กิตติพัฒน์เตรียมอุทธรณ์ ตลท.เชื่อหลักฐานฟังไม่ขึ้น


ผู้จัดการรายวัน(28 กุมภาพันธ์ 2546)



กลับสู่หน้าหลัก

กิตติพัฒน์ ยังดื้อตาใสเตรียมยื่นอุทธรณ์มติบอร์ดตลาดขึ้นบัญชีดำ 10 ปี หลังผลประชุม ผู้ถือหุ้น ยืนยันเข้าร่วมประชุมวันนี้ เพื่อชี้แจงข้อมูลผู้ถือหุ้น ด้านตลาด หลักทรัพย์ เผยยื่นอุทธรณ์ได้ภายใน 15 วัน เชื่อหลักฐานมัดความผิดชัด เหตุผลที่เอามาอ้างฟังไม่ขึ้น

นายกิตติพัฒน์ เยาวพฤกษ์ ประธานกรรมการบริษัทรอยเนท จำกัด (มหาชน) หรือ ROYNET เปิดเผยว่า ตนเองจะยื่นอุทธรณ์ในเร็วๆ นี้ ภายหลังจากการที่คณะกรรมการ(บอร์ด)ตลาดหลักทรัพย์มีมติให้ใส่ชื่อตนเองในบัญชีรายชื่อบุคคลที่ตลาดหลักทรัพย์เห็นว่าไม่สมควรเป็นผู้บริหารเป็นเวลา 10 ปี

โดยวันนี้ (28 ก.พ.46) ตนเองยังคงยืนยันที่จะเข้าร่วมการประชุม ผู้ถือหุ้น ในฐานะประธานของการประชุม และขณะนี้ตนเองก็ได้รับการมอบฉันทะในการเข้าร่วมประชุมจากผู้ถือหุ้นที่มีความใกล้ชิดบางคนแล้ว แต่ไม่ใช่การรับมอบฉันทะจากผู้ถือหุ้น ในต่างจังหวัด ตามที่มีผู้ถือหุ้นบางกลุ่ม กล่าวหาแต่อย่างใด

ดังนั้น ในการประชุมผู้ถือหุ้นวันนี้ตนเองจะนำเอกสารหลักฐานทุกอย่างเข้าชี้แจงเพื่อให้ผู้ถือหุ้นเข้าใจสิ่งที่เกิดขึ้น รวมถึงชี้แจงแผนการดำเนินของบริษัทในอนาคต

รอผลประชุมผู้ถือหุ้น

ด้านนายธานี ศรีสำราญ หัวหน้ากฎหมายธุรกิจ ในฐานะทนายความของบริษัทรอยเนท กล่าวว่า การยื่นอุทธรณ์ของนายกิตติพัฒน์ จากการที่ตลาดหลักทรัพย์สั่งขึ้นบัญชีดำไม่ให้นายกิตติพัฒน์เป็นผู้บริหารในระยะเวลา 10 ปีนั้น คงต้องรอผลการประชุมผู้ถือหุ้นในวันนี้ก่อนว่าจะเป็นอย่างไร ถึง จะชี้ชัดได้ แต่คาดว่านายกิตติพัฒน์เองคงจะเสนอเรื่องในการยื่นอุทธรณ์กับทางตลาดหลักทรัพย์อย่างแน่นอน

อย่างไรก็ดีการขึ้นบัญชีดำของตลาดหลักทรัพย์ คงไม่มีผลต่อการเข้าร่วมประชุมผู้ถือหุ้น ในวันนี้อย่าง แน่นอน เพราะตามกฎหมายนายกิตติพัฒน์ สามารถเข้าร่วมประชุมในฐานะกรรมการผู้บริหารได้ตามปกติ เนื่องจากได้ขออนุญาตในการเปิดการประชุมในวันนี้ แต่การเข้าร่วมประชุมนายกิตติพัฒน์ อาจไม่มีอำนาจในการออกเสียง แต่หากผู้ถือหุ้นรายย่อยมอบฉันทะให้กับนายกิตติพัฒน์ก็มีสิทธิที่จะออกเสียงแทนผู้ถือหุ้นที่มอบฉันทะได้
มั่นใจหลักฐานมัดอุทธรณ์ไม่ขึ้น

นางสาวโสภาวดี เลิศมนัสชัย ประธานกรรมการศูนย์ระดมทุน ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย เปิดเผยว่า นายกิตติพัฒน์ เยาวพฤกษ์ มีสิทธิ์ที่จะยื่นอุทธรณ์ต่อคณะกรรมการ(บอร์ด) ตลาดหลักทรัพย์ หลังจากบอร์ดตลาดหลักทรัพย์มีมติให้ใส่ชื่อไปในบัญชีรายชื่อบุคคลที่ตลาดหลัก ทรัพย์เห็นว่าไม่สมควรเป็นผู้บริหาร หรือกรรมการ บริษัทรอยเนทและบริษัทจดทะเบียนเป็นเวลา 10 ปี ภายในระยะเวลา 15 วันโดยบอร์ดตลาดหลักทรัพย์จะพิจารณาไม่เกินระยะเวลา 30 วัน

