Leadership และ Hesselbein on Leadership


นิตยสารผู้จัดการ( มีนาคม 2546)



กลับสู่หน้าหลัก

ชื่อหนังสือ : Hesselbein on Leadership
ผู้แต่ง : Frances Hesselbein
สำนักพิมพ์ : Jossey-Bass
จำนวนหน้า : 152
ราคา : 17.95 ดอลลาร์สหรัฐ

สองเล่มสองรสว่าด้วยความเป็นผู้นำ

หลังจากเป็นนายกเทศมนตรีมหานคร New York City มา 2 สมัย เป็นอัยการรัฐมา 5 ปี และอยู่ในกระทรวงยุติธรรมอีก 2 สมัย Rudolph Giuliani รู้ดีว่าจะเป็นผู้นำต้องทำอย่างไร แต่ความเป็นผู้นำของเขาต้องถูกทดสอบครั้งใหญ่เมื่อเมืองในความดูแล ของเขากลายเป็นเป้าหมายการก่อการร้ายครั้งร้ายแรงที่สุดในประวัติ ศาสตร์ การเผชิญหน้ากับหายนะภัยครั้งใหญ่ครั้งนี้อย่างกล้าหาญ และทุ่มเทชีวิตจิตใจเพื่อช่วยเหลือชาวเมืองของเขา ทำให้ Giuliani ได้รับเกียรติเป็นบุคคลแห่งปี 2001 ของนิตยสาร Time และทำให้ เขากลายเป็นแบบอย่างของผู้นำ ผู้สามารถยืนหยัดอดทนและนำพา ผู้อื่นฝ่าพ้นวิกฤติการณ์ความทุกข์ยากอย่างแสนสาหัสมาได้สำเร็จ

ใน Leadership Giuliani เล่าถึงหลักการและกลยุทธ์การ เป็นผู้นำของเขาผ่านเรื่องราวในชีวิตจริงแห่งการเป็นผู้นำของเขา ทั้งช่วงก่อนและหลังเหตุการณ์ 11 กันยายน พร้อมบอกถึงผลลัพธ์ ที่ผู้นำจะได้รับจากความสามารถในการนำของเขา มีข้อเท็จจริงอยู่อันหนึ่งที่อาจยืนยันความสำเร็จของ Giuliani ได้อย่างชัดเจน นั่นคือ การที่สถิติฆาตกรรมในกรุง New York City ลดลงถึง 67% ในสมัยที่เขาเป็นพ่อเมือง

Giuliani อธิบายถึงความสำคัญของวิธีคิดอย่างสมดุลและการนำประสบการณ์ส่วนตัวมาใช้ในยามเผชิญหน้ากับปัญหา เขายังเปิดเผยว่าความคิด พลัง ความแข็งแกร่ง และความกล้าหาญ ของเขา ซึ่งช่วยให้เขาสามารถนำพาชาวเมือง New York ผ่านพ้น โศกนาฏกรรม 11 กันยามาได้นั้น มีแหล่งที่มาอย่างไร Leadership เริ่มต้นด้วยการบรรยายถึงเหตุการณ์วันที่ 11 กันยาอย่างละเอียด และจบด้วยการเล่าถึงวิธีการต่างๆ ที่เขานำมาใช้ช่วยมหานครแห่งนี้ ให้ฟื้นตัวขึ้นจากความเศร้าสลดและเจ็บปวดแสนสาหัสได้อย่างรวดเร็ว ซึ่งทำให้เราได้เรียนรู้ถึงทักษะความเป็นผู้นำของ Giuliani

ความ "เป็น" ผู้นำ

ผู้นำที่ได้รับการยกย่องอย่างสูงอีกคนคือ Frances Hesselbein กรรมการผู้จัดการผู้ก่อตั้งและอดีตประธานหญิงของ Drucker Foundation Hesselbein เคยเป็น CEO ของ Girl Scouts of the USA ในช่วงเวลาที่องค์กรแห่งนี้กำลังนับถอยหลังไปสู่จุดจบ และสามารถกู้สถานการณ์พลิกฟื้นองค์กรดังกล่าวได้สำเร็จ เมื่อถูกถามว่าเธอทำได้อย่างไร Hesselbein ตอบว่า เธอไม่ได้ "ทำ" แต่เธอ "เป็น" ผู้นำ

