ผู้นำค้าปลีกมั่นใจเศรษฐกิจไทย


ผู้จัดการรายวัน(10 มีนาคม 2546)



กลับสู่หน้าหลัก

3 กลุ่มผู้นำธุรกิจค้าปลีกมั่นใจเศรษฐกิจไทยและการบริหารประเทศของรัฐบาล เตรียมลงทุนเพิ่มนับหมื่นล้านบาท เซ็นทรัลรีเทลตั้งเป้า ขนาดโครงการขยายใหญ่ปีละ 1 โครงการ ขณะที่เทสโก้ โลตัส ปีนี้ลงทุนกว่าพันล้าน ส่วนเซเว่นฯไม่น้อยหน้า 3 ปีนี้ลงทุนปีละพันล้านเช่นกัน

นายทศ จิราธิวัฒน์ กรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท เซ็นทรัล รีเทล คอร์ปอเรชั่น จำกัด ผู้นำธุรกิจค้าปลีกในกลุ่มห้างสรรพสินค้าที่มีขนาดใหญ่ที่สุดในประเทศไทย เปิดเผยว่าในปี 2545 เป็นปีที่รัฐบาลได้เริ่มนโยบายกระตุ้นเศรษฐกิจและ ดำเนินการอย่างต่อเนื่องจนถึงปัจจุบันซึ่งเห็นเป็น รูปธรรมได้อย่างชัดเจนไม่ ว่าจะเป็นโครงการบ้านเอื้อ อาทร โครงการสนับสนุนด้านการท่องเที่ยวและอื่นๆ อีกมาก ซึ่งส่งผลดีต่อการพลิกฟื้นเศรษฐกิจ โดยรวมของประเทศทำให้ ประชาชนเกิดความมั่นใจ ที่จะลงทุนและใช้จ่าย

จากผลของมาตร การกระตุ้นเศรษฐกิจของ รัฐบาลในครั้งนี้ ส่งผลให้เซ็นทรัลรีเทลเกิดความมั่นใจที่จะขยายธุรกิจ โดยเฉพาะในปีนี้จะใช้งบอย่างน้อย 3,500 ล้านบาท ลงทุนโครงการขนาดใหญ่ คือเซ็นทรัลเฟสติวัลภูเก็ต 1,500 ล้านบาท ส่วนที่เหลือจะใช้เพื่อขยายธุรกิจ สเปเชียลตี้สโตร์ อาทิ ซูเปอร์สปอร์ต เพาเวอร์บาย บีทูเอส โฮมเวิร์คและ อื่นๆ รวม 30-50 แห่ง และการปรับปรุงห้างเซ็นทรัลและโรบินสัน นอกจากนี้เซ็นทรัลรีเทล ยังวางเป้าหมาย ที่จะลงทุนโครงการขนาดใหญ่อย่างน้อยปีละ 1 แห่ง โดยจะขยายธุรกิจไปพร้อมกับบริษัท เซ็นทรัลพัฒนา จำกัด (มหาชน) ไม่ว่าจะเป็นโครงการที่เวิลด์เทรดเซ็น-เตอร์ที่จะเริ่มพัฒนากลางปีนี้ ซึ่งเซ็นทรัลรีเทลยังไม่ได้กำหนดงบประมาณไว้ว่าจะใช้เท่าใด สำหรับปีถัดไปคาด ว่าจะมีที่สี่แยกพระราม 9 เป็นต้น

"นโยบายของรัฐบาลทักษิณได้ผลดีมาก เพราะช่วยให้เศรษฐกิจดีขึ้น คนกล้าลงทุน และประชาชนกล้า ใช้จ่าย ซึ่งปีนี้เราคาดหวังว่าจะเป็นปีที่ดีอีกปีหนึ่ง และถ้าเศรษฐกิจดีผลที่ตามมาก็คือ ธุรกิจของเซ็นทรัลรีเทล ก็จะดีตามไปด้วย"

เทสโก้โลตัสลงทุนปีนี้กว่า 1,000 ล.

