บอดี้เชพเบรกแผนลงทุนQ1


ผู้จัดการรายวัน(31 มกราคม 2550)



กลับสู่หน้าหลัก

นางปราณี สืบวงศ์ลี กรรมการผู้จัดการ บริษัท บอดี้เชพ คอร์ปอเรชั่น จำกัด กรุ๊ป จำกัด เปิดเผยว่า บริษัทฯต้องทบทวนแผนการขยายสาขาใหม่ ซึ่งอาจจะต้องชะลอแผนการลงทุนไว้ก่อน เนื่องจากสภาวะเศรษฐกิจทางการเมือง ร่วมทั้งความวุ่นวายที่เกิดขึ้นในช่วงที่ผ่านมา ทำให้บริษัทฯจำเป็นต้องหยุดและชะลอการขยายสาขา เพื่อรอดูสถานการณ์ทางการเมืองและเศรษฐกิจอีกครั้ง ทั้งนี้บริษัทฯจะชะลอแผนการลงทุนประมาณ 2 เดือน หลังจากมีเหตุการณ์ระเบิดในกรุงเทพฯ โดยจะเริ่มแผนการลงทุนขยายสาขาและทำตลาดอย่างจริงจังตามแผนได้ในช่วงไตรมาสที่ 2 เป็นต้นไป

ทั้งนี้ ตามแผนที่วางไว้ บริษัทฯจะขยายสาขาในปีนี้ 4-5 สาขาโดยใช้งบประมาณในการขยายสาขาเฉลี่ย ประมาณ 15 ล้านบาท ทั้งในกรุงเทพฯและต่างจังหวัด โดยจะพุ่งเป้าไปในพื้นที่จังหวัดที่เป็นเมืองท่องเที่ยว รวมทั้งจะมีการทำตลาด บอดี้เชพ ฟอร์ เม็น อย่างจริงจังในปีนี้ หลังจากเริ่มให้บริการสาขาแรกที่อาคารชินวัตร 3 ในช่วงปลายปีที่ผ่านมา และเปิดตัวสาขาใหม่ ที่พระราม 3 ในกลางเดือนที่ผ่านมา ซึ่งได้รับการตอบรับเป็นอย่างดีจากกลุ่มลูกค้าผู้ชาย โดยในปีนี้มีแผนจะขยายบอดี้เชพ ฟอร์ เม็น อีก 2 สาขา จากจำนวนสาขาที่จะขยายทั้งหมด 4-5 สาขา เพื่อเป็นช่องทางให้กับลูกค้ากลุ่มเป้าหมาย

ด้านแผนการทำตลาดในปี 2550 นี้ บริษัทฯจะใช้กลยุทธ์ทางการตลาดใหม่ ภายใต้ชื่อ 5 เอสประกอบด้วย 1. Safety (ความปลอดภัย) 2. Satisfaction (เห็นผลจริง) 3. Scientific (กระบวนการลดน้ำหนักและสัดส่วนต้องทำตามหลักวิทยาศาสตร์) 4.Specialist (ผู้ให้บริการต้องผ่านการอบรมและมีใบประกาศนียบัตรรองรับ) และ 5.Sufficiency (วิธีการให้บริการลดน้ำหนักต้องยึดหลักพอเพียง)

ปัจจุบันลูกค้าในส่วนที่เป็นผู้ชายส่วนใหญ่ที่เข้ามาใช้บริการเป็นกลุ่มผู้บริหารระดับสูง โดยส่วนใหญ่นิยมใช้บริการโปรแกรมลดหน้าท้องและลดพุง ต่างจากกลุ่มผู้หญิงที่นิยมลดส่วนเกินเฉพาะจุด เช่น ต้นแขน ต้นขา หน้าท้อง สะโพก เอว เป็นต้น นอกจากนี้ยังพบอีกว่า กลุ่มลูกค้าผู้ชายส่วนใหญ่ มียอดใช้จ่ายในการใช้บริการต่อครั้งสูงถึง 50,000 -100,000 บาท ขณะที่กลุ่มผู้หญิง มีค่าใช้จ่ายที่ประมาณ 25,000 บาทขึ้นไป

นางปราณี กล่าวต่อว่า อย่างไรก็ตามแม้จะชะลอการขยายสาขา แต่บริษัทฯมีแผนเปิดตัวผลิตภัณฑ์ใหม่อีกประมาณ 2 ชนิด ในไตรมาส 2 โดยเป็นโปรแกรมการลดน้ำหนักและล้างสารพิษ เพื่อป้องกันการแก่ก่อนวัย โดยผลิตภัณฑ์ที่บอดี้เชพ จะส่งมาทำตลาดนั้นถือเป็นครั้งแรกในตลาด เนื่องจากยังไม่มีผู้ประกอบการรายใดทำตลาดมาก่อน ซึ่งปัจจัยจากการที่บริษัทฯให้ความสำคัญกับการพัฒนาผลิตภัณฑ์ใหม่ รวมทั้งแผนการขยายสาขาช่วงไตรมาสสอง ทำให้ตั้งเป้าอัตราการเติบโตในสิ้นปีที่ 25% เพิ่มขึ้นจาก 22-23%

ในปีที่ผ่านมา แต่หากสถานการณ์ยังไม่มีความแน่นอน บริษัทฯจำเป็นต้องมีการปรับเปลี่ยนหรือชะลอแผนการลงทุนออกไป ทำให้บริษัทฯอาจมีการปรับเป้าหมายใหม่ ซึ่งคาดว่าจะมีการเติบโตเพิ่มขึ้นอย่างน้อยไม่ต่ำกว่า 15% อย่างแน่นอน

สำหรับความคืบหน้าเรื่องการทำตลาดส่งออก บริษัทฯเริ่มส่งออกผลิตภัณฑ์กระชับสัดส่วน และผลิตภัณฑ์ลดน้ำหนัก ไปยังประเทศอินโดนีเซียบ้างแล้ว และต่อจากนี้บริษัทฯยังอยู่ระหว่างการเจรจากับประเทศฮ่องกง เพื่อส่งผลิตภัณฑ์เข้าไปจำหน่าย โดยคาดว่าจะสามารถสรุปผลการเจรจาได้ภายในปี 2550 อีกทั้งด้านเทคโนโลยีของบริษัทฯก็มีนักธุรกิจประเทศญี่ปุ่นได้ให้ความสนใจเข้ามาดูงานที่บริษัทฯอีกด้วย ทั้งนี้ในการขยายตลาดไปยังต่างประเทศบริษัทฯจะทำการตั้งตัวแทนจำหน่ายประเทศละ 1 ราย เพื่อเป็นผู้กระจายสินค้าในแต่ละประเทศ


กลับสู่หน้าหลัก

Creative Commons License
ผลงานนี้ ใช้สัญญาอนุญาตของครีเอทีฟคอมมอนส์แบบ แสดงที่มา-ไม่ใช้เพื่อการค้า-ไม่ดัดแปลง 3.0 ประเทศไทย



(cc) 2008 ASTVmanager Co., Ltd. Some Rights Reserved.