|

"โมโตโรล่า" โชว์นวัตกรรมมือถือเทคโนโลยีบวกดีไซน์จุดขายปีหมูทอง
ผู้จัดการรายสัปดาห์(5 มีนาคม 2550)
กลับสู่หน้าหลัก
โมโตโรล่า โรดโชว์ นวัตกรรมมือถือระดับเวิร์ดคลาส ชูความลงตัวระหว่างความโดดเด่นของเทคโนโลยีกับดีไซน์ แสดงมือถือ 3 จี 2 รุ่น โมโตไรเซอร์ แซด8 คลิ๊กสไลเดอร์โฟนรุ่นแรก เครเซอร์ แมกซ์ เค3 พร้อมยังยืนยันไม่ลืมมือถือราคาย่อมเยาว์
บรรดาธุรกิจที่เกี่ยวข้องกับอุตสาหกรรมโทรศัพท์เคลื่อนที่นั้น ธุรกิจเครื่องลูกข่ายโทรศัพท์เคลื่อนที่เป็นตลาดหนึ่งที่ถือว่า มีการแข่งขันกันอย่างดุเดือดไม่แพ้โปรโมชั่นจากบริษัทผู้ให้บริการโทรศัพท์เคลื่อนที่ นอกจากที่จะแข่งกันทางด้านราคาที่ถือเป็นกลยุทธ์หนึ่งทางการตลาดที่บรรดาผู้ผลิตเครื่องลูกข่ายนำมาใช้สร้างส่วนแบ่งทางการตลาดแล้ว นวัตกรรมทางด้านเทคโนโลยีรวมถึงการดีไซน์เป็นอีกประเด็นที่ผู้ผลิตเครื่องโทรศัพท์เคลื่อนที่ได้หยิบยกขึ้นมาเป็นเอกลักษณ์ของแบรนด์โดยปริยาย
โมโตโรล่า อิงค์เป็นแบรนด์หนึ่งที่นำเรื่องของดีไซน์ผนึกรวมกับนวัตกรรมเทคโนโลยีสื่อสารไร้สายมาสร้างสรรค์ออกมาเป็นผลิตภัณฑ์อย่างโมโตโรล่า วี3 ที่ขายได้เป็นล้านเครื่องทั่วโลก ซึ่งถือเป็นจุดเริ่มต้นสำคัญที่ทำให้โมโตโรล่า ก้าวขึ้นสู่ตำแหน่งผู้นำเบอร์สองต่อจากโนเกียได้อย่างเต็มภาคภูมิ
ประมาณกลางเดือนกุมภาพันธ์ที่ผ่านมา ทางโมโตโรล่าได้จัดแสดงประสบการณ์การสื่อสารไร้สายอย่างเต็มรูปแบบ ด้วยการเปิดตัวนวัตกรรมล่าสุดของโมโตโรล่าที่ผนวกความโดดเด่นของเทคโนโลยี และดีไซน์ล้ำสมัยเข้าไว้ด้วยกันที่ได้เข้าโชว์นวัตกรรม ณ งาน 3 จีเอสเอ็ม เวิลด์คองเกรส 2007 ที่ประเทศสเปน มาจัดแสดงเป็นภาคพิเศษ ณ ประเทศสิงคโปร์ เพื่อให้ผู้บริโภคในภูมิภาคเอเซียตะวันออกเฉียงใต้ ได้มีโอกาสร่วมสัมผัสสุดยอดประสบการณ์ทางเทคโนโลยีการสื่อสารล่าสุดของโมโตโรล่า
นวัตกรรมในหลากหลายรูปแบบผลิตภัณฑ์ และเทคโนโลยีล่าสุดที่ถูกนำมาจัดแสดงในงานนี้ ได้ตอกย้ำถึงภาพความเป็นผู้นำของโมโตโรล่า ทั้งในด้านดีไซน์ ดนตรี ข้อมูลข่าวสารและความบันเทิง ไฮ-สปีด เพอร์ฟอร์มมานซ์ บรอดแบนด์ไร้สายรวมถึงการขยายโอกาสทางการสื่อสาร ให้กับผู้คนทั่วโลก ที่ยังไม่มีอุปกรณ์การสื่อสารเป็นของตนเองหรือ Connecting the unconnected สิ่งเหล่านี้มาจากความตั้งใจที่จะพัฒนาเพื่อนำโลกเข้าสู่การสื่อสารแบบไร้ขอบเขตหรือ Seamless Mobility อันเป็นหนึ่งในวิสัยทัศน์หลักในการดำเนินธุรกิจของโมโตโรล่าทั่วโลก