ทางด้านนายไมเคิล เรย์คราฟท์ ประธานกรรมการ บริหาร เทสโก้ โลตัส กล่าวว่า ในปีนี้เทสโก้โลตัสเตรียม ลงทุนเพิ่มอีกกว่าพันล้านบาท เพื่อขยายสาขาเทสโก้โลตัส ซึ่งในเบื้องต้นกำหนดไว้ 4 สาขา ประกอบด้วย สาขากาญจนบุรี ที่เปิดให้บริการเมื่อเดือนมกราคมที่ผ่านมา และอยู่ระหว่างการก่อสร้างอีก 3 แห่ง ที่นครปฐม จันทบุรี และที่บางใหญ่ จ.นนทบุรี โดยแต่ละสาขาใช้เงินลงทุนประมาณ 400 ล้านบาท

นอกจากนี้เทสโก้ โลตัส ยังมีแผนงานที่จะขยายสาขาเทสโก้ โลตัส เอ็กซ์เพรส และเทสโก้ โลตัส คุ้มค่า ซึ่งเป็นค้าปลีกรูปแบบใหม่ที่เน้นให้คนในชุมชนเข้ามาเปิดขายสินค้าในพื้นที่ ซึ่งกลางปีนี้จะเปิดสาขาที่ 2 ที่อุตรดิตถ์ (สาขาแรกเปิดเมื่อเดือนธ.ค. 2545 ที่ร้อยเอ็ด)

นายไมเคิล กล่าวว่าเทสโก้มีแผนจะขยายสาขาอย่างต่อเนื่อง เพราะเมื่อพิจารณาถึงภาพรวมของเศรษฐ กิจในประเทศไทยปีนี้มีแนวโน้มดีขึ้น โดยรัฐบาลได้ประกาศจีดีพี (ผลิตภัณฑ์มวลรวม) ของประเทศว่าจะเติบโต 5-6% ในขณะที่กำลังซื้อของลูกค้าก็มีมากขึ้น สังเกตได้จากการเลือกซื้อสินค้าชิ้นใหญ่ เช่น บ้าน รถยนต์ แต่ของใช้ภายในบ้านก็ยังเป็นสิ่งจำเป็น ซึ่งจาก นโยบายลดราคาสินค้าในเทสโก้โลตัสลง เชื่อว่าจะจูงใจ ให้ผู้บริโภคเข้ามาจับจ่ายเพิ่มขึ้น และช่วยให้ผู้บริโภคประหยัดถึงปีละ 400 ล้านบาท

เซเว่นฯลงทุนปีละ 1,000 ล.

ทางด้านกลุ่มธุรกิจร้านค้าปลีกขนาดเล็ก ซึ่งมี เซเว่นอีเลฟเว่น เป็นผู้นำตลาด ด้วยจำนวนสาขาที่มีมากกว่า 2,000 แห่งทั่วประเทศและมียอดขาย ณ สิ้นปี 2545 ถึง 29,000 ล้านบาท ในปีนี้ต่อเนื่องไปถึงปี 2548 เซเว่นฯมีแผนขยายให้ครบ 3,000 สาขา เฉพาะปีนี้เพียงปีเดียวจะเปิดเพิ่มอีก 320 สาขา จากปัจจุบันที่มีอยู่ 2,122 สาขา

ทั้งนี้ นายปิยะวัฒน์ ฐิตะสัทธาวรกุล กรรม การผู้จัดการ บริษัท ซี.พี. เซเว่นอีเลฟเว่น จำกัด (มหาชน) เปิดเผยว่าในแต่ละปีเซเว่นฯจะใช้เงินลงทุนเพื่อขยายธุรกิจไม่น้อยกว่าปีละ 1,000 ล้าน บาท ซึ่งบริษัทมั่นใจว่าไม่ ว่าจะเกิดเหตุการณ์ใดๆขึ้นในต่างประเทศ ไทยก็ยังเป็นประเทศที่น่าลงทุน ไม่เช่นนั้นค้าปลีกต่างชาติ คงไม่เข้ามาทำธุรกิจในไทยจนเต็มไปหมด

สำหรับร้านค้าปลีกทั่วๆ ไปก็ถึงเวลาที่จะต้องยกระดับตัวเองขึ้นมาด้วยการ พัฒนาร้านจากโชวห่วยให้เป็นมินิมาร์ท หรือคอนวีเนียน สโตร์ รวมทั้งการคัดเลือกสินค้าที่ตรงกับชุมชนนั้นก็จะทำให้ธุรกิจของเราอยู่ได้ หว่านเม็ดเงินลงทุนนับหมื่นล้าน



กลับสู่หน้าหลัก

Creative Commons License
ผลงานนี้ ใช้สัญญาอนุญาตของครีเอทีฟคอมมอนส์แบบ แสดงที่มา-ไม่ใช้เพื่อการค้า-ไม่ดัดแปลง 3.0 ประเทศไทย



(cc) 2008 ASTVmanager Co., Ltd. Some Rights Reserved.