ระหว่างที่รอผลการตัดสินใจของ จอร์จ ดับเบิลยู บุช ว่าจะทำสงครามกับอิรัก
หรือไม่นั้น พลันเกิดอาการเหนื่อยหน่าย ถึงขั้นต้องเอาหูไปนาเอาตาไปไร่กับสถานการณ์
โลกอย่างช่วยไม่ได้ ขณะเดียวกันก็พยายามหาเรื่องสนุกๆ มาเล่าให้แฟน "ผู้จัดการ"
คลายเครียดกัน...Across the Pacific ฉบับนี้ ขอเล่าเรื่องราวความเป็นมาของห้างเฟอร์
นิเจอร์ชื่อดังสัญชาติสวีเดนนามว่า IKEA
เมื่อ 77 ปีก่อนเด็กชาย Ingvar Kamprad ได้ลืมตาดูโลก ณ เมือง Smaland
ทางตอนใต้ของสวีเดน เขาได้รับการเลี้ยงดูและเติบโตอยู่ในฟาร์มที่ชื่อว่า
Elmtaryd ใกล้ๆ กับหมู่บ้าน Agunnaryd เด็กชาย Ingvar เริ่มรู้จักทำการค้าขายมาตั้งแต่เด็กๆ
เขาค้นพบว่าหากเขาซื้อไม้ขีดไฟจำนวนมากๆ เป็นกุรุดจาก Stockholm แล้วนำมาแบ่งขายในราคาถูกก็ยังคงสร้างกำไรได้ไม่น้อย
ธุรกิจของเขาจึงเริ่มต้นจากการปั่นจักรยานขายไม้ขีดไฟให้กับเพื่อนบ้านในละแวกเดียวกัน
จากไม้ขีดไฟ Ingvar เริ่มขยายธุรกิจน้อยๆ ของเขาไปสู่การขายปลา ขายเครื่องประดับประดาต้นคริสต์มาส
ขายเมล็ดพันธุ์ผักผลไม้ ไปจนถึงเครื่องเขียนจำพวกดินสอและปากกาลูกลื่น...
หลังจากสำเร็จการศึกษา Ingvar ได้รับรางวัลจากบิดาของเขาเป็นเงินทุนก้อนหนึ่ง
เขาใช้เงินก้อนนั้นสร้างและขยายกิจการโชวห่วยเล็กๆ ของเขา...ด้วยวัยเพียง
17 ปี เขามีร้านค้าเป็นของตัวเอง โดยใช้ชื่อว่า IKEA ตัวอักษร 4 ตัวเรียงกันออกเสียงว่า
"ไอเคีย" หลายคนอาจจะพยายามเปิดดิกชันนารีเพื่อหาความหมายของคำคำนี้ แต่ต้องพบกับความผิดหวัง...เนื่องจากตัวอักษร
I และ K มาจากชื่อและนามสกุลของเขา ส่วนอักษร E และ A มาจากชื่อท้องทุ่งและหมู่บ้านที่เขาเติบโตมานั่นเอง
IKEA ดั้งเดิมเป็นเพียงร้านโชวห่วย ขายของเบ็ดเตล็ดตั้งแต่ดินสอ ปากกา
นาฬิกา กระเป๋าสตางค์ กรอบรูป เครื่องประดับ ไปจนถึงถุงน่องไนลอน Ingvar
ขายทุกอย่างด้วยราคามิตรภาพ...ธุรกิจเริ่มเติบโตด้วยดี
Ingvar เริ่มทำการตลาดมีการลงโฆษณาสินค้าในหนังสือพิมพ์ท้องถิ่น รวมทั้งการสั่งแคตตาล็อกทางไปรษณีย์
เขาใช้วิธีกระจายสินค้าผ่านทางรถขนส่งนมที่ไปส่งของให้ตามสถานีรถไฟใกล้ๆ
และตั้งแต่นั้นชื่อเสียงและผลิตภัณฑ์ของเขาเริ่มเป็นที่รู้จักในวงกว้าง
ในปี ค.ศ.1947 IKEA เริ่มจำหน่ายสินค้าเฟอร์นิเจอร์เป็นครั้งแรก โดยเฟอร์นิเจอร์
ทั้งหมดผลิตจากโรงงานในท้องถิ่นใกล้บ้านเกิดของเขา และเป็นไปตามคาด เฟอร์นิเจอร์
IKEA ได้รับการตอบรับอย่างดี ยอดขายเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็ว
IKEA เริ่มขยายไปสู่ธุรกิจเฟอร์นิเจอร์อย่างเต็มตัวในปี ค.ศ.1951 จนกลายมาเป็น
IKEA ในปัจจุบัน...IKEA เปิดตัวแห่งแรกอย่างเป็นทางการ ณ เมือง Almhult ในปี
ค.ศ.1958 ด้วยพื้นที่ 6,800 ตารางเมตร ซึ่งในเวลานั้นถือว่าเป็นห้างเฟอร์นิเจอร์ที่ใหญ่ที่สุดในแถบสแกนดิเนเวีย
จากนั้นธุรกิจ IKEA เริ่มพุ่งทะยาน ขยายสาขาเพิ่มในนอร์เวย์และเดนมาร์ก