เอียน แชปแมน แบงคส์ รองประธาน โมโตโรล่า ประจำภูมิภาคเอเชีย แปซิฟิกและผู้จัดการทั่วไปฝ่ายการตลาดและพัฒนาธุรกิจ กลุ่มธุรกิจอุปกรณ์โทรศัพท์เคลื่อนที่ โมโตโรล่า ประจำภูมิภาคเอเชียเหนือได้กล่าวว่า "รู้สึกยินดีที่ได้มีโอกาสนำสุดยอดเทคโนโลยีล่าสุดของโมโตโรล่าที่จัดแสดงในงาน 3 จีเอสเอ็ม เวิลด์คองเกรส 2007 มาให้ผู้บริโภคในภูมิภาคเอเซียตะวันออกเฉียงใต้ได้สัมผัส และในปีนี้โมโตโรล่าได้นำสุดยอดผลิตภัณฑ์ที่โดดเด่นและน่าจับตามอง ซึ่งจะทำให้ ทุกคนสามารถเชื่อมต่อ กับโลกแห่งการสื่อสารได้อย่างง่ายดาย พร้อมเข้าถึงความบันเทิงหลากหลายรูปแบบ ในทุกที่ทุกเวลาที่ต้องการ"
ผลิตภัณฑ์ที่โมโตโรล่านำมาแสดงในครั้งนี้ประกอบไปด้วย โทรศัพท์เคลื่อนที่ในระบบ 3จี เอชเอสดีพีเอ อันเป็นสุดยอดแห่งความเร็วในการเชื่อมต่อแบบ ไร้สายเริ่มจาก โมโตไรเซอร์ แซด8 โทรศัพท์มือถือแบบคลิ๊ก สไลเดอร์รุ่นแรกของโลกที่ได้รับการออกแบบมาให้รับเข้ากับความโค้งของรูปหน้าได้อย่างเหมาะเจาะ อีกทั้งโทรศัพท์มือถือรุ่นนี้ใช้เวลาเพียงชั่วพริบตาในการดาวน์โหลดข้อมูลต่างๆ ผ่านสุดยอดเทคโนโลยีของระบบ 3จี เอชเอสดีพีเอ
มาพร้อมสุดยอดฟังก์ชั่นมัลติมีเดีย ด้วยหน้าจอสีสุดยอดคมชัดถึง 16 ล้านสี พร้อมแสดงผลเต็มจอแบบคิววีจีเอขนาด 35x50 มิลลิเมตร มีระบบวีดีโอคุณภาพเยี่ยม ที่แสดงภาพด้วยความเร็วสูงถึง 30 เฟรมต่อวินาที มีกล้องดิจิตอลขนาด 2 ล้าน รองรับบูลทูธระบบ สเตอริโอ มีด้วยหน่วยความจำในตัวสูงถึง 90 เมกะไบต์และสามารถขยายหน่วยความจำภายนอกได้สูงถึง 4 กิ๊กกะไบต์
โมโตเครเซอร์ แมกซ์ เค3 โทรศัพท์มือถือแบบฝาพับ ในดีไซน์สวยงามที่มีรูปแบบอันเป็นเอกลักษณ์ของเครเซอร์ สมบรูณ์แบบทั้งในเรื่องสีสัน วัสดุและองค์ประกอบรวมของตัวเครื่องที่พร้อมจะมอบประสบการณ์มัลติมีเดียแบบไร้สาย ด้วยความเร็วสูง ผ่านเทคโนโลยีระบบ 3จี เอชเอสดีพีเอสู่ผู้ใช้อย่างน่าทึ่ง ด้วยกล้องดิจิตอลความละเอียด 2 ล้านพิกเซล ที่มีถึง 2 ตัว ทำให้สามารถเห็นหน้ากันและกัน ระหว่างการสนทนา รวมถึงการเก็บภาพนิ่ง และภาพเคลื่อนไหวที่คมชัดถึงใจ พร้อมรองรับการเชื่อมต่อผ่านยูเอสบี 2.0 รองรับบูลทูธระบบสเตอริโอ มีหน่วยความจำในตัวสูงถึง 64 เมกะไบต์ พร้อมช่องสำหรับใส่หน่วยความจำเพิ่มเติมภายนอกอีกด้วย คาดว่ารุ่นนี้จะวางตลาดในช่วงครึ่งปีแรกของปี 2550