สำหรับ Hesselbein ความเป็นผู้นำคือการรู้วิธีที่จะ "เป็น" ผู้นำ ไม่ใช่รู้ว่าผู้นำต้อง "ทำ" อะไร เธอเห็นว่าผู้นำที่ประสบความ สำเร็จทั้งในวันนี้และวันพรุ่งนี้ คือผู้ที่รู้ว่าจะ "เป็น" ผู้นำได้อย่างไร ผู้นำประเภทนี้จะรู้ว่า คน คือสินทรัพย์ที่ทรงค่าที่สุดขององค์กร และจะต้องแสดงปรัชญานี้ให้เป็นที่ประจักษ์แก่คนทั้งหลายทั้งด้วยคำพูด การกระทำ และการสร้างความสัมพันธ์

เธออธิบายต่อไปว่า ผู้นำที่รู้ว่าจะ "เป็น" ผู้นำได้อย่างไร คือผู้ที่ชูวิสัยทัศน์ขององค์กรให้ทุกคนได้เห็นชัด และสามารถจูงใจ ให้คนในองค์กรระดมสรรพกำลังเพื่อปฏิบัติภารกิจขององค์กรให้ลุล่วง นอกจากนี้ ผู้นำที่รู้วิธี "เป็น" ผู้นำจะรู้ว่า การรับฟังลูกค้าและเรียนรู้ว่าคุณค่าใดที่ลูกค้าให้ความสำคัญ คือกุญแจสำคัญที่จะนำพาองค์กรให้เจริญเติบโตทั้งในปัจจุบันและอนาคต

สไตล์การเขียนที่แตกต่าง

ในขณะที่หนังสือของ Giuliani จะเน้นเล่าประสบการณ์ส่วนตัว ซึ่งเป็นเหตุการณ์ที่ท้าทายให้เขาได้สำแดงความเป็นผู้นำในตัวออกมา จึงทำให้หนังสือเล่มนี้เป็นทั้งชีวประวัติและคู่มือการเป็นผู้นำไปพร้อมๆ กัน แต่หนังสือของ Hesselbein กลับพูดถึงเรื่องส่วนตัวของเธอน้อยมาก Hesselbein จะเจาะจงกล่าวถึงแต่ทักษะต่างๆ ที่ผู้นำจะต้องมีอย่างไม่อ้อมค้อม ซึ่งเป็นสิ่งที่เธอได้กลั่นกรองมาจากประสบการณ์ไม่ต่างไปจาก Giuliani

นอกจากนี้ Hesselbein ยังได้ประเมินความคิดของตัวเธอเอง ที่ได้แสดงไว้ในหนังสือเล่มนี้ หากนำมาใช้กับเหตุการณ์วันที่ 11 กันยาด้วย และเธอก็ได้ข้อสรุปที่ไม่ต่างไปจาก Giuliana กล่าวคือ สิ่งที่สำคัญที่สุดในการเป็นผู้นำคือ คุณค่า หลักการและ ความเชื่อที่เรายึดถือ ซึ่งจะเป็นตัวกำหนดความเป็นตัวเรา กำหนดความคิด ความเชื่อ การกระทำ และวิธีที่เราปฏิบัติและทำงานร่วมกับผู้อื่น



กลับสู่หน้าหลัก

Creative Commons License
ผลงานนี้ ใช้สัญญาอนุญาตของครีเอทีฟคอมมอนส์แบบ แสดงที่มา-ไม่ใช้เพื่อการค้า-ไม่ดัดแปลง 3.0 ประเทศไทย



(cc) 2008 ASTVmanager Co., Ltd. Some Rights Reserved.