สยามฯอับงบ 200 ล. ปลุกกำลังซื้อ โชว์ไฮเทคบอกรักกลางกรุงดึงคน


ผู้จัดการรายวัน(7 กุมภาพันธ์ 2550)



กลับสู่หน้าหลัก

สยามพิวรรธน์อัดงบตลาดปีนี้ 200 ล้าน ปลุกกิจกรรมทั้งปี หวังกระตุ้นการจับจ่าย แยกการทำตลาดออกจากกันระหว่าง สยามเซ็นเตอร์และสยามดิสคัฟเวอรี่เซ็นเตอร์ มั่นใจคนเดินเข้าศูนย์เพิ่ม 20% เผยไฮไลท์กิจกรรมใหญ่ ดึง ดาราดังเกาหลี “คิมเรวอน” มาร่วมกิจกรรม

นางชฎาทิพย์ จูตระกูล กรรมการผู้จัดการ บริษัท สยามพิวรรธน์ จำกัด ผู้บริหารศูนย์การค้าสยามเซ็นเตอร์และสยามดิสคัฟเวอรี่เซ็นเตอร์ เปิดเผยว่า บริษัทฯ มีแผนที่จะพัฒนาโครงการใหม่อีก 1 แห่ง ซึ่งขณะนี้อยู่ระหว่างการเจรจาทางด้านที่ดินประมาณ 2-3 แห่งใจกลางเมือง ส่วนรายละเอียดนั้นยังไม่สามารถเปิดเผยได้ แต่ก็จะเป็นการพัฒนาในสิ่งที่บริษัทฯ ไม่เคยทำมาก่อน

อย่างไรก็ตามคงต้องใช้ระยะเวลาอีกนาน เนื่องจากการเจรจานั้นบางครั้งก็สามารถตกลงได้ บางครั้งก็ไม่สามารถตกลงได้ ส่วนพื้นที่บริเวณโครงการสวนลุมไนท์บาซ่าร์เดิมนั้น บริษัทฯ ไม่ได้สนใจแล้ว ส่วนโครงการเก่าที่เปิดดำเนินการอยู่นั้น ในส่วนของสยามเซ็นเตอร์ ได้รีโนเวทเสร็จเรียบร้อยแล้วเมื่อปีที่แล้ว ขณะที่ศูนย์การค้าสยามดิสคัฟเวอรี่เซ็นเตอร์นั้น ในปีนี้ก็อยู่ระหว่างการรีโนเวทคาดว่าจะเสร็จปลายปีนี้ทั้งหมด ทั้งสองศูนย์ฯ นี้มีผู้เช่าร้านค้าเต็มหมดแล้ว ขณะเดียวกันก็มีรายชื่อร้านค้าที่รออยู่อีกหลายรายด้วย

ในปีนี้บริษัทฯ ตั้งงบประมาณการตลาดไว้ประมาณ 200 ล้านบาท เพื่อใช้ในการจัดกิจกรรมการตลาดทั้งปีของศูนย์การค้าสยามเซ็นเตอร์และศูนย์การค้าสยามดิสคัฟเวอรี่เซ็นเตอร์ ซึ่งเป็นงบประมาณที่มากกว่าปีที่แล้วที่ใช้ประมาณ 150 ล้านบาท โดยปีนี้จะมีการแยกทำตลาดของทั้งสองศูนย์ฯ ออกจากกันอย่างชัดเจน แต่จะมีบางกิจกรรมเน้นที่จัดทำร่วมกัน

เนื่องจากศูนย์การค้าสยามเซ็นเตอร์จะจับกลุ่มเป้าหมายวัยรุ่นถึงวัยทำงานอายุ 12-28 ปี ส่วนสยามดิสคัฟเวอรี่เซ็นเตอร์จะจับกลุ่มเป้าหมายคนทำงานอินเทรนด์และกลุ่มครอบครัวที่มีกำลังซื้อ โดยกิจกรรมที่จัดนั้นจะมี 3 ประเภทหลักๆ คือ 1.กิจกรรมอีเว้นท์ ใช้งบประมาณ 40% จากทั้งหมด ซึ่งปีนี้จะมีรวมมากกว่า 250 อีเว้นท์ จะเป็นในลักษณะเชิงลึกสำหรับลูกค้าเฉพาะกลุ่มและอีเว้นท์เชิงกว้างเพื่อขยายฐานลูกค้าใหม่

2.กิจกรรมโปรโมชัน ลดราคาสินค้า ใช้งบประมาณ 40% จากทั้งหมด ซึ่งจะทำเป็นเซลล์แบ่งกลุ่มสินค้า เช่นที่ผ่านมาทำการลดราคาสินค้ากลุ่มแฟชั่น ต่อไปอาจจะเป็นกลุ่มเครื่องสำอาง กีฬา ของแต่งบ้าน เป็นต้น และ 3.กิจกรรมแบบซีอาร์เอ็ม ใช้งบประมาณ 20% จากทั้งหมด ซึ่งจะมีการทำซีอาร์เอ็มแยกกลุ่มเป้าหมายทั้งเด็ก ผู้ใหญ่ เช่น กิจกรรมร่วมทำกิจกรรมกับดาราเกาหลีชื่อดัง คิมเรวอน จากละครเรื่องกฎหมายรักฉบับฮาร์วาร์ด