นอกจากนี้ โมโตโรล่าได้แสดงโทรศัพท์เคลื่อนที่สมาร์ทโฟนสำหรับนักธุรกิจที่อยู่ในตระกูลคิวเวอร์ตี้ถึง 2 รุ่นประกอบไปด้วยโมโตคิว คิวไนน์ ในระบบ 3จี เอชเอสดีพีเอและรุ่น โมโต คิว จีเอสเอ็มสำหรับการเชื่อมต่อระบบจีเอสเอ็ม โดยทั้งสองรุ่นนี้คาดว่าจะวางจำหน่ายทั่วโลก ในช่วงครึ่งปีแรกของปี 2550
โมโตคิว คิวไนน์เป็นสมาร์ทโฟนที่โดดเด่นด้วยระบบปฏิบัติการ ไมโครซอฟท์ วินโดวส์ โมบายล์ เวอร์ชั่น 6 และเทคโนโลยีชั้นยอด Good Mobile Messaging ของโมโตโรล่า เพิ่มความสะดวก และง่ายดาย สำหรับทั้งการจัดการชีวิตส่วนตัว การรับส่งอีเมล์ทางธุรกิจ และสัมผัสประสบการณ์มัลติมีเดีย ในทุกเวลาที่ต้องการ อีกทั้งยังสามารถรับฟังเพลงและวีดีโอจากผู้จำหน่ายนับร้อยรายทั่วโลกได้อย่างง่ายดายด้วยโปรแกรม เพลย์ฟอร์ชัวร์ของวินโดวส์ โมบายล์ อีกทั้งตัวเครื่องรุ่นนี้ยังโดดเด่นด้วยความบางเฉียบ น้ำหนักเบา ในรูปแบบของสเคาเพิลที่มาพร้อมปุ่มกด 5 ทิศทางเพื่อความสะดวก และง่ายดายต่อการใช้งานทุกรูปแบบ นอกจากนั้น หน้าจอของรุ่นนี้ยังมีระบบปรับภาพหน้าจออัตโนมัติ เพื่อภาพอันคมชัดทั้งในเวลาอยู่กลางแจ้ง และในร่ม โดยรุ่นนี้มีกล้องดิจิตอลความละเอียดสูงถึง 2 ล้านพิกเซล และรองรับหน่วยความจำเพิ่มเติมภายนอก ที่ขยายได้ถึง 2 กิ๊กกะไบต์
ส่วนโมโต คิว จีเอสเอ็มยังคงไว้ด้วยฟังก์ชั่นอันมีประสิทธิภาพสูงสุด ในสไตล์สมาร์ทโฟนอันโดดเด่นของโมโตคิว แต่เพิ่มความสามารถในการรองรับเครือข่ายแบบ Quad-band GSM และการเชื่อมต่อผ่านเทคโนโลยีจีพีอาร์เอสและเอดจ์อีกทั้งยังเพิ่มความสะดวก และคล่องตัวในการใช้งาน ด้วยไมโครซอฟท์ วินโดวส์ โมบายล์ เวอร์ชั่น 6.0 พร้อมรองรับการใช้งานแบบมัลติมีเดีย และการรับส่งข้อมูลที่สมบูรณ์แบบมีกล้องดิจิตอลขนาด 1.3 ล้านพิกเซล และรองรับหน่วยความจำเพิ่มเติมภายนอกที่ขยายได้สูงถึง 1 กิ๊กะไบต์
เอียนยังได้กล่าวว่า โมโตโรล่ายังคงไว้ซึ่งความสำเร็จในการทำตลาดมือถือในระดับแมสมาร์เก็ตด้วยโทรศัพท์เคลื่อนที่ในกลุ่มที่เรียกว่า โมโตโมบาย ซึ่งได้มีการพัฒนาและปรับปรุงประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น โดยมีฟังก์ชั่นโดดเด่นมากมาย อาทิ กล้องดิจิตอลความละเอียดสูง ระบบสปีคเกอร์โฟน เครื่องเล่นไฟล์ดิจิตอลที่สามารถเล่นไฟล์ได้หลากหลายรูปแบบ ทั้งไฟล์วีดีโอ และเอ็มพี 3 รวมถึงเทคโนโลยีล่าสุดของโมโตโรล่า 'Crystal Talk ที่จะช่วยให้ทุกการสนทนาชัดเจนในทุกโอกาส แม้ขณะอยู่ในที่ที่มีเสียงรบกวนสูง