อย่างไรก็ดี หากพิจารณาจากเนื้อหาความผิด ซึ่งหน่วยงานทางการได้กล่าวโทษนายกิตติพัฒน์แล้วนั้น เข้าข่ายมีความผิดจริงเพราะความผิดที่เกิดขึ้นเกี่ยวข้องกับ พ.ร.บ.หลักทรัพย์ชัดเจน ซึ่งอาจจะกระทบกับผู้ถือหุ้นและเมื่อดูจากเหตุผลแล้วข้ออ้างก็ไม่น่าจะฟังขึ้น

ทั้งนี้ หากนายกิตติพัฒน์ไม่ยื่นอุทธรณ์ภายในระยะเวลาที่กำหนด ตลาดหลักทรัพย์ก็สามารถ ใช้มาตรา 172 ตาม พรบ.หลักทรัพย์ เพื่อให้บริษัทถอดถอนชื่อออกจากการเป็นกรรมการบริษัท

สำหรับการประชุมผู้ถือหุ้นของบริษัทรอยเนทในวันนี้(28 ก.พ.) นายกิตติพัฒน์ สามารถเข้าร่วมประชุมได้ เพราะยังอยู่ในฐานะกรรมการบริษัท แต่จะสามารถใช้สิทธิ์ออกเสียงได้หรือไม่ ขึ้นอยู่กับนายกิตติพัฒน์ได้รับมอบฉันทะจากผู้ถือหุ้นในการโหวตเสียงหรือไม่ แต่อย่างไรก็ดี ตลาดหลักทรัพย์ไม่สามารถตรวจสอบได้ว่านายกิตติพัฒน์ได้รับมอบฉันทะจากผู้ถือหุ้นจำนวนเท่าไร

"เท่าที่มีเคสเปิดเผยการขึ้นบัญชีดำนายกิตติพัฒน์ในระยะเวลา 10 ปี ถือว่าหนักสุด โดยเป็นระยะเวลาที่สูงสุดตามเกณฑ์ จากความผิดที่เกิดขึ้นในหลายกระทง และการดำเนินการค่อนข้างรวดเร็ว เพราะเหตุการณ์มีความต่อเนื่อง และเพื่อให้ผู้ถือหุ้นสามารถนำไปประกอบการตัดสินใจ ในประชุมผู้ถือหุ้น" นางโสภาวดีกล่าว

ด้านนางศรัณยา จินดาวณิค ผู้อำนวยการ สำนักเลขาธิการ สำนักงาน ก.ล.ต. เปิดเผยว่า การกล่าวโทษนายกิตติพัฒน์ ของ ก.ล.ต. ต่อสำนักงานสอบสวนสืบสวนคดีเศรษฐกิจ (สศก.) เป็นไปตามกระบวนการยุติธรรม ซึ่งตามกระบวนการยุติธรรมนายกิตติพัฒน์สามารถแก้ต่างได้ แต่ไม่สามารถอุทธรณ์เพราะใช่คำสั่งทางปกครอง

อย่างไรก็ดี การกล่าวโทษของ ก.ล.ต. และการขึ้นบัญชีดำของตลาดหลักทรัพย์ โดยห้ามไม่ให้นายกิตติพัฒน์ เป็นผู้บริหารในระยะ 10 ปี นั้น ไม่ถือเป็นอำนาจเพื่อสั่งปลดผู้บริหาร การปลดผู้บริหารบริษัทจดทะเบียนเป็นอำนาจของผู้ถือหุ้น แต่การที่บริษัทจดทะเบียนยังคงมีผู้บริหารถูกขึ้นแบล็คลิส ก็จะเข้าข่ายถูกเพิกถอนออกจากตลาด หลักทรัพย์ในอนาคต ดังนั้น หากบริษัทยังอยากจดทะเบียนอยู่ในตลาดหลักทรัพย์ ผู้ถือหุ้นก็ต้องปลดผู้บริหารออกจากตำแหน่ง

อนึ่งก่อนหน้านี้ บอร์ดตลาดหลักทรัพย์มีมติให้ใส่ชื่อนายกิตติพัฒน์ เยาวพฤกษ์ ในบัญชีรายชื่อบุคคลที่ตลาดหลักทรัพย์เห็นว่าไม่สมควรเป็นผู้บริหารเป็นเวลา 10 ปีซึ่งเป็นระยะเวลาสูงสุดตามที่กำหนดไว้ในข้อบังคับของตลาดหลักทรัพย์ ว่าด้วยบัญชีรายชื่อบุคคลที่ตลาดหลักทรัพย์ เห็นว่าไม่สมควรเป็นผู้บริหาร พ.ศ. 2544 ซึ่งจะมีผลให้นายกิตติพัฒน์ไม่สามารถทำหน้าที่กรรมการผู้จัดการ หรือผู้บริหารในบมจ.รอยเนทได้ และยังไม่สามารถดำรงตำแหน่ง กรรมการ หรือผู้บริหารของบริษัทจดทะเบียนอื่นๆ เป็นเวลา 10 ปี นับแต่วันที่ 24 กุมภาพันธ์ 2546 ถึงวันที่ 23 กุมภาพันธ์ 2556



กลับสู่หน้าหลัก

Creative Commons License
ผลงานนี้ ใช้สัญญาอนุญาตของครีเอทีฟคอมมอนส์แบบ แสดงที่มา-ไม่ใช้เพื่อการค้า-ไม่ดัดแปลง 3.0 ประเทศไทย



(cc) 2008 ASTVmanager Co., Ltd. Some Rights Reserved.