ทั้งนี้คาดว่าการจัดกิจกรรมทั้งปี จะสามารถเพิ่มฐานลูกค้าเข้ามาเดินในศูนย์ฯ ทั้งสองแห่งได้ประมาณ 20% จากปัจจุบันที่มีคนเดินเข้าศูนย์สยามเซ็นเตอร์ประมาณ 1- 1.2 แสนคนโดยเฉลี่ยต่อสัปดาห์ และศูนย์การค้าสยามดิสคัฟเวอรี่เซ็นเตอร์ ประมาณ 7.5-8 หมื่นคนโดยเฉลี่ยต่อสัปดาห์ โดยแบ่งเป็นนักท่องเที่ยวต่างชาติประมาณ 30-35%

อย่างไรก็ตามในช่วงต้นปีหลังจากที่เกิดเหตุการณ์ระเบิดในกรุงเทพฯหลายจุดนั้น ส่งผลกระทบต่อยอดลูกค้าที่เดินเข้าศูนย์น้อยลงเหมือนกันในช่วงสองสัปดาห์แรก แต่หลังจากนั้นก็เข้าสู่ภาวะปรกติ เนื่องมาจากบริษัทฯได้สร้างความมั่นใจให้กับร้านค้าในศูนย์ฯและผู้ที่มาเดินศูนย์ฯในเรื่องของความปลอดภัยเต็มที่

“ปัจจัยลบจากนี้ คิดว่าไม่น่าจะมีอะไรมาก แต่เราอยู่ในช่วงของการเปลี่ยนแปลงตั้งแต่เดือนกันยายนปีที่แล้ว คงต้องให้เวลากับรัฐบาลใหม่ชุดนี้ในการแก้ไขปัญหาบ้านเมืองและเศรษฐกิจ ส่วนเราในฐานะที่เป็นศูนย์กลางของความสนุกสนาน แฟชั่น บันเทิง ก็ต้องจัดกิจกรรมและหากลยุทธ์ในการกระตุ้นอารมณ์จับจ่ายชอปปิ้งของผู้บริโภคตลอดเวลา” นางชฎาทิพย์กล่าว

ในปีนี้บริษัทฯ มั่นใจว่าผลประกอบการจะมีอัตราการเติบโตประมาณ 10% ซึ่งส่วนใหญ่จะเติบโตมาจากรายได้พื้นที่ให้เช่ากิจกรรมและพื้นที่โฆษณา ซึ่งคิดสัดส่วน 15% จากรายได้รวม ขณะที่รายได้ค่าเช่านั้นจะทรงตัวจากราคาค่าเช่าที่ตั้งไว้

เปิดสื่อรักวาเลนไทน์

นายสมชาย ชีวสุทธานนท์ กรรมการผู้จัดการ บริษัท แม็ทชิ่งสตูดิโอ จำกัด เปิดเผยว่า หลังจากที่บริษัทฯได้ทุ่มงบลงทุนกว่า 120 บาท ในการติดตั้งฮาร์ดแวร์ทั้งสยามเซ็นเตอร์และสยามดิสคัฟเวอรี่ ล่าสุดบริษัทฯได้เปิดตัวโครงการ Live Media สื่อรักในศูนย์การค้าแห่งแรกของไทย ซึ่งเปิดตัวในวันวาเลนไทน์ปีนี้ โดยเป็นสื่อที่ผู้บริโภคสามารถส่งข้อความไปยังหมายเลข 4554595 ส่งข้อความละ 4 บาทผ่านสื่อไฮเทค ชีสมีเดีย ซึ่งเป็นอินเทอร์แอคทีฟทีวี ซึ่งข้อความจะไปปรากฏบนจอแอลอีดี คาดว่าหลังจากที่เปิดตัวโครงการนี้แล้ว จะได้รับความสนใจจากกลุ่มลูกค้าวัยรุ่นอินเทรนด์อย่างมาก คาดว่าจะมีการส่งข้อความประมาณ 50,000 ข้อความ ในวันเสาร์-อาทิตย์ และ 15,000 ข้อความในวันธรรมดา และจะมีจำนวนการส่งเอสเอ็มเอสเพิ่มขึ้น 20% ต่อวัน


กลับสู่หน้าหลัก

Creative Commons License
ผลงานนี้ ใช้สัญญาอนุญาตของครีเอทีฟคอมมอนส์แบบ แสดงที่มา-ไม่ใช้เพื่อการค้า-ไม่ดัดแปลง 3.0 ประเทศไทย



(cc) 2008 ASTVmanager Co., Ltd. Some Rights Reserved.