพิ่มให้กับลูกค้าด้วย เพื่อให้ลูกค้าได้รับผลประโยชน์จากการลงโฆษณาครั้งนี้ได้มากที่สุด

นายเชษฐ กล่าวต่อว่า ลูกค้าในปีนี้ส่วนใหญ่จะรอบคอบในการใช้จ่ายมากยิ่งขึ้น การทำตลาดจะต้องเข้าถึงกลุ่มเป้าหมายมากที่สุด ดังนั้นปีนี้จะเห็นว่าลูกค้าจะนิยมใช้ช่องทางด้านการจัดอีเว้นท์เพื่อให้เข้าถึงกลุ่มเป้าหมายโดยตรงแทนการใช้สื่อด้านอะโบฟเดอะไลน์ ดังนั้นเราในฐานะสื่ออะโบฟเดอะไลน์ชนิดหนึ่ง จึงต้องมีการปรับตัว ที่จะทำให้ลูกค้าหันมาใช้สื่อวิทยุมากขึ้น

เพราะฉะนั้นการขายเวลาโฆษณา จึงต้องเอื้อต่องานอีเว้นท์ที่ลูกค้าจัดขึ้น และสร้างความเข้าใจให้ลูกค้าเข้าใจว่า การจัดอีเว้นท์อย่างเดียวไม่เพียงพอที่จะทำให้กลุ่มเป้าหมายรับรู้ได้ แต่ต้องผ่านสื่อมีเดียเช่นเดียวกัน

สำหรับบริษัทฯเอง นอกจากกลยุทธ์ทางด้านราคาที่จะนำมาใช้แล้ว ส่วนหนึ่งที่จะช่วยให้มีรายได้เป็นไปตามเป้า คือ การจัดการในองค์กร การปรับตัวให้เข้ากับสถานการณ์ ต้องมีการลดต้นทุนบางส่วน นอกจากนี้จะต้องตอบโจทย์ผู้ฟังให้ได้มากที่สุด อาทิเช่น การจัดทำเว๊บไซต์ www.virginradiothailand.com การรับพนักงานเพิ่มในส่วนของการทำวิจัยอย่างเต็มรูปแบบ เพิ่มช่วยเสริมการทำตลาดต่อไปในอนาคต

ขณะเดียวกันแนวทางการบริหารคลื่น 95.5 เวอร์จิ้น ฮิตซ์, เวอร์จิ้น ซอฟท์ 103 และอีซี่ เอฟ.เอ็ม 105.5 จะเน้นในเรื่องของการปรับตัวอยู่ตลอดเวลาให้เข้ากับสถานการณ์ในขณะนั้น รวมทั้งยังคงเน้นทางด้านการจัดกิจจกรมเช่นเดียวกับปีที่ผ่านมมา เพิ่มความน่าสนใจให้กับคนฟัง สร้างการมีส่วนร่วมระหว่างคนฟังกับคลื่นด้วย

ทั้งนี้เชื่อว่าสิ้นปีบริษัทฯจะมีรายได้เท่ากับปีที่ผ่านมา 525 ล้านบาท มาจาก อีซี่ เอฟ.เอ็ม 105.5 มูลค่า 280 ล้านบาท เวอร์จิ้น ซอฟท์ 103 มูลค่า 40 ล้านบาท และ95.5 เวอร์จิ้น ฮิตซ์ ประมาณ 205 ล้านบาท ขณะเดียวกันเมื่อคิดในแง่เรตติ้งแล้ว คลื่น95.5 เวอร์จิ้น ฮิตซ์ สูงที่สุดจากทั้ง 3 คลื่น โดยคำนวนจากจำนวนฐานผู้ฟังโดยรวม กว่า 2 ล้านคน คิดเป็น20% ของฐานผู้ฟังในกรุงเทพฯกว่า 9 ล้านคน


กลับสู่หน้าหลัก

Creative Commons License
ผลงานนี้ ใช้สัญญาอนุญาตของครีเอทีฟคอมมอนส์แบบ แสดงที่มา-ไม่ใช้เพื่อการค้า-ไม่ดัดแปลง 3.0 ประเทศไทย



(cc) 2008 ASTVmanager Co., Ltd. Some Rights Reserved.