สยามไพร์เมอร์อาสาปลุกคิกเกอส์ รุกเพิ่มเคาน์เตอร์-เปิดตัวสินค้าผู้ชาย


ผู้จัดการรายวัน(1 มีนาคม 2550)



กลับสู่หน้าหลัก

นักชอป นิยมซื้อสินค้าแบรนด์เนม สวนกระแสเศรษฐกิจสบเซา “สยาม ไพร์เมอร์” สบช่อง ดึง รองเท้า “คิกเกอส์” สายเลือดฝรั่งเศส ยึดหัวหาด นำร่องในเซ็นทรัลกว่า 8 เคาน์เตอร์ มากว่า 3-4 เดือน ได้รับการตอบรับดีเกินคาด เตรียมเดินหน้าขยายสินค้าสำหรับชายหนุ่มเพิ่มอีก 1 ไลน์ พร้อมเพิ่มจำนวนเคาน์เตอร์สู่ 42 สาขาในสิ้นปีนี้ มั่นใจ 1 ปีแรก สร้างรายได้กว่า 29 ล้านบาท

นาย ลี เกียม เม้ง กรรมการผู้จัดการ บริษัท สยาม ไพร์เมอร์ จำกัด เปิดเผยว่า ถึงแม้ว่าสภาพเศรษฐกิจโดยรวมของประเทศอยู่ในสถานการณ์ทรงตัวก็ตาม แต่สำหรับสินค้าระดับพรีเมี่ยมแล้ว ยังไม่ได้รับผลกระทบแต่อย่างไร โดยเฉพาะสินค้าในกลุ่มรองเท้า ซึ่งถือว่ามีตลาดที่มีขนาดใหญ่ ยังคงมีการแข่งขันที่ดีอยู่ ขณะเดียวกันรองเท้าในกลุ่มพรีเมี่ยมที่จำหน่ายอยู่ในช่องทางโมเดิร์นเทรด โดยเฉพาะในห้างสรรพสินค้าชั้นนำต่างๆนั้น มีไม่ต่ำกว่า 20- 30 แบรนด์ ทั้งแบรนด์ในประเทศและต่างประเทศ ยังคงได้รับการตอบรับเป็นอย่างดี

จากโอกาสทางธุรกิจดังกล่าว ทำให้บริษัท ไลอ้อน ซิตี้ อินเตอร์เนชั่นแนล จำกัด ผู้นำเข้าและจัดจำหน่ายรองเท้า ภายใต้แบรนด์ “Crocodile”และ “LEVI’S” ได้ร่วมกับทาง “PRIMER INTERNATIONAL MANAGEMENT CORP” จัดตั้งบริษัท ขึ้นใหม่ ชื่อ บริษัท สยาม ไพร์เมอร์ จำกัด มาตั้งแต่เดือนกันยายน 2548 ทุนจดทะเบียน 4 ล้านบาท ในการจำหน่ายรองเท้าภายใต้แบรนด์ คิกเกอส์ “KICKERS”จากประเทศฝรั่งเศส รวมถึงแบรนด์อื่นๆในอนาคต

“การจัดจำหน่ายรองเท้าแบรนด์ คิกเกอส์ นี้ เนื่องจากมองเห็นโอกาสทางการตลาด ที่ยังไม่มีรายใดจำหน่ายรองเท้าลำลองที่สามารถสวใส่ได้ในหลายๆโอกาส ขณะเดียวกันมองว่าผู้บริโภคระดับบีบวกขึ้นไป ยังมีกำลังซื้อที่ดีอยู่”

ทั้งนี้ทางบริษัทฯได้เริ่มทดลองวางจำหน่ายสินค้ามาตั้งแต่เดือนพฤศจิกายน 2549 ที่ผ่านมา ในช่องทางจำหน่ายโมเดิร์นเทรด เฉพาะเซ็นทรัล โดยมีทั้งหมด 8 เคาน์เตอร์ แบ่งเป็น เด็ก 4 เคาน์เตอร์ และผู้หญิง 4 เคาน์เตอร์ ปรากฏว่าได้รับการตอบรับจากลูกค้าเป็นอย่างดี เฉลี่ยมีรายได้เป็นตัวเลข 6 หลัก ต่อสาขาในแต่ละเดือน

โดยแบรนด์ คิกเกอส์ มีราคาเฉลี่ยอยู่ที่ 1,850-4,550 บาท ต่อ 1 คู่ 1 ปีจะมีนำเข้ามาจำหน่าย 2 คอลเล็กชั่น โดยมีกลุ่มเป้าหมายหลักเป็นกลุ่มวัยรุ่น อายุตั้งแต่ 19 ปีขึ้นไป และกลุ่มวัยทำงาน ที่อยู่ในระดับบีบวกขึ้นไป

อีกทั้งทางบริษัทฯได้เตรียมแผนการดำเนินธุรกิจที่จะมีการขยายไลน์สินค้าสำหรับผู้ชายเพิ่มขึ้นอีกกว่า 6 เคาน์เตอร์ ตั้งแต่กลางปีนี้เป็นต้นไป รวมถึงเพิ่มเคาน์เตอร์ในกลุ่มสินค้าสำหรับเด็กอีก 1 สาขา รวมปีนี้จะเปิดให้ได้กว่า 16 สาขา และในปีหน้าคาดว่าที่จะเปิดให้ได้อย่างน้อย 42 สาขา ภายในห้างเซ็นทรัลเกือบทุกสาขา รวมถึงจะมีการเปิดในลักษณะสแตนอโลนต่อไป

ขณะเดียวกันในส่วนของการประชาสัมพันธ์นั้น ทางบริษัทฯได้เตรียมงบการตลาดไว้กว่าสำหรับการทำตลาดตลอดทั้งปี โดยจะเน้นในเรื่องของการจัดกิจกรรม และโฆษณาประชาสัมพันธ์ผ่านสื่อต่างๆ

อย่างไรก็ตาม บริษัทฯยังได้จัดจำหน่ายรองเท้า ภายใต้แบรนด์ แอลเอ เกียร์ “LA Gear” อีก 1 แบรนด์ ซึ่งมีลักษณะเป็นรองเท้าแนวสปอร์ต ทั้งนี้คาดว่าในอนาคตทางบริษัทฯจะทยอยนำเข้ารองเท้าแบรนด์เนมมากขึ้น โดยแต่ละแบรนด์ต้องมีความแข็งแกร่งของแบรนด์รวมถึงในเรื่องของคุณภาพและราคาด้วย

ดังนั้นในปีนี้บริษัทฯคาดว่าจะมีรายได้รวมอยู่ที่ประมาณ 40-50 ล้านบาท โดยมาจาก 2 แบรนด์หลัก คือ คิกเกอส์ 70 % มูลค่าประมาณ 29 ล้านบาท และอีก 30% มาจาก แอลเอ เกียร์


กลับสู่หน้าหลัก

Creative Commons License
ผลงานนี้ ใช้สัญญาอนุญาตของครีเอทีฟคอมมอนส์แบบ แสดงที่มา-ไม่ใช้เพื่อการค้า-ไม่ดัดแปลง 3.0 ประเทศไทย



(cc) 2008 ASTVmanager Co., Ltd. Some Rights Reserved.