นอกจากนี้ โมโตโรล่ายังเปิดตัวโทรศัพท์มือถือรุ่น โมโตสลีฟเวอร์ แอล72 ที่รวมเอาฟังก์ชั่นมัลติมีเดียชั้นยอด ไว้ในรูปทรงแบบแคนดี้อันบางเฉียบในสไตล์ของตระกูลสลีฟเวอร์ มีกล้องดิจิตอลความละเอียดขนาด 2 ล้านพิกเซล ซูมได้ 8 ระดับ สามารถถ่ายได้ทั้งภาพนิ่ง และเคลื่อนไหว อีกทั้งยังให้ภาพสีสวยด้วยหน้าจอขนาดใหญ่ มีทั้งฟังก์ชั่นวิทยุเอฟเอ็มในตัว และเครื่องเล่นไฟล์ดิจิตอล ที่สามารถเล่นไฟล์ได้หลากหลายรูปแบบ รองรับการเชื่อมต่อผ่านระบบบูลทูธสเตอริโอ และสายยูเอสบีเคเบิ้ล สามารถขยายความจำในตัวเครื่องได้ถึง 2 กิ๊กะไบต์ด้วยหน่วยความจำแบบเพิ่มเติมภายนอก "รุ่นนี้จะวางจำหน่ายในช่วงครึ่งปีแรกของปี 2550"
เอีอนยังกล่าวอีกว่า โมโตโฟน เอฟ3 ถือเป็นอีกครั้งสำหรับความสำเร็จของโมโตโรล่าในฐานะผู้นำในการพัฒนานวัตกรรมมือถือของโลก ที่นำเสนอคำจำกัดความใหม่ของนวัตกรรมแห่งดีไซน์ล่าสุดมาพร้อมกับฟังก์ชั่นการใช้งานอันชาญฉลาด ในราคาที่ย่อมเยาว์ และง่ายต่อการใช้งาน เหมาะกับผู้ที่ต้องการความเรียบง่าย หรือผู้ที่ใช้โทรศัพท์มือถือเป็นเครื่องแรก
โดยโทรศัพท์มือถือรุ่นนี้ได้คว้ารางวัลสุดยอดโทรศัพท์มือถือราคาประหยัดจากงาน 3 จีเอสเอ็ม เวิลด์ คองเกรส ประจำปีนี้มาครองอีกด้วย เป็นผลมาจากการออกแบบผลิตภัณฑ์มือถือ ที่ง่ายต่อการใช้งาน และมีดีไซน์ตัวเครื่องที่ก้าวข้ามทุกข้อจำกัด ไม่ว่าจะเป็นเรื่องราคาหรือประสิทธิภาพที่ได้รับ
"โมโตโรล่า รู้สึกตื่นเต้นยิ่งนัก สำหรับการได้รับรางวัลสุดยอดโทรศัพท์มือถือราคาประหยัดที่ได้รับในครั้งนี้ และเชื่อว่า ผู้บริโภคทั่วโลกจะเพลิดเพลินไปกับเทคโนโลยี ซึ่งเป็นนวัตกรรมสุดพิเศษ ที่บรรจุอยู่ในโมโตโฟน เอฟ3 และเรารู้สึกยินดีอย่างยิ่งกับการได้รับรางวัลนี้ ซึ่งเป็นเสมือนการเป็นที่ยอมรับ ในฐานะผู้นำการพัฒนาผลิตภัณฑ์มือถือ ที่ถือเป็นการสร้างปรากฏครั้งใหม่ให้กับวงการธุรกิจมือถือในครั้งนี้ของเรา"
กลับสู่หน้าหลัก
 ผลงานนี้ ใช้สัญญาอนุญาตของครีเอทีฟคอมมอนส์แบบ แสดงที่มา-ไม่ใช้เพื่อการค้า-ไม่ดัดแปลง 3.0 ประเทศไทย
(cc) 2008 ASTVmanager Co., Ltd. Some Rights Reserved.
|