นีโอสยายปีกต่างประเทศรับธุรกิจจัดงานแฟร์เฟื่อง


ผู้จัดการรายวัน(2 กุมภาพันธ์ 2550)



กลับสู่หน้าหลัก

นีโอ ในเครือ เอ็น.ซี.ซี. ลุยขยายเครือข่ายธุรกิจจัดงานในต่างประเทศ เวียดนาม จีน อินเดีย รับตลาดจัดงานบูม คาดปีนี้บริษัทฯ จะมีรายได้เติบโต 20% ส่วนตลาดในไทยล่าสุดจัดงานเวดดิ้งแฟร์

เรืออากาศโท กมลนัย ชัยเฉนียน กรรมการบริหาร บริษัท เอ็น.ซี.ซี. เอ็กซิบิชั่น ออกาไนเซอร์ จำกัด (นีโอ) ในเครือ เอ็น.ซี.ซี. กรุ๊ป เปิดเผยว่า แผนการดำเนินธุรกิจในปีนี้บริษัทฯ จะขยายสาขาเพิ่มไปในต่างประเทศ โดยจะขยายไปยัง 3 ประเทศ คือ เวียดนาม, จีน และ อินเดีย โดยจะใช้งบการลงทุนแต่ละประเทศดังนี้คือ ประเทศเวียดนาม 10 ล้านบาท ประเทศจีน 20 ล้านบาท และประเทศอินเดีย 20 ล้านบาท

ในปีนี้บริษัทฯ จะมีการจัดงานอย่างต่อเนื่องทั้งงานใหม่และงานเก่า ซึ่งเมื่อรวมกับการขยายสาขาในต่างประเทศแล้ว คาดว่าจะทำให้ผลประกอบการปีนี้มีอัตราการเติบโตอยู่ที่ 15-20% เพิ่มขึ้นจากปีที่แล้ว โดยจะใช้งบการตลาด ประมาณ 30-35 ล้านบาท ซึ่งเป็นงบประมาณที่สูงขึ้นจากปีที่แล้ว 10% โดยงบประมาณตลาดของปีที่แล้วใช้ไปทั้งสิ้น 25-27 ล้านบาท

สำหรับการแข่งขันสำหรับธุรกิจประเภทออกาไนเซอร์นั้น เป็นธุรกิจที่ค่อนข้างจะมีการแข่งขันกันอย่างรุนแรง แต่เนื่องจากบริษัทฯ มีการจัดงานที่สม่ำเสมอและประสบความสำเร็จจึงทำให้บริษัทฯ มีอัตราการเติบโตอยู่ในเกณฑ์ที่ดี ถึงแม้จะประสบกับปัญหาสถานการณ์ความไม่มั่นคงที่เกิดขึ้นในปลายปีที่ผ่านมา แต่บริษัทฯ ก็ได้รับผลกระทบเป็นระยะสั้นเท่านั้น

สำหรับงาน Wedding Fair 2007 ที่จะจัดขึ้นในวันที่ 31 พฤษภาคม- 3 มิถุนายน 2550 ที่ศูนย์การประชุมแห่งชาติสิริกิติ์ ครั้งนี้เป็นครั้งที่ 14 นับเป็นงานที่ได้จัดต่อเนื่องกันอย่างยาวนานที่สุด เนื่องจากได้รับการตอบรับที่ดีเสมอมา วัตถุประสงค์และเป้าหมายของการจัดงานในครั้งนี้ ก็เพื่อส่งเสริมและขยายฐานการตลาดของทางด้านผลิตภัณฑ์ และบริการที่เกี่ยวกับงานด้านมงคลสมรส

โดยเปิดโอกาสให้ผู้ประกอบการได้แนะนำสินค้าและบริการให้ถึงกลุ่มเป้าหมายได้อย่างโดยตรง และได้อย่างครบวงจร สะดวกรวดเร็ว ภายใต้คอนเซ็ป “One Stop Service” ซึ่งตอบสนองแก่พฤติกรรมของคู่รักในปัจจุบันที่ต้องการความแปลกใหม่ และแตกต่าง

ในส่วนของผู้ประกอบการที่จะเข้าร่วมงานในปีนี้ มีแนวโน้มที่เพิ่มขึ้น ซึ่งในปีนี้มีผู้เข้าร่วมแสดงในงานมากกว่า 120 บริษัทจากทั่วประเทศ บนพื้นที่กว่า 5,000 ตารางเมตร คาดว่าจะมีผู้เข้าชมงานมากถึง 20,000 คน ซึ่งบริษัทฯใช้งบลงทุนในการจัดงานครั้งนี้กว่า 10 ล้านบาท และใช้งบการตลาดในด้านการประชาสัมพันธ์งานอีก 5 ล้านบาท ซึ่งเป็นตัวเลขที่สูงขึ้นจากปีที่แล้ว

สำหรับภาพรวมของตลาดธุรกิจการจัดงาน บริษัทฯ มีส่วนแบ่งทางการตลาดอยู่อันดับที่ 4 ส่วนภาพรวมของการจัดงานนิทรรศการและจัดประชุมในไทย ในปี 49 ที่ผ่านมา มีมูลค่า 30,000 ล้านบาท และคาดว่าในปี 50 นี้ จะมีอัตราการเติบโตประมาณ 5-10%


กลับสู่หน้าหลัก

Creative Commons License
ผลงานนี้ ใช้สัญญาอนุญาตของครีเอทีฟคอมมอนส์แบบ แสดงที่มา-ไม่ใช้เพื่อการค้า-ไม่ดัดแปลง 3.0 ประเทศไทย



(cc) 2008 ASTVmanager Co., Ltd. Some Rights Reserved.