ต่อมาในปี ค.ศ.1973 เป็นครั้งแรกที่ IKEA ขยาย ออกนอกกลุ่มสแกนดิเนเวีย โดยเปิดสาขาแรก
ที่นอกเมือง Zurich ประเทศสวิตเซอร์แลนด์
ปีถัดมาได้เปิดสาขาแรกในเมือง Munich ประเทศเยอรมนี ซึ่งปัจจุบันกลายเป็น
ตลาดที่ใหญ่ที่สุดของ IKEA ในเวลาเกือบ 30 ปี IKEA เทกโอเวอร์ห้างเฟอร์นิเจอร์ในแถบยุโรป
กลายเป็นที่นิยมอย่างมากของชาวยุโรป
จนกระทั่งในปี ค.ศ.1985 IKEA ปรากฏตัวครั้งแรกในสหรัฐอเมริกา ในเบื้องต้นทีมผู้บริหารของ
IKEA ไม่มั่นใจนักว่าตลาดอเมริกาจำเป็นต้องมีห้างอย่าง IKEA หรือไม่ เนื่องจากในอเมริกามีสินค้าทุกอย่างที่คนต้องการ
(และไม่ต้องการ) แต่หลังจากที่ทำการสำรวจความต้องการของผู้บริโภคที่แท้จริง
ประกอบกับทิศทางการทำธุรกิจในอเมริกา ซึ่งไม่ง่ายนัก...ทีมงาน IKEA พบช่องทางการจู่โจมตลาดเฟอร์นิเจอร์ในอเมริกาด้วยสโลแกน
"Democratic Design" ประกอบด้วยจุดขายเพียง 3 จุดเด่น คือ "ประโยชน์ใช้สอย"
"ดีไซน์ที่ดึงดูด" และ "ราคาที่ทุกคนสามารถเป็นเจ้าของได้"
จากคำที่ว่า "คุณภาพสินค้าเป็นไปตามราคา" นั้นใช้ไม่ได้ที่ IKEA เพราะจากประสบการณ์ตรง
IKEA เป็นแห่งเดียวที่จำหน่ายสินค้าคุณภาพสูงในราคาประหยัดคุ้มค่าเงิน เมื่อเทียบกับร้านเฟอร์นิเจอร์อื่นๆ
หลายแห่งในอเมริกาที่ราคากับคุณภาพไม่สัมพันธ์กัน "ราคา" จึงกลายเป็นสงครามระหว่าง
IKEA กับคู่แข่ง ถึงขั้นบรรดาซัปพลาย เออร์ประกาศยกเลิกส่งสินค้าให้กับ IKEA
เพื่อเป็นการตัดปัญหา IKEA จึงมี นโยบายออกแบบสินค้าภายใต้ชื่อ IKEA เอง
ถึงแม้ผลิตภัณฑ์ของ IKEA จะเป็น "Mass Products" แต่ทุกชิ้นมีสไตล์การออกแบบที่โดดเด่นเฉพาะตัว
แต่ละดีไซน์เน้นที่คุณภาพและศักยภาพการใช้สอยในแต่ละโอกาส รวม ทั้งประหยัดพื้นที่และลดค่าใช้จ่ายในการขนส่ง
ดังนั้น สินค้าของ IKEA จะเป็นระบบ Knockdown บรรจุอยู่ในกล่องแบนราบเป็นส่วนใหญ่
ลูกค้าสามารถขนกลับบ้านได้อย่างสะดวก โดยไม่ต้องเสียค่าขนส่งให้สิ้นเปลือง
จากระบบการออกแบบเช่นนี้เองที่เพิ่ม ความท้าทายให้แก่ลูกค้า เนื่องจากลูกค้าจะต้องเป็นผู้ประกอบสินค้าแต่ละชิ้นเอง
ฉะนั้นลูกค้ากลุ่มนี้หรูหรือไม่หรู แต่ต้องลุย ส่วนพวกที่รักความหรู สะดวกสบาย
แต่ไม่ลุย อาจต้องจ้างคนอื่นทำแทน...
ใช้เวลากว่า 40 ปี ปัจจุบัน IKEA มีสาขาและแฟรนไชส์ทั้งหมด 175 สาขา ใน
31 ประเทศทั่วโลก และมีซัปพลายเออร์มาก ถึง 1,800 แห่งทั้งในยุโรปและเอเชีย
และเป็นที่น่ายินดีที่คุณภาพการผลิตสินค้าของประเทศไทยได้รับการยอมรับจาก
IKEA ดังเห็นได้จากผลิตภัณฑ์หลายตัวที่มีป้าย "Made in Thailand"
หากมีโอกาสไปเที่ยวใกล้ๆ บ้านเราในแถบเอเชียด้วยกันเองอย่างเมืองจีน ฮ่องกง
สิงคโปร์ ไต้หวัน หรือมาเลเซีย ลองแวะเข้า ไปเยี่ยมชม IKEA ได้ แต่ไม่แนะนำให้ซื้อกลับ
มาให้ทุลักทุเล เพราะนอกจากจะผิดนโยบายของ IKEA ที่ต้องการประหยัดค่าขนส่งแล้ว
ในเมืองไทยเองยังมีร้านเฟอร์นิเจอร์ หรือของตกแต่งบ้านมากมายให้เลือกซื้อได้ในทุกระดับ